ค่า Diff ของ Bitcoin ทุบสถิติ ATH ครั้งใหม่
ทาง BTC.com คาดว่าระดับความยากในการขุดจะพุ่งขึ้นสูงถึง 26.70 ล้านล้านได้ในอีก 12 วันข้างหน้า หลังค่า Diff ของ Bitcoin เพิ่มขึ้นจนทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่
ทาง BTC.com คาดว่าระดับความยากในการขุดจะพุ่งขึ้นสูงถึง 26.70 ล้านล้านได้ในอีก 12 วันข้างหน้า หลังค่า Diff ของ Bitcoin เพิ่มขึ้นจนทำสถิติสูงสุดครั้งใหม่
เครือข่าย Bitcoin (BTC) ได้บันทึกสถิติ All-time high (ATH) ของค่า Network Difficulty (Diff) หรือระดับความยากในการขุดคริปโตครั้งใหม่ไว้ที่ 26.643 ล้านล้านพร้อมกับค่าเฉลี่ยอัตรา Hash rate ในระดับ 190.71 Exahash ต่อวินาที (EH/s) แสดงให้เห็นถึงแรงสนับสนุนจำนวนมากจากคอมมิวนิตีในยามที่ตลาดยังคงตกลงอย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลให้ค่า Diff ของ Bitcoin กลับมาสูงขึ้นอีกครั้ง
ข้อมูลข้างต้นยังได้ระบุเพิ่มเติมว่าผู้สนับสนุนในชื่อ F2Pool ให้อัตรา Hash rate พุ่งขึ้นสูงที่สุดนั้นได้ดำเนินการขุด BTC ไปได้ในจำนวน 88 BTC Block ตามมาด้วย Poolin ที่จำนวน 76 Block ด้วยกัน ซึ่งหลังจากวันที่ 22 มกราคม ค่าธรรมเนียมเฉลี่ยต่อการทำธุรกรรม 1 รายการอยู่ที่ 1.58 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งนับว่ามีมูลค่าน้อยกว่าระดับสูงสุดเดิมที่ 62.78 ดอลลาร์สหรัฐในเดือนเมษายน ปี 2021
BTC.com คาดการณ์ว่า ค่า Diff ของ Bitcoin จะเพิ่มขึ้นอีกใน 12 วัน
ระดับความยากในการขุด Bitcoin บนเครือข่ายนั้นสามารถพิจารณาได้จากพลังในการคำนวณ (Computational power) ที่มีความเกี่ยวข้องกับค่า Diff ที่ใช้ในการยืนยันรายการการทำธุรกรรม และการขุด BTC โดยอ้างอิงจากข้อมูลของ Blockchain.com ก่อนหน้านี้ระบุว่าค่า Diff ในช่วงเดือนพฤษภาคม และเดือนกรกฏาคมปี 2021 ของเหรียญดังกล่าวลดลงอย่างมาก เนื่องมาจากปัจจัยหลายประการ ซึ่งรวมไปถึงการแบนธุรกิจขุดคริปโตในสาธารณรัฐประชาชนจีนด้วยเช่นกัน ซึ่งส่งผลให้บรรดานักขุดชาวจีนต้องอพยพเพื่อไปดำเนินการจัดตั้งเหมืองในประเทศอื่น
อย่างไรก็ตามค่า Diff ได้กลับมาฟื้นตัวขึ้นมากนับตั้งแต่เดือนสิงหาคม ปี 2021 ทำให้เครือข่าย BTC สามารถสร้างสถิติสูงสุดตลอดกาลครั้งใหม่ได้ที่ 26.643 ล้านล้านเมื่อวันเสาร์ที่ 22 มกราคม ที่ผ่านมา ทั้งนี้ทางด้าน BTC.com ก็ได้ออกมาคาดการณ์ว่าเครือข่าย Bitcoin จะมีระดับความยากในการขุดมากขึ้นกว่าเดิมหากที่ค่า Diff พุ่งขึ้นสูงถึง 26.70 ล้านล้านได้สำเร็จในอีก ซึ่งจะกลายเป็นการทุบสถิติสูงสุดตลอดกาลอีกครั้งนั่นเอง
นักยุทธศาสตร์ Bloomberg เชื่อว่า Bitcoin จะกลับมาเฉิดฉายได้อีกครั้ง
แม้จะมีแรงกดดันจากรัฐบาลกลางจากการออกนโยบายการเงินเกี่ยวกับคริปโตเคอเรนซีที่เข้มงวดมากขึ้น แต่ทว่า Mike McGlone นักยุทธศาสตร์ผู้เชี่ยวชาญด้านสินค้าโภคภัณฑ์แห่ง Bloomberg ได้ให้คำแนะนำว่า BTC มีโอกาสที่จะกลับขึ้นมาเป็นเหรียญอันดับ 1 อีกครั้ง เนื่องจากนักลงทุนต่างก็ตระหนักรู้ดีถึงมูลค่าของเหรียญดังกล่าวในฐานะสินทรัพย์สำรองรูปแบบดิจิทัล นอกจากนี้ McGlone ยังเชื่อว่า Bitcoin นั้นจะให้ผลตอบแทนได้ดีในสภาพแวดล้อมที่มีสิ่งเร้าน้อย ซึ่งผู้คนมักจะมองว่าปัจจัยเหล่านี้เป็นข้อเสียของสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูง
“คริปโต เป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง และมีการเก็งกำไรมากที่สุดประเภทหนึ่ง หากความเสี่ยงของสินทรัพย์ลดลง ก็จะสามารถช่วย Fed ต่อสู้กับปัญหาภาวะเงินเฟ้อที่เกิดขึ้นได้ โดย Bitcoin ได้กลายเป็นสินทรัพย์สำรองระดับโลกที่อาจได้รับประโยชน์จากสถานการณ์เหล่านี้ได้เช่นกัน”