รัฐเนบราสกาของสหรัฐฯเตรียมร่างกฎหมายให้ธนาคารรับฝากคริปโต

สถาบันการเงินและคริปโต

เมื่อพูดถึงทั้งสองอย่างนี้แล้วส่วนใหญ่มักจะเป็นสิ่งที่มีประเด็นขัดแย้งกันอยู่เสมอ เนื่องจากเดิมแล้วธุรกิจด้านการเงินนั้นเป็นธุรกิจที่ได้รับการกำกับดูแลและควบคุมโดยเฉพาะเนื่องจากเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินของประชาชนจำนวนมาก นอกจากนั้นแล้วยังเป็นหนึ่งในเครื่องมือสำคัญทางเศรษฐกิจของรัฐในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยเพื่อขับเคลื่อนหรือชะลอกิจกรรมทางเศรษฐกิจนั่นเอง

ในทางกลับกันวงการคริปโตนั้นเกิดขึ้นมาเพื่อปลดแอกประชาชนจากการอยู่ภายใต้กรอบที่รัฐจำกัดไว้และกรอบของคนกลางทางการเงินอย่างธนาคารพาณิชย์ โดยมีอิสระในการดำเนินธุรกรรมระหว่างกันมากขึ้นโดยมีต้นทุนในการดำเนินการที่ต่ำมากและยังโปร่งใส่ต่อผู้ใช้งานมากกกว่าอีกด้วย ซึ่งการเกิดขึ้นของเงินดิจิทัลที่ไม่สามารถควบคุมได้นี้ได้ส่งผลกระทบต่อนโยบายทางการเงินของรัฐบาลทั่วโลกจนต้องออกนโยบายมาเพื่อควบคุมกิจกรรมที่เกี่ยวข้องและจำกัดการเข้าถึงสกุลเงินเหล่านี้

อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าความเห็นต่อสกุลเงินคริปโตนั้นจะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลาเนื่องจากความรู้ความเข้าใจต่อวงการที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการเกิดขึ้นของผลิตภัณฑ์ทางด้านคริปโตใหม่ ๆ ที่เข้ามาช่วยเพิ่มความหลากหลายให้กับบริการทางการเงิน ช่องทางในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและโอกาสในการลงทุนที่เพิ่มขึ้น ตลอดจนเทคโนโลยีที่สามารถนำมาใช้กับตลาดการเงินเดิมเช่นBlockchain Solution ที่ให้สามรถทำธุรกรรมระหว่างประเทศมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิมที่ใช้ SWIFT เป็นต้น

กฎหมายใหม่ของรัฐเนบราสกา

ในช่วงวันที่ 21 มกราคมที่ผ่านมานั้นนาย Mike Flood สมาชิกสภาผู้แทนฯของรัฐเนบราสกาได้เสนอร่างกฎหมายใหม่เกี่ยวกับการเงินทั้งหมดสองฉบับ คือ ร่างกฎหมายธุรกรรมเกี่ยวกับสินทรัพย์ดิจิทัล และร่างกฎหมายนวัตกรรมทางการเงินของรัฐเนบราสกา โดยตัวสามชิกผู้แทนเองได้ออกมาให้ความเห็นว่าตัวเขาคาดหวังให้รัฐเนบราสกานั้นเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยีทางการเงินและเป็น Hub สำหรับกิจกรรมทางด้านคริปโต

ร่างกฎหมายทั้งสองนั้นเป็นการวางหลักเกณฑ์ให้ธนาคารพาณิชย์สามารถที่จะรับฝากและดูแลทรัพย์สินประเภทสกุลเงินคริปโตและสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ ได้ ทั้งยังมีการเตรียมจัดตั้งสถาบันการเงินสำหรับดำเนินการเกี่ยวกับสกุลเงินคริปโตโดยเฉพาะอีกด้วย โดยที่ร่างกฎหมายดังกล่าวนั้นจะวางหลักให้ทั้งบทนิยาม การดำเนินการ การกำกับดูแล รวมถึงหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง

ร่างกฎหมายทั้งสองฉบับนี้หากมีการพิจารณาเห็นชอบแล้วจะเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่แก่วงการกฎหมายและวงการธนาคารสำหรับการดำเนินการด้านคริปโตเนื่องจากกิจกรรมที่เกิดขึ้นในตลาดคริปโตนั้นถูกปฏิบัติเสมือนกับว่าเป็นกิจกรรมนอกกฎหมายมาโดยตลอดจากแนวปฎิบัติของธนาคารเหล่านี้ ทั้งยังเป็นการช่วยกระจายโอกาสให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อยและบริษัทด้านเทคโนโลยีหน้าใหม่ที่ต้องการเข้าถึงแหล่งเงินทุนและตลาดใหม่ ๆ ได้