เผยประเทศที่กระหายตลาด NFT และต่อต้าน NFT
สืบเนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา ตลาด NFT มีมูลค่าลดลงอย่างน่าใจหาย เพียงแค่ระยะเวลา 30 วัน ตลาด NFT มีมูลค่าลดลงมากถึง 63 % ด้วยกัน
![7tov35hnkao.jpg](https://cdn2.cryptosiam.com?url=https://api.cryptosiam.com/assets/10497f94-a0ad-4ac0-86c1-0d312a69e53c.jpg&width=1610)
สืบเนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา ตลาด NFT มีมูลค่าลดลงอย่างน่าใจหาย เพียงแค่ระยะเวลา 30 วัน ตลาด NFT มีมูลค่าลดลงมากถึง 63 % ด้วยกัน
สืบเนื่องจากในช่วงที่ผ่านมา ตลาด NFT มีมูลค่าลดลงอย่างน่าใจหาย เพียงแค่ระยะเวลา 30 วัน ตลาด NFT มีมูลค่าลดลงมากถึง 63 % ด้วยกัน อย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าเวลานี้ยังมีประชาชนหลายคนยังคงให้ความสนใจเกี่ยวกับตลาด NFT ตรงนี้อยู่
ประเทศที่สนใจตลาด NFT มากที่สุด
จากการสำรวจพบว่า ประเทศที่ให้ความสนใจในตลาด NFT มากที่สุดนั้น ประกอบไปด้วยประเทศสิงคโปร์, ฮ่องกง อย่างไรก็ตามยังมีการพบด้วยว่า ประเทศที่ให้ความสนใจในตลาด NFT น้อยที่สุดหรือมีแนวคิดต่อต้านตลาด NFT ก็คือประเทศโปแลนด์ เช่นเดียวกันยังมีการสำรวจพบว่า เกมประเภท Play to Earn อย่าง Axie Infinity เป็นเกมที่มีผู้คนกว่า 112 ประเทศให้ความสนใจมากที่สุด
![Vbcvcwuyvym 3 1024x742.jpg](/assets/63cf4d47-22da-424f-a8e7-1a2bc598d297.jpg)
งานวิจัยนี้มีการตีพิมพ์โดย cashnetusa.com เรื่องนี้ทางนักวิจัยได้มีการสรุปประชากรทุกประเทศเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2022 และมีการประเมินยอดการค้นหาประชากรกว่า 1 ล้านโดยใช้เครื่องมืออย่าง Ahrefs tool นอกจากนั้นแล้วทางนักวิจัยได้มีการใช้เครื่องมือในการตรวจสอบข้อความบน Twitter เกี่ยวกับตลาด NFT จากการสำรวจทั้งหมดพบว่า ประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศที่มีความกระหายต่อตลาด NFT มากที่สุด มีการค้นหาเกือบ 2 หมื่นต่อประชากร 1 ล้านคนในแต่ละเดือน
ประเทศที่ต่อต้าน NFT มากที่สุด
ที่น่าสนใจก็คือ ประเทศมอนเตเนโกรเริ่มมีความสนใจในตลาด NFT มากขึ้น โดยพบจากข้อความทวีตผ่านทาง Twitter กว่า 862 ทวีตจากทั้งหมด 1000 ทวีต อย่างไรก็ตามประเทศโปแลนด์เป็นประเทศที่ต่อต้าน NFT มากที่สุด สอดคล้องกับงานวิจัยที่ระบุว่า ทุก ๆ การทวีตข้อความจาก 227 จากทั้งหมด 1000 ทวีตนั้น ส่วนใหญ่มีการแสดงความเห็นเชิงลบเกี่ยวกับตลาด NFT เป็นส่วนใหญ่
งานวิจัยได้ระบุเพิ่มเติมว่า ตลาด NFT เป็นตลาดที่มีความเชื่อมโยงกับสังคมและบริบทแวดล้อมที่ค่อนข้างมีความแปลกประหลาด และยังคงเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่า ตลาดแห่งนี้จะมีความยั่งยืนมากแค่ไหน