Michael Saylor มอง Bitcoin อาจเติบโตขึ้น 2 ถึง 10 เท่า!
Michael Saylor มอง! Bitcoin มีความเป็นไปได้ที่จะเติบโตมากกว่าเดิม 2 ถึง 10 เท่า ภายใน 12 เดือนข้างหน้า - หลังเกิดการ Halving ครั้งต่อไป
Michael Saylor มอง! Bitcoin มีความเป็นไปได้ที่จะเติบโตมากกว่าเดิม 2 ถึง 10 เท่า ภายใน 12 เดือนข้างหน้า - หลังเกิดการ Halving ครั้งต่อไป
ล่าสุดในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา Michael Saylor หนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัท MicroStrategy ได้ออกมาเผยว่า Bitcoin มีความเป็นไปได้ที่จะเติบโตมากขึ้นถึง 10 เท่าภายในปี 2024
โดยระหว่างการสนทนาในงาน ‘Australia Crypto Convention’ เมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน Michael Saylor ได้เผยความเห็นนี้หลังจากถูกถามเกี่ยวกับภาพรวมของ Bitcoin และสภาพแวดล้อมในอุตสาหกรรมคริปโตในอีก 4-5 ปีข้างหน้า
เข้ากระแสหลัก!
Saylor กล่าวถึงมุมมองในระหว่างปี 2020 ถึง 2024 ว่า Bitcoin จะถูกเปลี่ยนจาก ‘สินทรัพย์นอกคอกที่ไม่ได้ถูกควบคุม’ กลายมาเป็น ‘หนึ่งในตัวเลือกการลงทุนกระแสหลักของสถาบันใหญ่ๆ’ และนอกจากนี้ยังกล่าวเสริมว่าในอีกไม่ช้า ตลาดของเหรียญจะมีการเปลี่ยนแปลงในด้านอุปสงค์และอุปทานครั้งสำคัญ
ผมว่าในอีก 12 เดือนต่อจากนี้จะเกิดเรื่องใหญ่ขึ้นเพราะความต้องการของเหรียญจะเพิ่มขึ้นมากกว่าเดิมถึง 2 เท่าหรือ 3 เท่าหรือไปถึง 10 เท่าเลยทีเดียว ขณะที่อุปทานในตลาดจะถูกลดลงถึงครึ่งหนึ่งในช่วงเดือนเมษายน จากการ Halving ครั้งต่อไป ซึ่งหมายความว่าเหรียญจะทำราคาสูงกว่าเดิม
นอกจากนี้ Saylor ยังคาดการณ์สถานการณ์ระหว่างปี 2024-2028 ว่า Bitcoin จะยังสามารถเติบโตขึ้นไปได้อีกไกล เนื่องจากตัวตนของมันได้กลายเป็นที่ยอมรับในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและธนาคารขนาดใหญ่ทั่วโลก
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว