เปิดตัว 'Meta Quest Pro' แว่น VR รุ่นใหม่สุดล้ำจาก Oculus! แต่พี่จะแพงเกินไปไหม?
เปิดตัวแล้ว! 'Meta Quest Pro' แว่น VR สุดล้ำจาก Meta-Oculus พร้อมระบบตรวจจับสีหน้าแบบ Real-Time, Mixed Reality ที่ราคาอาจทำให้คุณอยากหันหน้าหนี
เปิดตัวแล้ว! 'Meta Quest Pro' แว่น VR สุดล้ำจาก Meta-Oculus พร้อมระบบตรวจจับสีหน้าแบบ Real-Time, Mixed Reality ที่ราคาอาจทำให้คุณอยากหันหน้าหนี
วันที่ 11 ตุลาคม 2565 Meta เปิดตัวแว่น VR ใหม่ในชื่อ 'Meta Quest Pro' สนนราคา 57,000 บาท ($1,499) ในสหรัฐฯ ราคาสูงกว่า 'Quest 2' ถึง 4 เท่า
โดย Meta Quest Pro มีฟีเจอร์น่าสนใจอย่างเช่น
- ระบบตรวจจับสีหน้า อย่างเช่นการยักคิ้ว หรือดวงตา
- ฟีเจอร์ Mixed Reality ที่ทำให้สามารถแสดงผลภาพจากคอมพิวเตอร์ทับซ้อนลงบนโลกภายนอกได้
นอกจากนี้ก็เป็นฟีเจอร์ที่พัฒนามาจากรุ่นก่อน (Quest 2) อย่างหน้าจอแสดงผลที่ชัดขึ้น ทำให้ผู้ใช้สามารถอ่านตัวหนังสือได้แม้จะขนาดเล็กแค่ไหน หรือ Controller รุ่นใหม่ที่จะทำให้การควบคุมในโลก Metaverse ทำได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น
'Mark Zuckerberg' ซีอีโอและผู้ก่อตั้ง Meta จะกล่าวว่าการเปิดตัวในครั้งนี้ถือเป็น "ก้าวสำคัญสำหรับอุตสาหกรรม VR"
แต่นักวิเคราะห์หลายสำนักก็มองว่าราคาเปิดตัวที่ค่อนข้างสูงของมันจะทำให้กลุ่มลูกค้าหลักอาจจะไม่ใช่ตลาดผู้ใช้งานทั่วไป แต่จะเป็นกลุ่มลูกค้าธุรกิจ หรือกลุ่มที่ใช้ในการทำงานอย่างเช่นดีไซน์เนอร์หรือสถาปนิกเสียมากกว่า
อย่างไรก็ตาม ก็เป็นที่ค่อนข้างชัดเจนว่าบริษัทกำลังจะเข้ามาเจาะลูกค้ากลุ่ม High-end มากขึ้น ซึ่งก็เป็นการแยกไลน์การผลิตออกเป็น 2 สายตามที่มีการประกาศไปภายในวันเดียวกันกับที่เปิดตัว
แบตอยู่ได้แค่ 1-2 ชั่วโมง!?
อ้างอิงจากเว็ปไซต์ Reviewgeek ระบุว่าในการเปิดตัว Meta ยืนยันว่าแว่น VR รุ่นใหม่นี้จะสามารถใช้งานได้ราว 1-2 ชั่วโมงต่อชาร์จเท่านั้น ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น้อยลงไปอีกเมื่อเทียบกับ Quest 2 ที่อยู่ได้ 2-3 ชั่วโมง
ทั้งนี้ทางบริษัทก็ระบุว่าผู้ใช้สามารถยืดการใช้งานแบตเตอร์รรี่ได้จากการปิดฟีเจอร์ Pro ต่างๆ อย่างเช่นระบบตรวจจับใบหน้า แต่ก็ไม่เป็นที่ชัดเจนว่าจะช่วยได้มากน้อยแค่ไหน
โดย Meta Quest Pro จะเปิดให้ Pre-order ได้ในวันที่ 25 ตุลาคมที่จะถึงนี้โดยตรงจาก Meta อย่างไรก็ตามอ้างอิงจากรายชื่อประเทศที่จะมีการจัดส่งสำหรับ Quest 2 ก็ไม่มีประเทศไทยอยู่ในรายชื่อ ดังนั้นจึงคาดว่าคงจะเช่นเดียวกันในรุ่นใหม่นี้ คงต้องมาติดตามกันต่อไปว่าจะมีผู้จัดจำหน่ายรายใดจะนำมาจำหน่ายในประเทศไทย