มาสเตอร์การ์ด เผยแผนแนวทาง คริปโต ในช่วงครึ่งปีหลัง 2021
CEO ของมาสเตอร์การ์ดได้สรุปแผนของบริษัทในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเกี่ยวกับคริปโต, stablecoin และสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางหรือ CBDC

CEO ของมาสเตอร์การ์ดได้สรุปแผนของบริษัทในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเกี่ยวกับคริปโต, stablecoin และสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางหรือ CBDC
CEO ของมาสเตอร์การ์ดได้สรุปแผนของบริษัทในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการเกี่ยวกับคริปโต, stablecoin และสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลางหรือ CBDC โดย CEO ประกาศว่าบริษัทต้องการมีบทบาทในด้านต่างๆที่กล่าวมาทั้งหมดเพราะเล็งเห็นว่ามันเป็นโอกาสเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล
มาสเตอร์การ์ดต้องการมีบทบาทในพื้นที่คริปโตทั้ง 3 รูปแบบ
บริษัทด้านการชำระเงินอย่างมาสเตอร์การ์ดได้อัปเดตแผนด้านการเงินดิจิทัลในระหว่างการประกาศเกี่ยวกับรายได้ของบริษัทในช่วงวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา Michael Miebach ซึ่งเป็น CEO ของมาสเตอร์การ์ดได้อธิบายว่าบริษัทต้องการมีบทบาทในคริปโตทั้งสามด้าน นอกเหนือจากสกุลเงินดิจิทัลอย่าง bitcoin แล้วบริษัทยังต้องการมุ่งเน้นไปที่ stablecoin ของภาคเอกชน และสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง โดย CEO ประกาศว่าบริษัทต้องการมีบทบาทในด้านต่างๆที่กล่าวมาทั้งหมดเพราะเล็งเห็นว่ามันเป็นโอกาสเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัล
We want to be playing a role across all of them … It’s obviously a vibrant space around digital currencies … This is a relevant technology. As a multi-rail player, we got to be in this space because people are looking for answers.
Michael Miebach (CEO ของมาสเตอร์การ์ด)
สำหรับสกุลเงินดิจิทัล Michael Miebach ได้อธิบายว่าทางบริษัทกำลังทำให้กระเป๋าเงินดิจิทัลเชื่อมต่อกับเครือข่ายของบริษัทได้อย่างไม่มีอุปสรรคใดๆผ่านโครงการนำร่องกับทาง Paxos, Circle และ Evolve Bank & Trust ได้ง่ายขึ้น ซึ่งทำให้การแปลงสกุลเงินดิจิทัลเป็นสกุลเงินทั่วไปได้ง่ายยิ่งขึ้น นอกจากนี้ทางมาสเตอร์การ์ดกำลังร่วมมือกับ Consensys ซึ่งเป็นบริษัทวิศวกรรมซอฟต์แวร์ Ethereum เพื่อเร่งพัฒนาแอปพลิเคชั่นและบริการคริปโตให้กับลูกค้า

ในส่วนของ Stablecoin นั้น มาสเตอร์การ์ดกำลังร่วมมือกับภาคเอกชนและหน่วยงานกำกับดูแลเพื่อสร้างนโยบายที่ดีของ Stablecoin ในภาคเอกชนและแก้ปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามกฎระเบียบที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข

ในระหว่างการพูดถึงผลประกอบการในไตรมาสที่ 1 ของบริษัท Michael Miebach พูดว่ามาสเตอร์การ์ดเตรียมพร้อมที่จะเปิดใช้งานเทคโนโลยีให้เครือข่ายของบริษัทสามารถพกพาเหรียญ stablecoin ให้เป็นสกุลเงินที่ใช้ชำระได้ โดยจะมีเกณฑ์การตัดสิน ได้แก่ การปฏิบัติตามกฎระเบียบ การคุ้มครองผู้บริโภค และความมั่นคง ส่วนสุดท้ายคือสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง เขาตั้งข้อสังเกตว่าธนาคารกลางจำนวนมากขึ้นกำลังสำรวจ CBDC ซึ่งรวมไปถึงธนาคารกลางยุโรปและธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ