นักเศรษฐศาสตร์แนะ ควรจำกัดการเข้าถึงยูโรดิจิทัล
นักเศรษฐศาสตร์มองทิศทางอนาคตของยูโรดิจิทัลเอาไว้ โดยพวกเขายืนกรานว่า มันมีความจำเป็นที่จะต้องจำกัดการเข้าถึงเพื่อปกป้องระบบการเงินที่มีอยู่แต่เดิม
นักเศรษฐศาสตร์มองทิศทางอนาคตของยูโรดิจิทัลเอาไว้ โดยพวกเขายืนกรานว่า มันมีความจำเป็นที่จะต้องจำกัดการเข้าถึงเพื่อปกป้องระบบการเงินที่มีอยู่แต่เดิม
นักเศรษฐศาสตร์หลายคนได้มีการประเมินทิศทางอนาคตของยูโรดิจิทัลเอาไว้ โดยพวกเขายืนกรานว่า มันมีความจำเป็นที่จะต้องจำกัดการเข้าถึงเพื่อปกป้องระบบการเงินที่มีอยู่แต่เดิม
ต้องจำกัดการเข้าถึงยูโรดิจิทัล
นักเศรษฐศาสตร์ได้เดินหน้าทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องของการจำกัดการฝากเงินด้วยยูโรดิจิทัลของธนาคารกลางยุโรปหรือ ECB โดยแนะนำว่า ประชาชนจะต้องทำการฝากเงินมากที่สุด €3,000 ยูโรต่อคน เช่นเดียวกันการเข้าถึงยูโรดิจิทัลนั้นทางธนาคารพาณิชย์จะต้องเดินหน้าไม่ให้ประชาชนเข้าถึงเงินยูโรดิจิทัลง่ายขึ้น เรื่องนี้ทางด้านผู้เชี่ยวชาญที่นำโดย Frank Smets ในฐานะที่เป็นหัวหน้าฝ่ายควบคุมกำกับเศรษฐกิจทั่วไปได้ทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้
เช่นเดียวกันทางนักเศรษฐศาสตร์พยายามคาดการณ์ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการออกสกุลเงินดิจิทัลต่ออุตสาหกรรมการธนาคารของประเทศต่าง ๆ ที่อยู่ในแถบยุโรป จากข้อมูลเชิงประจักษ์ชี้ให้เห็นว่า พวกเขาจะต้องคำนึงถึงหลักการประชาสัมพันธ์เกี่ยวกับแผนการของธนาคารกลางยุโรปเกี่ยวกับการออกสกุลเงินยูโรดิจิทัลให้ดี
ควรมีการใช้ในระดับที่เหมาะสม
ในรายละเอียดของงานวิจัยส่วนหนึ่งได้มีการตั้งข้อสรุปว่า ยูโรดิจิทัลควรที่จะมีการใช้อยู่ที่ระหว่าง 15-45 % เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ รวมไปถึงสถานการณ์ภาวะเงินเฟ้อในประเทศแถบยุโรปที่ต้องมารับมือด้วย สำหรับเหตุผลที่ว่าจะต้องทำการฝากเงินสูงสุดที่ €3,000 ยูโรต่อคนนั้น เป็นหลักประกันที่จะต้องแน่ใจว่า เงินกระดาษจะยังคงมีการส่งเสริมไปใช้ในการกู้ยืมอยู่
หากว่าธนาคารกลางยุโรปได้มีการออกเงินดิจิทัลโดยที่ไม่มีการคำนึงถึงผลกระทบของการใช้เงินดิจิทัลอย่างเป็นวงกว้างมากขึ้น จะส่งผลกระทบต่อธนาคารที่อื่น ๆ ในเชิงมูลค่าและการกู้ยืมเงิน คาดว่าเงินยูโรดิจิทัลจะถูกได้รับการยอมรับอย่างเป็นวงกว้างในเรื่องของการความสะดวกในการทำธุรกรรม รวมไปถึงค่าธรรมเนียมในการโอนเงินที่ถูกกว่ารูปแบบเดิม