Ledger เปิดตัวบัตรเดบิตคริปโตแล้ว
Ledger เปิดให้บริการบัตรเดบิตคริปโตในชื่อ Crypto Life card ที่สามารถชำระค่าใช้จ่ายด้วยคริปโต และ เปิดวงเงินสินเชื่อโดใช้สกุลเงินดิจิทัลเป็นหลักประกัน
Ledger เปิดให้บริการบัตรเดบิตคริปโตในชื่อ Crypto Life card ที่สามารถชำระค่าใช้จ่ายด้วยคริปโต และ เปิดวงเงินสินเชื่อโดใช้สกุลเงินดิจิทัลเป็นหลักประกัน
ผู้ผลิต และ ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน Hardware Wallet ชื่อดังอย่าง Ledger เปิดตัวบัตรเดบิตคริปโตใหม่ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถซื้อสินค้า และ บริการด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลที่พวกเขาถือครองอยู่ได้ ซึ่งนับว่าเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้คนหันมายอมรับระบบการชำระเงินด้วยคริปโตเพิ่มมากขึ้น
บัตรเดบิต Crypto Life card หรือ CL ได้ถูกนำเสนอผ่านที่ประชุม Op3n ที่ถูกจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 9 ธันวาคม โดยจากการนำเสนอที่ผ่านมาทางบริษัทได้ระบุว่าบัตรเดบิตใบนี้สามารถเชื่อมโยงเข้ากับแอปพลิเคชัน Ledger Live ที่จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถซื้อ, แลกเปลี่ยน และ ลงทุนกับสกุลเงินดิจิทัลได้ผ่านคอมพิวเตอร์ และ โทรศัพท์มือถือ ซึ่งบัตร CL ใบนี้ยังสามารถรองรับสกุลเงินดิจิทัลหลายสกุลด้วยกัน ได้แก่ Bitcoin (BTC), Ether (ETH) รวมไปถึง Stablecoin อย่าง USD Coin (USDC) และ Tether (USDT)
บัตรเดบิต CL มีกำหนดเปิดตัวในช่วงไตรมาสแรกของปี 2022 ในประเทศสหราชอาณาจักร, สาธารณรัฐฝรั่งเศส และ สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เป็นที่แรก ต่อจากนั้นในไตรมาสที่ 2 จึงจะถูกนำไปเปิดตัวในประเทศสหรัฐอเมริกา
Ledger เปิดตัวบัตรเดบิตคริปโตที่สามารถเปิดวงเงินสินเชื่อได้
ผู้ที่ได้ครอบครองบัตรเดบิตสามารถแปลงคริปโตให้อยู่ในรูปของเงินสดได้ทันที เพื่อใช้ในการชำระค่าใช้จ่าย และ เปิดวงเงินสินเชื่อ (LOC) โดยใช้สินทรัพย์ดิจิทัลเป็นหลักประกัน ซึ่งการเปิดวงเงินสินเชื่อนั้นผู้ใช้งานสามารถใช้บัตรเดบิตได้ด้วยการฝากเช็คเงินเดือน และ เลือกสัดส่วนรายได้ที่ต้องการจะเปลี่ยนให้เป็น BTC และ ETH โดยไม่จำเป็นต้องขายคริปโตก่อน
โอกาสแห่งการเติบโตของอุตสาหกรรมคริปโตกำลังพัฒนาไปอีกขั้นหนึ่งแล้ว
การจู่โจมเปิดตัวบัตรเดบิตออกสู่ตลาดของ Ledger นั้นเป็นไปตามกลยุทธ์การผลักดันให้เกิดการนำระบบการเงินแบบ Decentralized หรือ DeFi ไปใช้ในตลาด นอกจากนี้ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาทางบริษัทก็ได้ฝากผลงานชื่อดังไว้มากมาย เช่น Hardware Wallet รุ่น Ledger Nano S และ Nano X โดยการระดมทุนในระดับ Series C เมื่อเดือนมิถุนายน ที่ผ่านมา ซึ่งทางบริษัทสามารถรวบรวมมูลค่าไปได้มากถึง 380 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้มูลค่าโดยรวมของบริษัทในปัจจุบันอยู่ที่ 1.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ก่อนหน้านี้เราอาจจะยังไม่ค่อยได้พบเห็นระบบการชำระเงินด้วยคริปโตกันมากเท่าไรนัก แต่ดูเหมือนว่าสถานการณ์ในปัจจุบันจะเริ่มเปลี่ยนแปลงไปอย่างช้า ๆ เนื่องด้วยในขณะนี้มีผู้ให้บริการรายใหญ่มากมายที่ได้เริ่มนำสกุลเงินดิจิทัลเข้ามาใช้ร่วมกับระบบการชำระเงินแล้ว เช่น Mastercard เป็นต้น ในขณะเดียวกันทางด้าน BitPay ก็ได้ก้าวเข้ามาเป็นหุ้นส่วนกับ MetaMask ผู้ให้บริการ Browser และ Wallet ออนไลน์ เพื่อสร้างระบบการชำระเงินมารองรับผู้ใช้งานใหม่จำนวนหลายสิบล้านรายด้วยกัน