เรียนรู้ 6 สิ่งที่เซียนนักเทรดแนะนำ ช่วง Crypto Winter ปี 2022!

พี่ชาย…ชั้น…หนาววว! ไม่ใช่ภูมิอากาศในประเทศไทยตอนนี้นะ แต่เป็นช่วงฤดูที่หนาวที่สุดของตลาดคริปโตต่างหาก “Crypto Winter” คือ ชื่อที่เราใช้เรียกสภาวะตลาดคริปโตขาลง (Bearish Market) ที่ไม่มีการเคลื่อนไหว หรือมีการเคลื่อนไหวน้อยมาก ๆ เป็นระยะเวลาที่นานกว่าปกติ อย่างช่วงปี 2022 นี้ราคาคริปโตร่วง แดงไปทั้งตลาด ไม่ว่าจะเป็นความสนใจในการศึกษาข่าวคริปโต ปริมาณการซื้อขาย หรือปริมาณการเทรดคริปโตที่ลดน้อยลง ต่างก็แสดงให้เห็นว่า ผู้คนกำลังท้อแท้ และค่อย ๆ หมดความสนใจในคริปโตไปแล้ว

แต่ก็ยังมีคนกลุ่มหนึ่ง คือ นักเทรดคริปโตรายวันที่มีความสามารถในการอ่านกราฟ และคาดการณ์ความผันผวนคริปโต ราคา และความน่าจะเป็นได้อย่างชาญฉลาด วันนี้คริปโตสยามจะพาผู้อ่านไปเรียนรู้ 6 สิ่งที่กูรูเทรดเดอร์คริปโตชื่อดังแนะนำ พร้อมเทคนิคการลงทุน และวิธีฝ่าฟันมรสุมในช่วง Crypto Winter ปี 2022 นี้ จะมีอะไรบ้างนั้น ไปดูกันเลย!

1. รอคอย และเรียนรู้จากความสูญเสียครั้งก่อน

นักลงทุนส่วนมากไม่ค่อยตื่นตัวในสภาวะตลาดหมี แม้ว่าจะมีข่าวคาดการณ์ราคา Crypto จะปรับตัวขึ้นเร็ว ๆ นี้ก็ตาม Bethany นักเทรดคริปโตรายวัน และผู้ค้า NFTs เชื่อว่า “Bull Mindset” จะมีความยืดหยุ่นมากขึ้น ก่อนหน้านี้เพราะเราเชื่อว่า “ราคาต้องขึ้นเท่านั้น” จึงเป็นการยากที่เปลี่ยนความคิดนี้ แต่ถ้าเราลองปรับความคิดนิดหนึ่ง เปลี่ยนเป็นการเตรียมตัวสู่สภาวะตลาดขาขึ้น (Bull Market) ทบทวนหลักการซื้อขาย ศึกษาผลกระทบที่อาจเกิดจากสภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจระดับมหภาคในวงกว้างที่มีผลต่อราคาคริปโต รวมทั้งการลงทุนแบบ TradFi ให้ดีล่ะ

เธอกล่าวว่า “มีสถาบันการลงทุนเกิดขึ้นในตลาดคริปโตมากมาย ในขณะที่เม่าน้อย ๆ ขายคริปโตทิ้ง หรือลดปริมาณการลงทุนลง การทำความเข้าใจว่า เกิดอะไรขึ้นบ้างในแวดวง TradFi จึงมีความสำคัญอย่างยิ่งในการพยายามคาดการณ์ราคาคริปโตว่าจะไปในทิศทางทางไหน” นอกจากนี้เธอยังทุ่มเทเวลาในการศึกษาโปรเจคที่มีศักยภาพในการเติบโต อย่าง Play-to-Earn หรือพวกโทเค็นที่มีโมเดลแบบ profit-sharing เพิ่มเติมด้วย

cryptobethany https://twitter.com/cryptobethany/status/1571299309378740224?s=46&t=HLgQMhld1AbD9njHJyBL2Q

อ่านเพิ่มเติม 3 กลยุทธ์เด็ด! เทรดคริปโตฯ ยังไงให้รอดใน 'ตลาดขาลง'

2. ทำกำไรแบบใหม่ แบบสับ ด้วยการพลิกดูกราฟกลับหัว

Ogle กูรูนักเทรดคริปโต ผู้คร่ำหวอดในวงการคริปโตมาตั้งแต่ปี 2012 เชื่อว่า “ในมุมมืดที่สุดของคริปโต ก็ยังมีโอกาสอยู่เสมอ” ในปีนี้ เขาลงทุนโดยเฉลี่ย 250 ครั้งต่อวัน รวมทั้งการใช้บอท, ซอร์ฟแวร์ Computer-code เทรดคริปโตแบบ Auto ด้วย แต่ปริมาณโดยรวมแล้ว ก็ยังน้อยกว่าปีที่แล้วอยู่ดี

ล่าสุด ได้เปลี่ยนแนวเป็นการพลิกดูกราฟกลับหัวเพื่อเปลี่ยนความคิด พร้อมกล่าวว่า “นั่นทำให้เข้าใจวิธีการเล่นเกมให้ง่ายขึ้น แค่ขายแทนการซื้อ แต่คุณต้องแน่ใจว่าคุณมีทุนเพียงพอเท่านั้นนะ” นอกจากนี้เขามักจะลงทุนระยะยาวในโปรเจคคริปโตอย่าง MAGIC (โทเค็นของ Treasure DAO) ที่จะทำให้ได้กำไรจากสภาวะตลาดขาขึ้นครั้งต่อไปด้วย

3. ยอมรับกำไรที่น้อยกว่า และใช้ stop-losses เสมอ

Howard Greenberg ผู้ให้คำปรึกษาด้านการเทรดคริปโตในสถาบันแห่งหนึ่งในชิคาโกให้ความเห็นว่า ความสนใจในการเทรดน้อยลงมากจากปีที่แล้ว แต่ก็ยังคงมีผู้สนใจที่สมัครเข้ามาเรียน Signal กับเขาอยู่ ซึ่งในปีนี้ นักลงทุนก็เป็นแบบมา ๆ ไป ๆ ต่างจากปีที่แล้วที่คอยเฝ้าดูราคาตลอดทุกนาที ตัวเขาเองยังคงเทรดคริปโตตามปกติ แต่มีความระมัดระวังมากขึ้น พยายามเก็งกำไรให้น้อยลง และหากราคาผิดกับที่คาดการณ์เอาไว้ ให้ใช้ stop-losses เสมอ นี่แหละเคล็ดลับง่าย ๆ ในการเอาตัวรอด

4. เลิกติดตามแอพเทรดคริปโตสักพัก มุ่งเน้นไปที่การพัฒนาตนเองทางร่างกาย และความคิด

Dovey Wan ผู้ก่อตั้ง Primitive Ventures กล่าวว่า “ตลาดหมี เป็นช่วงเวลาที่ดีในการพัฒนาตนเอง ทั้งทางร่างกาย และจิตใจให้พร้อมสำหรับการปรับราคาในครั้งต่อไป”

ทางด้าน Dan Clarke ที่ปรึกษาการลงทุนด้านคริปโตจากสิงคโปร์กล่าวว่า “ช่วง Bullish เขาได้ใช้เวลาไปกับการเทรด Exotic และ Yield Farming ส่วนช่วง Bearish ได้หยุดการเทรดไปพักผ่อนแทน เพื่อชีวิตที่สงบ และผ่อนคลายมากขึ้น นอกจากนี้ยังได้ลบแอพเทรดคริปโต และแอพสำหรับแทร็กการลงทุนด้วย

5. หลีกเลี่ยงตลาดที่มีความผันผวนสูง และอย่าเทรดแบบเลเวอเรจ

Scott Melker กูรูเทรดเดอร์ที่ใช้นามทวิตเตอร์ว่า The Woft of all Streets เข้าใจว่า ช่วงนี้เป็น Crypto Winter ที่อันตรายสำหรับเม่าน้อย ๆ รวมทั้งนักเทรดคริปโตทั่วไป ดังนั้นการลงทุนในช่วงนี้ต้องระมัดระวัง ทั้งในระยะสั้น และในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นตลาดที่มีความผันผวนสูง และการเทรดแบบเลเวอเรจ ไม่ได้ให้ประโยชน์มากนัก แถมยังทำให้เสี่ยงเสียเงินเยอะ ๆ อีกด้วย

นอกจากนี้กูรูเทรดเดอร์ ยังกล่าวด้วยว่า “everyone, everywhere, is feeling the burn” แต่ถ้าคุณรู้สึกว่า โอ๊ย…โดนแซะ โปรดจงจำไว้ว่า “You will never walk alone” ความโดดเดี่ยวที่คุณมี ไม่ได้เกิดขึ้นแค่กับคุณ (ยังมีอีกหลายคนที่ติดดอยอยู่เหมือนกัน)

scottmelker https://twitter.com/scottmelker/status/1582409090864513040?s=46&t=HLgQMhld1AbD9njHJyBL2Q

6. ศึกษาข้อมูลคริปโตให้ลึกกว่านี้ และศึกษาโปรเจคอื่น ๆ ไปด้วย

Elizabeth Stark นักพัฒนาของ Lightning Labs กล่าวว่า “ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่ดีในการสร้างสรรค์ มันเสียสมาธิน้อยลง” ซึ่งในมุมมองของนักพัฒนา และผู้ประกอบการมองว่า เป็นโอกาสอันดีในการสร้างสิ่งใหม่ ๆ ขึ้นมาจริง ๆ ถึงจะไม่เกี่ยวกับพวกคริปโตแต่ก็ใช้ประโยชน์จากแนวความคิดแบบเดียวกันได้ นอกจากนี้ยังสามารถลบ Fear of Missing Out และเปลี่ยนความนิยมจากเหรียญหนึ่งไปยังอีกเหรียญหนึ่งได้

นอกจากนี้ Cory Klippsten ผู้ก่อตั้ง Swan Bitcoin ยังได้กล่าวว่า “ลงทุนในสิ่งที่คุณรู้ คุณควรเป็นเจ้าของในสิ่งที่คุณรู้มาก คือ หัวใจสำคัญ” เขายกตัวอย่างว่า ราคา Bitcoin มีความผันผวน หากคุณซื้อ Bitcoin ด้วยความหวังว่า Bitcoin ราคาจะสูงขึ้น ความผันผวนอาจทรยศคุณได้

ถึงแม้ว่านักลงทุนแต่ละคนจะมีมุมมองที่แตกต่างกัน เช่น กูรูบางคนจะมีความระมัดระวังเป็นพิเศษ และค่อย ๆ วิเคราะห์ข้อมูลด้านระยะเวลา และสินทรัพย์ที่ลงทุนอยู่ กูรูบางคนคิดว่าการ HODL ดีกว่า และช่วงนี้เแหละที่เหมาะกับการเก็งกำไรระยะสั้นในรอบทศวรรษ ส่วนกูรูบางคนก็มีความหวังในการเก็งกำไรจากคริปโตที่เคยทำกำไรได้ในอดีต และกูรูส่วนใหญ่เชื่อว่า หากเศรษฐกิจโลกเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น สกุลเงินดิจิทัลจะต้องปรับตัวขึ้นอย่างแน่นอน

ไม่ว่าคุณจะเลือกเชื่อ หรือมองมุมไหน ต้องเป็นมุมมองที่เหมาะกับสไตล์การลงทุนของคุณ ถึงจะดีที่สุด และแน่นอนว่า สภาวะตลาดขาลงจะสร้างความเจ็บปวด แต่มันจะกลับมาผงาดอีกครั้ง ว่าไหมล่ะ?