General

ละตินอเมริกา และเอเชียมีการทำธุรกรรมด้าน Crypto ระหว่างกันมากกว่า 200,000 ครั้งในปีที่ผ่านมา

South America Map.jpg

บริษัทมากมายในละตินอเมริกากำลังมองว่า Crypto เป็นหนึ่งในหนทางที่พวกเขาจะสามารถหลบหนีออกจากระบบของธนาคารที่แสนยุ่งยากไปได้

Chainalysis บริษัทวิเคราะห์ข้อมูลด้าน Blockchain ได้เผยแพร่งานวิจัยใหม่ที่ทำให้เราเห็นถึงการทำธุรกรรมระหว่างละตินอเมริกา กับเอเชียขนาดมโหฬารที่เกิดขึ้นโดยพวกเราไม่รู้ตัว โดยเนื้อหาจะเน้นไปในทิศทางที่ว่ามีการทำธุรกรรมด้าน Crypto ระหว่างบริษัทจากทั้ง 2 สัญชาติมากกว่า 200,000 ครั้งในปีที่ผ่านมา ซึ่งการทำธุรกรรมระหว่างละตินอเมริกาและเอเชียจากข้างต้นนั้นมีมูลค่ามากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ละตินอเมริกากำลังหาทางรอด

การศึกษาในครั้งนี้มีหัวข้อว่า “ละตินอเมริกาสามารถลดความปั่นป่วนทางเศรษฐกิจด้วย Cryptocurrency ได้อย่างไร” ซึ่งการศึกษาดังกล่าวได้ทำการวิเคราะห์ความนิยมของ Crypto ในแถบละตินอเมริกาในช่วงระหว่างเดือนกรกฎาคมปี 2019 ถึงเดือนมิถุนายนปี 2020

โดยจากการศึกษานั้นแสดงให้เห็นว่าปัญหาการเข้าถึงธนาคารของชาวละตินอเมริกาและความจำเป็นในการโอนเงินได้ผลักดันให้เกิดรูปแบบการใช้สกุลเงินดิจิทัลที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการทำธุรกรรมี่เกี่ยวข้องกับการค้าข้ามประเทศ

ในขณะที่ทางอเมริกาเหนือและยุโรปตะวันตกเป็นทวีปที่จะโอนเงินตราดั้งเดิมเข้าสู่ละตินอเมริกามากที่สุด แต่ทางเอเชียตะวันออกนั้นก็ไม่น้อยหน้าเช่นกัน เพราะพวกเขาถือเป็นทวีปที่ทำธุรกรรมในรูปแบบ Crypto กับละตินอเมริกาเป็นจำนวนมาก ซึ่งจากข้อมูลระบุว่าหนึ่งในการชำระเงินเหล่านั้นคือธุรกรรมทางการค้าระหว่างผู้ส่งออกในแถบเอเชียและบริษัททางละตินอเมริกา

ข้อจำกัดของแต่ละท้องถิ่น ทำให้ผู้คนต่างหาวิธีการในแบบฉบับของตนเอง

งานวิจัยในครั้งนี้ยังได้อ้างถึง Luis Pomata ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Cripex ซึ่งเป็นบริษัทแลกเปลี่ยนในประเทศปารากวัย โดยเขาได้กล่าวว่า ธนาคารในประเทศปารากวัยกังวลเกี่ยวกับปัญหาการฟอกเงิน ทั้งยังเรื่องมากกับเหล่าลูกค้าอีกด้วย นั้นเป็นเหตุผลที่ขั้นตอนของแอปพลิเคชั่นธนาคารมีขั้นตอนที่ "ยาวและยากมาก" เนื่องจากบริษัทหลายแห่งถูกธนาคารปฏิเสธ

Kim Grauer หัวหน้างานวิจัยแห่งบริษัท Chainalysis ได้กล่าวว่า ทางบริษัทไม่สามารถระบุปัจจัยในที่เป็นแรงขับเคลื่อนให้เกิดความนิยมในการส่งผ่านสกุลเงินดิจิทัลในครั้งนี้ได้ เนื่องจากตัวแปรที่ส่งผลต่อแรงขับนั้นมีความแตกต่างกันระหว่างประเทศแถบละตินอเมริกา กับประเทศอื่น ๆ ซึ่งสาเหตุหลักมาจากกฏหมายและระบบธนาคารในแต่ละท้องที่นั้นไม่เหมือนกันนั่นเอง

Chainalysis ชี้แจงว่า "บุคคลจำนวนมาก" ก็ไม่สามารถมีบัญชีธนาคารเป็นของตัวเองได้ในละตินอเมริกา ซึ่งจากสาเหตุดังกล่าวช่วยส่งเสริมให้เกิดการยอมรับ Crypto ขึ้นในภูมิภาคนั้น

"สิ่งที่เราสามารถพูดได้คือ การใช้การแลกเปลี่ยนในลักษณะ Peer-to-Peer (P2P) ถือเป็นบริการหลักที่ถูกนำไปประยุกต์ใช้ในประเทศเวเนซูเอลาเป็นลำดับแรก ที่ซึ่งเป็นตลาดในการให้บริการขนาดใหญ่และสามารถผลักดันให้เกิดการยอมรับจากประเทศบราซิลในลำดับถัดไป นอกจากนี้ตลาดเชิงพาณิชย์ที่สำคัญจำนวนมากก็ยังผลักดันให้เกิดการยอมรับเทคโนโลยีเหล่านี้ในประเทศอาร์เจนตินา, ปารากวัยและบราซิล เนื่องจากพวกเขาทำการซื้อขายสินค้า ซึ่งสินค้าเหล่านั้นมักนำเข้ามาจากสาธารณรัฐประชาชนจีน”

ในเดือนกรกฎาคม Bitso ซึ่งเป็นหนึ่งในบริษัทแลกเปลี่ยน Cryptocurrency ที่ใหญ่ที่สุดในแถบละตินอเมริกา มีผู้ใช้งานกว่า 1 ล้านคนก่อนที่จะมีการเปิดตัวในประเทศบราซิล

จากข้อมูลของ Santiago Alvarado ผู้อำนวยการฝ่ายการชำระเงินข้ามประเทศแห่งบริษัท Bitso ความสำเร็จในการแลกเปลี่ยนภายในประเทศอาร์เจนตินาเชื่อมโยงกับการทำธุรกรรม Crypto แบบพิเศษ และความต้องการที่เพิ่มขึ้นสำหรับการชำระเงินข้ามพรมแดนในตลาดท้องที่

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

ตลาด Altcoin มีโอกาสเสี่ยงถูกปรับฐาน ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า
รายงาน ก.ล.ต. สรุปภาพรวมบัญชีซื้อขายที่ Active ในช่วงต้นเดือน 'เมษายน' ปี 2567
ซีอีโอ Crypto.com ชี้! Bitcoin กำลังอยู่ในจุดเริ่มต้น ของการเข้าสู่ช่วงขาขึ้น
 วาฬหน้าใหม่ ครอบครอง Bitcoin รวมกันไปแล้วถึง 1.8 ล้าน BTC