ติดตามความเคลื่อนไหวของคดี Mt.Gox มารู้จักกับ Mt.Gox คืออะไร? Mt. Gox กับ bitstamp เกี่ยวข้องกันยังไง? ทำไมชุมชนคริปโตถึงให้ความสนใจกับข่าวนี้กันมาก
Table of contents
สำหรับใครที่ตามไม่ทันเกี่ยวกับคดี Mt.Gox วันนี้ CryptoSiam จะพามาดูเรื่องราวต่าง ๆ และบทสรุปว่า Mt.Gox คือใคร? Mt.Gox กับ bitstamp เกี่ยวข้องกันยังไง? และทำไมชุมชนคริปโตถึงให้ความสนใจกับข่าวนี้กันมาก ติดตามความเคลื่อนไหวของคดี Mt.Gox ได้เลยที่นี่!
Mt.Gox คือใคร?
Mt.Gox เคยเป็น Exchange เทรดบิทคอยน์ที่ใหญ่ที่สุดในโลกและได้ล่มสลายลงในปี 2014 หลังจากที่ถูกแฮก BTC ไปกว่า 850,000 BTC ตั้งแต่นั้นมาบรรดาผู้ใช้งานที่ได้สูญเสียทรัพย์สิน ก็เฝ้ารอคอยถึงวันที่ Mt.Gox จะคืนทรัพย์สินของตนที่สูญเสียไป
ในปัจจุบัน Mt.Gox ได้ทำการฟื้นฟูขึ้นมาอีกครั้งและได้เริ่มดำเนินการชำระหนี้คืนตั้งแต่วันที่ 25 เดือนกรกฎาคม 2024 ด้วย Bitcoin (BTC) และ Bitcoin Cash (BCH) ผ่าน Bitstamp ซึ่งเป็น Exchange อีกแห่งหนึ่งที่มีความน่าเชื่อถือและมีความสามารถในการแจกจ่ายสินทรัพย์ให้แก่ผู้ใช้งานในหลาย ๆ ประเทศทั่วโลก โดยคาดว่ากระบวนการชำระคืนอาจต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่ง เนื่องจากมีขั้นตอนการตรวจสอบความปลอดภัยและการยืนยันข้อมูลทั้งหมดที่ค่อนข้างซับซ้อน
Mt.Gox ประวัติศาสตร์ของอุตสาหกรรมคริปโต
Mt.Gox ได้อยู่ในช่วงเวลาที่สำคัญของประวัติศาสตร์คริปโต ไม่เพียงแค่ Mt.Gox เป็น Exchange ที่อยู่ในช่วงขาขึ้นของสกุลเงินดิจิทัลและมีการทำธุรกรรมเกิดขึ้นมากกว่า 70% ของการทำธุรกรรมทั้งหมดทั่วโลก แต่การล่มสลายในครั้งนี้นั้น ชี้ให้เห็นถึงช่องโหว่มากมายของการดำเนินงานและความปลอดภัยของ Exchange ในยุคแรก ๆ ซึ่งทางด้านเจ้าหนี้เองก็ต้องคอยเวลานานกว่า 10 ปี เพื่อรับการชำระเงินคืน เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งในปัญหาที่ยาวนานที่สุดในอุตสาหกรรมคริปโตเลยทีเดียว
Mt.Gox กับความไม่แน่นอนและไม่สามารถคาดเดาได้
Mt.Gox ถือครอง BTC ประมาณ 90,000 BTC หรือประมาณ 6 พันล้านดอลลาร์ ด้วยเหตุนี้เองที่ทำให้หลาย ๆ คนให้ความสนใจว่าการที่ Mt.Gox มีการชำระหนี้คืนด้วย BTC จำนวนมหาศาลนั้นย่อมส่งผลกระทบต่อตลาดคริปโตอย่างแน่นอน
จากผลการสำรวจความคิดเห็นเจ้าหนี้ของ Mt.Gox พบว่าเจ้าหนี้ส่วนใหญ่ ตั้งใจจะถือบิทคอยน์เอาไว้และมีเจ้าหนี้ประมาณ 20% วางแผนที่จะขายบิทคอยน์ของตนหลังจากที่ได้รับทันที ซึ่งการคาดเดาว่าเจ้าหนี้จะขาย หรือถือทรัพย์สินของตนเอาไว้ และความไม่แน่นอนเช่นนี้ อาจส่งผลกระทบต่อราคาในตลาด เกิดการเก็งกำไรบิทคอยน์และทำให้แนวโน้มของความผันผวนเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
บทเรียนที่เราได้รับจาก Mt.Gox
- บทบาทของ Exchange ที่มีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมคริปโตมากขึ้น การมีส่วนร่วมของ Bitstamp ในการดำเนินการชำระคืนในครั้งนี้ สะท้อนถึงบทบาทและศักยภาพในการดำเนินธุรกรรมด้านสกุลเงินดิจิทัลขนาดใหญ่ที่มีความเป็นไปได้มากขึ้น
- กระบวนการการชำระคืนที่เกิดขึ้น มีความซับซ้อนและเกี่ยวข้องกับข้อมูลความปลอดภัยที่สำคัญต่าง ๆ ช่วยผลักดันให้อุตสาหกรรมเกิดการพัฒนาโปรโตคอลทางด้านความปลอดภัยอย่างมีนัยสำคัญ รวมทั้งการกำหนดกรอบระเบียบและการกำกับดูแลให้มีมาตรฐานยิ่งขึ้น
- ฟื้นฟูความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมคริปโตให้แข็งแกร่งมากขึ้น การชำระเงินคืนของ Mt.Gox เป็นก้าวสำคัญในการฟื้นฟูความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรมคริปโต หากประสบความสำเร็จก็สามารถสร้างบรรทัดฐานในการจัดการกับสถานการณ์คล้ายกันที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตได้
- คดีนี้แสดงให้เห็นถึงความท้าทายทางด้านกฎหมายและกฎระเบียบในการกู้คืนและกระจายสินทรัพย์ จึงอาจมีความเกี่ยวข้องกับการประสานงานระหว่าง Exchange นิติบุคคลและกฎหมายระหว่างประเทศ
- แม้ว่าจะมีแรงกดดันในการขาย BTC เกิดขึ้น แต่ราคา Bitcoin ยังคงทรงตัวอยู่ที่ 67,000 ดอลลาร์ ชี้ให้เห็นถึงความเสถียรภาพของราคาในตลาดในปัจจุบัน
สรุป
การชำระหนี้คืนของ Mt.Gox โดย Bitstamp ให้กับเจ้าหนี้ผ่าน Bitcoin และ Bitcoin Cash ที่รอคอยกันมามากกว่า 10 ปีกำลังได้รับการดำเนินการ แม้ว่าจะมีความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นต่อราคาบิทคอยน์วันนี้ แต่ราคา Bitcoin ยังคงทรงตัวและรักษาเสถียรภาพได้อย่างแข็งแกร่ง แต่ผู้ถือ BTC อาจต้องเตรียมตัวรับมือสำหรับการเคลื่อนไหวของราคา BTC ที่อาจเกิดความผันผวนขึ้นในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้ด้วย
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว