Blockchain

ซีอีโอ JPMorgan ชี้ 'บล็อกเชนนี่สิของจริง' หลังโจมตี Bitcoin มายาวนาน

Jamie Dimon JPMorgan

'Jamie Dimon' ซีอีโอ JPMorgan ผู้มีจุดยืนต่อต้าน Bitcoin ยาวนาน ชี้ "Bockchain นี้สิของจริง" แต่ยังกล่าวโจมตีคริปโต ชี้ไม่ต่างอะไรกับ 'Decentralized Ponzi'

ในงานสัมมนา Institute for International Finance (IIF) เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา 'Jamie Dimon' ซีอีโอของ JPMorgan ธนาคารการลงทุนชื่อดังสหรัฐฯ กล่าวว่าเทคโนโลยีบล็อกเชนนั้นคือ 'ของจริง'

พร้อมชี้ถึง 'Onyx' บริษัทย่อยของ JPMorgan ที่จัดตั้งขึ้นมาเพื่อลงทุนในเทคโนโลยีบล็อกเชนโดยเฉพาะ อย่างเช่นการสร้างแพลตฟอร์มการชำระเงินข้ามพรมแดนด้วยบล็อกเชน เป็นต้น

อย่างไรก็ตาม Jamie Dimon ก็ยังยืนยันว่าคริปโตเคอร์เรนซียังเป็น 'Decentralized Ponzi' อยู่ และโลกคริปโตนั้นเต็มไปด้วยด้านมืด ถึงแม้ว่าจะมีทัศนคติเป็นบวกกับเทคโนโลยีบล็อกเชนก็ตาม

ไม่ทิ้งคอนเซ็ปต์ 'นักด่า Bitcoin'

นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรกที่ออกมากล่าวโจมตีคริปโตเคอร์เรนซีและ Bitcoin โดยแทบจะทุกๆ ครั้งที่เขาได้มีโอกาสแสดงความคิดเห็นในที่เรื่องเกี่ยวกับการเงิน เขาก็จะกล่าวโจมตีคริปโตทุกครั้งจนนับไม่ถ้วน อย่างเช่นคราวก่อนหน้าก็ได้แสดงความคิดเห็นว่าคริปโตนั้นเป็น 'Decentralized Ponzi' เช่นเดียวกับในครั้งนี้

Jamie Dimon กล่าวโจมตี Bitcoin เปรียบเทียบกับกราฟราคา Bitcoin<br>รูปภาพ: In Bitcoin We Trust
Jamie Dimon กล่าวโจมตี Bitcoin เปรียบเทียบกับกราฟราคา Bitcoin
รูปภาพ: In Bitcoin We Trust

อ่านข่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับ "Jamie Dimon"

ทั้งนี้ทิศทางธุรกิจของ JPMorgan กลับไม่ได้เป็นไปในแนวทางเดียวกับหัวเรือใหญ่ ช่วงครึ่งหลังปีที่แล้วบริษัทก็ได้เปิดตัวกองทุนคริปโตถึง 6 กองให้ลูกค้าธนาคารเข้าลงทุน รวมถึงยังเปิดตัว 'JPM Coin' สกุลเงินดิจิทัลของตัวเองเพื่อใช้งานภายในอย่างที่ไม่มีธนาคารใดกล้าทำ

อ้างอิง: CoinDesk

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
แท็ก:
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

บราซิลอนุมัติ Spot XRP ETF เป็นครั้งแรก! ขณะธนาคารท้องถิ่นเตรียมเปิดตัว StableCoin บน XRPL
นักวิเคราะห์ เผย! การรับรองคำขอ Spot XRP ETF ของ SEC อาจเร่งให้ XRP พุ่งแตะ $6
นักวิเคราะห์คว้ารางวัลจาก Arkham หลังเป็นผู้ที่่ระบุว่า กลุ่มแฮ็กเกอร์จากเกาหลีเหนือ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการแฮ็ก Bybit มูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์
Bybit กลับมาดำเนินการถอนเงินได้ตามปกติ หลังถูกแฮกมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์