deVadoss วิจารณ์ web3 ว่าเป็นกลอุบายทางการตลาด
John deVadoss อดีตกรรมการ Microsoft เขียนสกู๊ปพิเศษ วิพากษ์วิจารณ์ web3 ว่าเป็นกลอุบายทางการตลาดเพื่อดึงดูด VC types สร้างมูลค่าให้ Blockchain มากกว่า

John deVadoss อดีตกรรมการ Microsoft เขียนสกู๊ปพิเศษ วิพากษ์วิจารณ์ web3 ว่าเป็นกลอุบายทางการตลาดเพื่อดึงดูด VC types สร้างมูลค่าให้ Blockchain มากกว่า
Table of contents
อดีตกรรมการผู้จัดการของ Microsoft นาย John deVadoss ได้เขียนสกู๊ปพิเศษ วิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับคำว่า web3 ว่า คำ ๆ นี้เป็นกลอุบายทางการตลาดเพื่อดึงดูด "VC-types" และเป็นการสร้างมูลค่าให้กับคำว่า “Blockchain” มากกว่า
deVadoss ในปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งเป็นหัวหน้าทีมพัฒนาของ Neo (ชื่อเดิม Antshares) ตั้งแต่ปี 2014 ซึ่งประสบการณ์ของเขาที่เคยทำงานร่วมกับ Microsoft เขาจึงกล้าพูดว่า Web3 คือ เรื่องไร้สาระมากกว่าความรู้สึก โดยให้เหตุผลว่า คำว่า Web3 มีมานานแล้ว แต่เพิ่งได้รับความนิยมมากขึ้นจากการพูดถึงเรื่องนี้ โดย Elon Musk ต่อสาธารณะในช่วงปลายปี 2021
john_devadoss https://twitter.com/john_devadoss/status/1604517497373278210?ref_src=twsrc%5Etfw%7Ctwcamp%5Etweetembed%7Ctwterm%5E1604517497373278210%7Ctwgr%5E5260a1403e56a93295b3667c19b9a2c888a337c5%7Ctwcon%5Es1_&ref_url=https%3A%2F%2Fbeincrypto.com%2Fis-web3-simply-another-fancy-name-for-vcs-to-use-instead-of-blockchain%2F
หากพิจารณาจากกราฟ Google Trends ผู้คนค้นหาคำนี้ลดลงประมาณ 25% จากการค้นหาสูงสุดในเดือนธันวาคม ปี 2021 จนถึงปัจจุบันก็ยังไม่มีแนวโน้มว่าจะมีคนให้ความสนใจเพิ่ม
Web3 คืออะไร? ขึ้นอยู่กับว่า คุณถามใคร?
ในปี 1999 มีการใช้คำว่า Web 3.0 เป็นครั้งแรก โดย Sir Tim Berners-Lee ผู้สร้าง www. หรือ "Semantic Web" ซึ่งเป็นนิยามว่า ในอนาคต คอมพิวเตอร์ทุกเครื่องจะสามารถวิเคราะห์ข้อมูลทั้งหมดบนอินเทอร์เน็ตได้อย่างชาญฉลาด โดยเกิดจากการที่เทคโนโลยี โครงสร้างเว็บ คำจำกัดความ คำศัพท์ แท็ก และมาตรฐานที่ใช้งานมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งทำให้เครื่องมือสามารถอ่าน W3C หรือ www. ร่วมกันได้
ทางด้าน Gavin Wood ผู้ก่อตั้ง Polkadot และผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum ได้ใช้คำนี้ในปี 2014 เพื่ออธิบายขั้นตอนของอินเทอร์เน็ตที่มีการกระจายอำนาจมากขึ้น และมีการแทรกแซงน้อยกว่า ชี้ให้เห็นว่า การทำงานบนบล็อกเชน หรือเทคโนโลยีการประมวลผล และจัดเก็บข้อมูลแบบกระจายศูนย์ (Distributed Ledger Technology (DLT) ด้วยการทำให้มูลค่า และการแลกเปลี่ยนข้อมูลมีความปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และโปร่งใสมากขึ้น พร้อมยืนยันว่า Web3 จะนำมาซึ่งการเปลี่ยนแปลงทางสังคม และเศรษฐกิจที่สำคัญ
Web3 เป็นเว็บที่ไม่น่าเชื่อถือ?
Wood เคยกล่าวไว้ว่า Web3 สามารถเปิดใช้งานบนอินเทอร์เน็ตที่ไม่น่าเชื่อถือได้ แต่เราต้องเชื่อใจคนที่อยู่เบื้องหลังการให้บริการได้ด้วย เพราะความไว้ใจนั้นมาจากพื้นฐานอัลกอริทึม และสัญญาอัจฉริยะบนบล็อกเชน
ด้าน Elon Musk กล่าวว่า "เป็นคำที่ใช้ทางการตลาดมากกว่าความเป็นจริง" มากกว่า
Jack Dorsey อดีต CEO Twitter มองว่า Web3 มีศักยภาพที่ยังรอการปฏิวัติเป็นแรงจูงใจขององค์กร เช่นเดียวกับทางเลือกอื่น ๆ
Arie Trouw ผู้ร่วมก่อตั้ง XYO เชื่อว่า หากใช้อย่างถูกต้อง 'Web3' จะมีประโยชน์มาก ซึ่งแตกต่างจาก Web2 ที่สามารถให้ผู้ใช้ควบคุม และสร้างรายได้จากข้อมูลของตนเอง โดยไม่ต้องใช้ตัวกลาง
ด้าน Berners-Lee กล่าวว่าเป็นเรื่องน่าละอายใจที่ชื่อ Web3 ถูกใช้โดย Ethereum สำหรับสิ่งที่ทำกับบล็อกเชน ในความเป็นจริง Web3 ไม่ใช่เว็บเลย
Web3 และ Crypto ไม่เหมือนกัน
ความเข้าใจผิดของคนส่วนมาก คือ Web3 มีความเกี่ยวข้องกับสกุลเงินดิจิทัล แต่จริง ๆ แล้ว Web3 มีความเกี่ยวข้องกับเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานให้กับ Web3 และสกุลเงินดิจิทัล (คริปโต) นั่นเอง
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว