มีมคริปโตของ McDonald ถูกแชร์ล้นโซเชียล
ในขณะที่ราคา Bitcoin ยังคงอยู่ในระดับซื้อขายต่ำกว่า 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ บรรดาเศรษฐีคริปโต และนักลงทุนพากันแชร์มีมคริปโตของ McDonald บนทวิตเตอร์
ในขณะที่ราคา Bitcoin ยังคงอยู่ในระดับซื้อขายต่ำกว่า 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ บรรดาเศรษฐีคริปโต และนักลงทุนพากันแชร์มีมคริปโตของ McDonald บนทวิตเตอร์
บรรดาผู้ประกอบการ และผู้สนับสนุนคริปโตแห่แชร์มีมคริปโตของ McDonald บนทวิตเตอร์กันอย่างล้นหลามในช่วงที่ตลาดเกิดความปั่นป่วนอย่างต่อเนื่อง พร้อมกันนี้ทางร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดชื่อดังระดับโลกก็ได้เข้าร่วมเกาะกระแสในครั้งนี้ผ่านการเสนอตำแหน่งงานให้กับเหล่า Hodler และโพสต์ทวิตเตอร์เพื่อเรียกความสนใจจากผู้ใช้งานจำนวนมากอีกด้วย
เศรษฐี และนักลงทุนคริปโตให้ความสนใจกับมีมคริปโตของ McDonald
นับตั้งแต่ Bitcoin (BTC) สามารถทะยานขึ้นทำลายสถิติสูงสุดตลอดกาลได้ที่ 69,000 ดอลลาร์สหรัฐเมื่อเดือนพฤศจิกายน ปี 2021 เป็นต้นมา ราคาของเหรียญก็ได้ลดลงอย่างต่อเนื่องจนอยู่ในระดับต่ำกว่า 40,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในขณะเดียวกัน ทางด้าน McDonald ก็ได้ออกมาโพสต์ทวิตเตอร์ถามไถ่ถึงความรู้สึกต่อประเด็นดังกล่าวกับเหล่าเศรษฐีคริปโต และนักลงทุนบนแพลตฟอร์ม ส่งผลให้พวกเขาออกมาตอบโต้ด้วยการแชร์มีมเกี่ยวกับการเข้าทำงานในร้านอาหารฟาสต์ฟู้ดกันอย่างเนืองแน่น
แน่นอนว่า Nayib Bukele ประธานาธิบดีแห่งเอลซัลวาดอร์ ก็ไม่พลาดที่จะออกมาแชร์มีมดังกล่าว พร้อมกันนี้เขาได้อัปโหลดภาพการกล่าวสุนทรพจน์ของเขาที่ถูกตัดต่อนำตราสัญลักษณ์ของ McDonald มาไว้บนเสื้อยืด และหมวกที่เขาได้สวมใส่ในวันนั้นเป็นรูปโปรไฟล์ เพื่อล้อเลียนมีมดังกล่าวอีกด้วย
ในขณะเดียวกันแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตรายใหญ่ที่สุดในโลก Binance ได้ออกมาตอบคำถามดังกล่าวด้วยมีมในรูปผู้ชายร้องไห้ภายใต้หน้ากากยิ้ม ซึ่งแน่นอนว่าทาง McDonald ก็ปลอบโยนพวกเขาด้วยคำพูดสั้น ๆ ว่าพวกเราจะผ่านมันไปได้
จากกระแสดังกล่าวทำให้ทาง McDonald ตัดสินใจกดติดตามบัญชีทวิตเตอร์ของผู้ก่อตั้ง Cardano และ Altcoin Daily อย่าง Charles Hoskinson เพื่อดึงความสนใจจากชาวทวิตเตอร์จำนวนมาก
นักกลยุทธ์ Bloomberg เชื่อว่า Bitcoin จะกลับมายืนหยัดได้อีกครั้ง
แม้ว่าสภาวะตลาดจะยังคงไม่แน่นอน แต่ทว่า Mike McGlone นักยุทธศาสตร์แห่ง Bloomberg เชื่อมั่นว่า BTC จะสามารถกลับมายืนหยัดได้อีกครั้ง หลังนักลงทุนเริ่มตระหนักได้ว่าเหรียญสกุลนี้มีคุณสมบัติในการที่จะเป็นสินทรัพย์สำรองในรูปแบบดิจิทัลได้
“คริปโตเป็นหนึ่งสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยง และผู้คนมักเก็งกำไรจากมัน หากความเสี่ยงของเหรียญนั้นลดลงก็จะสามารถนำมาใช้เพื่อต่อสู้กับสภาพวะเงินเฟ้อได้ และกลายเป็นสินทรัพย์สำรองระดับโลก”
นอกจากนี้นักยุทธศาสตร์รายนี้ยังได้คาดว่า 3 เหรียญดิจิทัลที่จะยืนหยัดอยู่ในวงการได้อย่างยั่งยืนนั้น ได้แก่ BTC, Ether (ETH) และ USD ที่ตรึงมูลค่าไว้กับ Stablecoins โดยทั้ง 3 สกุลนี้จะสามารถรักษาความเป็นผู้นำไว้ได้ตลอดทั้งปี 2022