Blockscale ชิปขุด Bitcoin ตัวใหม่จาก Intel

ผู้ผลิตชิปคอมพิวเตอร์ยักษ์ใหญ่ระดับโลก Intel เปิดตัว Blockscale ชิปขุด Bitcoin (BTC) ตัวใหม่สเปคแรงที่ใช้ Application-Specific Integrated Circuit (ASIC) ไมโครชิปพิเศษที่ถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานบน Blockhchain แบบ Proof-of-Work พร้อมการเข้ารหัส SHA-256 เพื่อรักษาความปลอดภัย

คุณสมบัติของ Blockscale ชิปขุด Bitcoin ตัวใหม่ มีอะไรบ้าง?

Blockscale จะมีอัตราแฮชสูงถึง 580 กิกะแฮชต่อวินาที (หรือ เทียบเท่ากับ 0.58 เทราแฮชต่อวินาที) โดยใช้พลังงานในการขุดอยู่ในช่วงระหว่าง 4.8 จนถึง 22.7 วัตต์ และมีพลังงานประสิทธิภาพสูงถึง 26 จูลต่อเทราแฮชเลยทีเดียว นอกจากนี้ชิปแต่ละตัวยังสามารถผสานการทำงานร่วมกันได้เทียบเท่ากับเครื่องขุดคริปโต 1 หน่วย ช่วยเพิ่มจำนวนอุปกรณ์แสดงผล (Output) ด้วยวงจรรวม Integrated circuit (IC) ในปริมาณสูงที่สุดอยู่ที่ 256 IC ต่อ Chain

Intel มุ่งมั่นช่วยเหมืองคริปโตสร้างความยั่งยืน

Jose Rios ผู้จัดการทั่วไปฝ่าย Blockchain และ Business Solution ในด้านการเพิ่มความเร็วให้กับระบบประมวลผล และกราฟิก แห่ง Intel ได้ออกมากล่าวถึงการพัฒนาชิปในครั้งนี้ว่า

“พวกเรารู้สึกภูมิใจที่ได้ร่วมมือ และให้บริการด้านโซลูชันแก่บริษัทหลายแห่งที่กำลังมุ่งมั่นสร้างระบบนิเวศที่ยั่งยืนให้กับสกุลเงินดิจิทัลทั่วโลก ซึ่งชิป Blockscale ASIC ของ Intel นั้นจะเข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยให้บริษัทเหมือง Bitcoin จำนวนมากสามารถบรรลุเป้าหมายทั้งในด้านของความยั่งยืน และการปรับเปลี่ยนอัตรา Hash rate ในอนาคตข้างหน้าได้อย่างแน่นอน”

อย่างไรก็ตาม บริษัทได้วางแผนที่จะจัดจำหน่าย Blockscale ภายในไตรมาสที่ 3 ประจำปี 2022 ที่จะถึงนี้ โดยปัจจุบันมีองค์กรใหญ่ ๆ หลายแห่งที่จะได้พัฒนาระบบของพวกเขาผ่านการใช้งานไมโครชิป ASIC ตัวใหม่ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Argo Blockchain, Block, Hive Blockchain Technologies และ GRIID Infrastructure เป็นต้น

คู่แข่งที่น่ากลัวของ Bitmain

เมื่อลองนำมาเปรียบเทียบกับเครื่องขุดคริปโตชั้นนำในตลาดจากค่าย Bitmain อย่าง Antminer S19 Pro ที่มีค่า Hash rate อยู่ที่ 110 เทราแฮชต่อวินาที และใช้กำลังในการขุดกว่า 3,250 วัตต์ รวมไปถึงประสิทธิภาพด้านพลังงานอยู่ที่ 30 จูลต่อเทราแฮชแล้วนั้น จะเห็นได้ว่า Mining Unit ของชิป Blockscale จำนวน 256 ตัวสามารถขึ้นแท่นเป็นคู่แข่งได้อย่างสบาย ๆ ด้วยค่า Hash rate โดยรวมอยู่ที่ 148.5 เทราแฮชต่อวินาที และใช้พลังงานการขุดอยู่ที่ระหว่าง 1,228 จนถึง 5,811 วัตต์ โดยมีประสิทธภาพด้านพลังงานอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน

Intel ประกาศตัวเป็นคู่แข่งกับบริษัทชั้นนำในตลาดขุดคริปโต

ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา Intel เองก็เพิ่งจะลุยเปิดตัวชิปขุด Bitcoin ประสิทธิภาพสูงตัวใหม่ในชื่อ Bonanza Mine (BMZ2) ไปหมาด ๆ เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ในระหว่างการประชุม IEEE International Solid-State Circuits Conference (ISSCC) โดยชิปตัวดังกล่าวมีคุณสมบัติสุดพิเศษในการใช้พลังงานต่ำ แต่มีประสิทธิภาพการขุดที่สูงขึ้นกว่าเดิม นอกจากนี้ทางบริษัทยังได้เข้าจดสิทธิบัตรการค้าให้กับคำว่า “การขุด Bitcoin ประสิทธิภาพสูง” ไปเมื่อเดือนพฤศจิกายนปี 2018 พร้อมเสนอแนวทางการลดใช้พลังงานการขุดโดยรวมลง 15% อีกด้วย ซึ่งเจตนารมณ์ที่แท้จริงของทางองค์กรนั้นก็เพื่อที่จะขึ้นมาเป็นบริษัทชั้นนำในอุตสาหกรรมผู้ผลิตเครื่องขุดนั่นเอง พร้อมกันนี้ยังได้ออกมาประกาศตัวเป็นคู่แข่งกับผู้ผลิตรายใหญ่เจ้าอื่น ๆ อย่างเช่น Bitmain, MicroBT และ Nvidia เป็นต้น