หมดยุค GameStop หลังหุ้นร่วง สวนขาขึ้นตลาด Ethereum
WallStreetBets พ่ายแพ้หลัง Robinhood สั่งหยุดเทรด สวนขาขึ้นตลาดคริปโตนำโดย Ethereum ที่บวก 10% และ Bitcoin ที่ 6%
WallStreetBets พ่ายแพ้หลัง Robinhood สั่งหยุดเทรด สวนขาขึ้นตลาดคริปโตนำโดย Ethereum ที่บวก 10% และ Bitcoin ที่ 6%
การปั่นหุ้นโดยนักลงทุนรายย่อย
เป็นประเด็นร้อนแรงที่ถูกพูดถึงทั้งในแวดวงการลงทุนและบุคคลทั่วไป โดยเหตุการณ์นั้นเริ่มต้นจากการที่กลุ่มนักลงทุนรายย่อยได้อาศัยเว็บบอร์ดชื่อดังอย่าง Reddit ในการตั้งกลุ่ม WallStreetBets ขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์เป็นการปั่นราคาหุ้นเพื่อเหล่ากลุ่มทุนรายใหญ่อย่างนักลงทุนสถาบันและกองทุนต่าง ๆ ที่ได้มีการเข้าทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าหรือการซื้อขาย Future ไว้ โดยได้เริ่มจากหุ้นบริษัทซื้อขายเกมส์แผ่นอย่าง GameStop (GME) ตามมาด้วยAMC และ Nokia (NOK)
ผลจากการปั่นราคาดังกล่าวทำให้หุ้นทั้งสามรายการมีราคาพุ่งสูงขึ้นอย่างรุนแรงมากกว่าราคาตั้งหลายเท่าตัว โดยการซื้อขายนั้นได้เกิดขึ้นผ่านแอพลิเคชั่นนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์อย่าง Robinhood สำหรับรายย่อยเป็นหลักรวมถึงบริษัทอื่น ๆ อย่างไรก็ตามเมื่อเกิดเหตุการณ์ดังกล่าวขึ้น เหล่านายหน้าขายหลักทรัพย์หลายราย โดยเฉพาะ Robinhood ซึ่งเป็นแหล่งซื้อขายหลักของรายย่อยได้ประกาศหยุดการให้บริการซื้อขายหลักทรัพย์ทั้งสามรายการ ส่งผลให้แผนการของกลุ่มดังกล่าวต้องสะดุดลง
หุ้นร่วงสวนทางตลาดคริปโต
หลังจากที่ได้มีการหยุดให้บริการซื้อขายหุ้นบนแอพลิเคชั่น Robinhood ส่งผลเป็นการตัดความต้องการซื้อออกจากตลาดเป็นจำนวนมาก และเมื่อกลับมาเปิดใหบริการอีกครั้งกลับสายไปเสียแล้ว เนื่องจากขาดช่วงของฝั่งผู้ซื้อไปทำให้ผู้ที่ต้องการขายต้องลดราคาหลักทรัพย์ลงมาจนถึงในระดับที่มีผู้ซื้อ กรณีได้ส่งผลให้หุ้น GameStop ราคาร่วงลงกว่า 50% ในหนึ่งวันและกว่า 83% ในสามวันที่ผ่านมา ตามมาด้วยหุ้น AMC ที่ร่วงลงกว่า 20% ในหนึ่งวัน และกว่า 63% ในช่วงห้าวันที่ผ่านมา นอกจากนี้แล้วหุ้น Nokia และตลาดแร่เงินนั้นก็ได้รับผลกระทบจาก WallStreetBets ไม่ต่างกัน
Ethereum พุ่งแซง Bitcoin
เหรียญอันดับสองของตลาดคริปโตนั้นในช่วงเย็นของวันที่ 2 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาๆได้พุ่งทะลุราคาสูงสุดเดิมที่ได้ทำสถิติใหม่ไว้ครั้งก่อนเหนือระดับที่ 1,400 ดอลลาร์ โดยได้มีราคาสูงกว่า 1,500 ดอลลาร์ได้สำเร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นกว่า 10% ในช่วงเวลาเพียง 1 วันเท่านั้น ซึ่งขาขึ้นดังกล่าวนี้ได้ส่งผลให้เหรียญหลักอย่าง Bitcoin ปรับตัวขึ้นกว่า 6% ในคาบเวลา 24 ชั่วโมง ทะลุ 36,000 ดอลลาร์สำเร็จ นอกจากนี้เหรียญ Altcoins อื่น ๆ อย่าง Cardano (ADA) ยังได้ปรับตัวขึ้นตามกว่า 27% อีกด้วย เรียกได้ว่าตลาดคริปโตพุ่งสวนทางขาลงของตลาดหุ้นเลยทีเดียว
