นักขุดเหรียญ ETH เดือดเหตุเตรียมปรับค่าธรรมเนียมคงที่ก่อน ETH 2.0
ทีมพัฒนาเตรียมโหวตปรับระบบคำนวณค่าธรรมเนียมเป็นแบบคงที่ แก้ปัญหาค่าธรรมเนียมสูงก่อนย้ายไปใช้ Proof of Stake
ทีมพัฒนาเตรียมโหวตปรับระบบคำนวณค่าธรรมเนียมเป็นแบบคงที่ แก้ปัญหาค่าธรรมเนียมสูงก่อนย้ายไปใช้ Proof of Stake
Ethereum vs. Ethereum 2.0
แพลตฟอร์มสกุลเงินคริปโตอันดับสองของตลาดอย่าง Ethereum เร่งเปิดตัวใช้งานเครือข่ายEthereum 2.0 ซึ่งจากมีการเปลี่ยนรูปแบบการประมวลผลจาก Proof-of-work ของเครือข่ายรุ่น Ethereum 1.0 ในปัจจุบันซึ่งใช้พลังการคำนวณทางคอมพิวเตอร์ในการประมวลผลธุรกรรม ไปสู่การประมวลผลด้วยเหรียญของเครือข่ายเองแบบ Proof-of-Stake ซึ่งผู้ใช้งานสามารถใส่เหรียญ ETH ลงใน Staking Pool เพื่อรับค่าธรรมเนียมในการประมวลผลธุรกรรมของระบบได้
จากข่าวก่อนหน้าถึงการเตรียมรวมเครือข่าย หนึ่งในทีมนักพัฒนาอย่าง Mikhail Kalinin ได้ออกมากล่าวถึงรายละเอียดการอัพเกรดระบบรวมทั้งการายแอพลิเคชั่นและสินทรัพย์ดิจิทัลบนเครือข่ายเดิมไปสู่เครือข่ายใหม่ ซึ่งกรณีไม่ใช่การโอนถ่ายไปสู่อีกระบบหนึ่ง แต่เป็นการรวมเครือข่ายคู่ขนานซึ่งใช้รูปแบบการประมวลผลที่ต่างกันเข้าด้วยกันโดยเหลือเพียงแค่รูปแบบการประมวลผลแบบ Proof-of-Stake อย่างเดียวเท่านั้น
เสียงจากนักพัฒนาแอพลิเคชั่นและนักขุด Ethereum
แม้ว่าการพัฒนาดังกล่าวจะเข้ามาสร้างความหวังให้กับชุมชนผู้ใช้งานเครือข่าย Ethereum ว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาด้านข้อจำกัดของจำนวนธุรกรรมที่ระบบรองรับได้ รวมถึงปัญหาระบบคำนวณค่าธรรมเนียมที่ส่งผลให้ค่าธรรมเนียมการประมวลผลในปัจจุบันนั้นสูงเกินกว่าจุดคุ้มทุนของเหล่านักพัฒนา แต่ผู้คนในเครือข่าย Ethereum บางส่วนได้แสดงถึงความกังวลและไม่พอใจต่อการอัพเกรดดังกล่าว
นักขุดโต้กลับการเปลี่ยนระบบคำนวนค่าธรรมเนียม
ในช่วงสัปดาห์ก่อนทีมพัฒนาเครือข่าย Ethereum ได้เปิดเผยถึงข้อเสนอการพัฒนาเครือข่าย ฉบับที่ 1559 เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงระบบการคำนวณค่าธรรมเนียมแบบเดิมไปสู่ระบบค่าธรรมเนียมแบบคงที่ซึ่งจะนำระบบการเผาเหรียญมาเพื่อใช้ควบคุมปริมาณเหรียญที่ไหลเวียนในระบบ อย่างไรก็ตามการคำนวณแบบใหม่นี้จะส่งผลให้เหล่านักขุดต้องสูญเสียรายได้จากในปัจจุบันมากถึง 50% เลยทีเดียว
ทั้งสองเหตุการณ์ประกอบกันให้เหล่านักขุดเหรียญไม่พอใจอย่างมาก ถึงขั้นวางแผนป่วนระบบโดยการร่วมมือกันส่งแรงขุดไปที่เดียวกว่า 51 ชั่วโมงในวันที่ 1 เมษายนเพื่อพยายามทำ 51% Network Attack ต่อต้านการโหวตอนุมัติแผนพัฒนาดังกล่าวอีกด้วย อย่างไรก็ตามทางทีมพัฒนาเครือข่ายได้โต้ตอบกลับว่ามีการพยายามดำเนินการจริง จะยิ่งเร่งการอัพเกรดเครือข่ายไปสู่ Proof-of-Work ให้เร็วกว่าเดิมเพื่อกดดันเหล่านักขุดที่ต่อต้าน
กรณีเป็นไปได้สูงมากที่การโอนถ่ายเครือข่ายจะเกิดขึ้นเร็วกว่าเดิมอีกเนื่องจากตัว Vitalik Buterin ถึงกับออกมากล่วด้วยตัวเองว่าพวกเขากำลังมุ่งเป้าไปที่การรวม Chain ปัจจุบัน เข้ากับ Beacon Chain เพื่อสร้าง Ethereum 2.0 ที่สมบูรณ์อีกทั้งฟังชั่นใหม่อย่างเลเยอร์ที่สองของเครือข่ายที่จะทำให้ระบบรองรับธุรกรรมที่มากขึ้นกว่า 100 เท่านั้นได้เตรียมเปิดใช้งานในไม่กี่เดือนถัดไปอีกด้วย