General

นักขุดเหรียญ ETH เดือดเหตุเตรียมปรับค่าธรรมเนียมคงที่ก่อน ETH 2.0

Fart Meme Fb 1.jpg

ทีมพัฒนาเตรียมโหวตปรับระบบคำนวณค่าธรรมเนียมเป็นแบบคงที่ แก้ปัญหาค่าธรรมเนียมสูงก่อนย้ายไปใช้ Proof of Stake

Ethereum vs. Ethereum 2.0

แพลตฟอร์มสกุลเงินคริปโตอันดับสองของตลาดอย่าง Ethereum เร่งเปิดตัวใช้งานเครือข่ายEthereum 2.0 ซึ่งจากมีการเปลี่ยนรูปแบบการประมวลผลจาก Proof-of-work ของเครือข่ายรุ่น Ethereum 1.0 ในปัจจุบันซึ่งใช้พลังการคำนวณทางคอมพิวเตอร์ในการประมวลผลธุรกรรม ไปสู่การประมวลผลด้วยเหรียญของเครือข่ายเองแบบ Proof-of-Stake ซึ่งผู้ใช้งานสามารถใส่เหรียญ ETH ลงใน Staking Pool เพื่อรับค่าธรรมเนียมในการประมวลผลธุรกรรมของระบบได้

จากข่าวก่อนหน้าถึงการเตรียมรวมเครือข่าย หนึ่งในทีมนักพัฒนาอย่าง Mikhail Kalinin ได้ออกมากล่าวถึงรายละเอียดการอัพเกรดระบบรวมทั้งการายแอพลิเคชั่นและสินทรัพย์ดิจิทัลบนเครือข่ายเดิมไปสู่เครือข่ายใหม่ ซึ่งกรณีไม่ใช่การโอนถ่ายไปสู่อีกระบบหนึ่ง แต่เป็นการรวมเครือข่ายคู่ขนานซึ่งใช้รูปแบบการประมวลผลที่ต่างกันเข้าด้วยกันโดยเหลือเพียงแค่รูปแบบการประมวลผลแบบ Proof-of-Stake อย่างเดียวเท่านั้น

เสียงจากนักพัฒนาแอพลิเคชั่นและนักขุด Ethereum

แม้ว่าการพัฒนาดังกล่าวจะเข้ามาสร้างความหวังให้กับชุมชนผู้ใช้งานเครือข่าย Ethereum ว่าจะสามารถแก้ไขปัญหาด้านข้อจำกัดของจำนวนธุรกรรมที่ระบบรองรับได้ รวมถึงปัญหาระบบคำนวณค่าธรรมเนียมที่ส่งผลให้ค่าธรรมเนียมการประมวลผลในปัจจุบันนั้นสูงเกินกว่าจุดคุ้มทุนของเหล่านักพัฒนา แต่ผู้คนในเครือข่าย Ethereum บางส่วนได้แสดงถึงความกังวลและไม่พอใจต่อการอัพเกรดดังกล่าว

นักขุดโต้กลับการเปลี่ยนระบบคำนวนค่าธรรมเนียม

ในช่วงสัปดาห์ก่อนทีมพัฒนาเครือข่าย Ethereum ได้เปิดเผยถึงข้อเสนอการพัฒนาเครือข่าย ฉบับที่ 1559 เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงระบบการคำนวณค่าธรรมเนียมแบบเดิมไปสู่ระบบค่าธรรมเนียมแบบคงที่ซึ่งจะนำระบบการเผาเหรียญมาเพื่อใช้ควบคุมปริมาณเหรียญที่ไหลเวียนในระบบ อย่างไรก็ตามการคำนวณแบบใหม่นี้จะส่งผลให้เหล่านักขุดต้องสูญเสียรายได้จากในปัจจุบันมากถึง 50% เลยทีเดียว

ทั้งสองเหตุการณ์ประกอบกันให้เหล่านักขุดเหรียญไม่พอใจอย่างมาก ถึงขั้นวางแผนป่วนระบบโดยการร่วมมือกันส่งแรงขุดไปที่เดียวกว่า 51 ชั่วโมงในวันที่ 1 เมษายนเพื่อพยายามทำ 51% Network Attack ต่อต้านการโหวตอนุมัติแผนพัฒนาดังกล่าวอีกด้วย อย่างไรก็ตามทางทีมพัฒนาเครือข่ายได้โต้ตอบกลับว่ามีการพยายามดำเนินการจริง จะยิ่งเร่งการอัพเกรดเครือข่ายไปสู่ Proof-of-Work ให้เร็วกว่าเดิมเพื่อกดดันเหล่านักขุดที่ต่อต้าน

กรณีเป็นไปได้สูงมากที่การโอนถ่ายเครือข่ายจะเกิดขึ้นเร็วกว่าเดิมอีกเนื่องจากตัว Vitalik Buterin ถึงกับออกมากล่วด้วยตัวเองว่าพวกเขากำลังมุ่งเป้าไปที่การรวม Chain ปัจจุบัน เข้ากับ Beacon Chain เพื่อสร้าง Ethereum 2.0 ที่สมบูรณ์​อีกทั้งฟังชั่นใหม่อย่างเลเยอร์ที่สองของเครือข่ายที่จะทำให้ระบบรองรับธุรกรรมที่มากขึ้นกว่า 100 เท่านั้นได้เตรียมเปิดใช้งานในไม่กี่เดือนถัดไปอีกด้วย

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

กลับมาแล้ว XRP พุ่ง 100% ใน 16 วัน! ทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบกว่า 35 เดือน
Michael Saylor เผย! ไม่มีทางที่ Bitcoin จะร่วงกลับลงไปที่ 60,000 ดอลลาร์
Tether สร้าง Stablecoin มูลค่า 1 พันล้านดอลลาร์บนเครือข่าย Tron เสริมสภาพคล่องให้กับตลาด
ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโปแลนด์ประกาศสนับสนุนการจัดตั้งคลังสำรอง Bitcoin ระดับประเทศตามรอยสหรัฐฯ