FTX US เปิดบริการเทรดหุ้นด้วย Stablecoin

ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตรายใหญ่พร้อมเดินหน้าบุกตลาดซื้อขายหุ้นอย่างเต็มกำลัง หลังบริษัทในเครือประจำประเทศสหรัฐอเมริกาอย่าง FTX US เปิดบริการเทรดหุ้นตัวใหม่เพื่อเอาใจบรรดานักลงทุนในตลาด

แพลตฟอร์มคริปโตรายแรกที่ไฟเขียวให้ซื้อขายหุ้นผ่านแอปฯได้

West Realm Shires Services ประกาศแถลงการณ์ว่า FTX US เปิดบริการเทรดหุ้นตัวใหม่ในชื่อ FTX Stocks ไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 19 พฤษภาคม ที่ผ่านมา โดยแพลตฟอร์มข้างต้นจะทำหน้าที่เป็นสื่อกลางในการซื้อขาย และลงทุนหุ้นกว่าหลายร้อยรายการที่ได้รับการขึ้นทะเบียนบนตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐฯ นับตั้งแต่หุ้นสามัญ ไปจนถึง กองทุนรวมดัชนี (Exchange Traded Fund - ETF) เลยทีเดียว ซึ่งแน่นอนว่าผู้ที่สนใจสามารถเข้าใช้งานบริการดังกล่าวได้โดยตรงผ่านแอปพลิเคชันแลกเปลี่ยนของ FTX อีกด้วยเช่นเดียวกัน

อย่างไรก็ตาม ทาง FTX อ้างว่าแพลตฟอร์มซื้อขายหุ้น FTX Stocks นั้นได้กลายเป็นแพลตฟอร์มแรกที่ไฟเขียวให้บรรดานักลงทุนรายย่อยสามารถใช้ Stablecoin เช่น USD Coin (USDC) เพื่อซื้อหุ้นบนแอปพลิเคชันได้โดยตรง นอกจากนี้ทางแพลตฟอร์มยังเพิ่มทางเลือกในการให้บริการด้านอื่น ๆ ให้กับผู้ใช้งานอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น บริการฝากเงินด้วยสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ, การโอนเงินผ่านธนาคาร (Wire Transfer), การฝากเงินผ่านบัตรเครดิต และอื่น ๆ อีกมากมาย ทั้งนี้ FTX Stocks จะพร้อมเปิดให้ผู้ใช้งานชาวอเมริกันที่ได้รับการคัดเลือกบางรายได้เริ่มใช้บริการฟังก์ชันดังกล่าวในเวอร์ชัน Private Beta เป็นกลุ่มแรก ๆ พร้อมกันนี้ทางแพลตฟอร์มยังได้เตรียมที่จะกำหนดฟังก์ชันการสั่งซื้อหุ้นได้โดยตรงผ่านตลาด Nasdaq เพื่อให้ผู้ใช้บริการมั่นใจได้ว่าการซื้อขายหลักทรัพย์นั้นมีความโปร่งใส และมีราคาที่ยุติธรรมอีกด้วย

FTX US เปิดบริการเทรดหุ้นเพราะความต้องการของตลาด

ทางด้าน Brett Harrison ประธานบริษัท FTX US ก็ได้ออกมายืนยันถึงประเด็นข้างต้นเพิ่มเติมว่า

 “การเปิดตัว FTX Stocks ในครั้งนี้ ทางทีมงานของเราได้สร้างแพลตฟอร์มที่ได้รวบรวมความสะดวกสบายทุกอย่างที่จะช่วยเอื้อให้บรรดานักลงทุนรายย่อยสามารถซื้อขายคริปโต, NFT และ หุ้นประเภทต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้นบนอินเทอร์เฟซที่มีความโปร่งใส และใช้งานง่าย”

นอกจากนี้ Harrison ยังได้กล่าวเพิ่มเติมถึงสาเหตุที่ทำให้ FTX US ตัดสินใจเปิดตัวบริการดังกล่าว ซึ่งบริษัทก็ได้เล็งเห็นถึงความต้องการของตลาดที่ค่อนข้างชัดเจนจากบรรดานักลงทุนรายย่อยหน้าใหม่ที่พยายามส่งเสริมให้เกิดความโปร่งใสในบริการการสั่งซื้อสินทรัพย์มากขึ้น โดยไม่ต้องพึ่งพาการชำระเงินในรูปแบบเดิม ๆ

ผู้ก่อตั้ง FTX เองก็เป็นผู้เล่นรายใหญ่ในตลาดหุ้น

Sam Bankman-Fried ซีอีโอ และผู้ก่อตั้ง FTX ก็เป็นนักลงทุนอีกหนึ่งรายที่ซื้อหุ้นจากผู้เล่นรายใหญ่ในอุตสาหกรรมอยู่บ่อยครั้ง จะเห็นได้จากการเข้าถือครองหุ้นของ Robinhood แพลตฟอร์มเทรดหุ้นที่เป็นมิตรต่อตลาดคริปโตหลังจากวิกฤตการล่มสลายของ Terra ด้วยมูลค่าเกือบ 650 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 7.6% ของหุ้นบริษัท ส่งผลให้หุ้น Robinhood ทะยานพุ่งขึ้นไปกว่า 30% ในทันทีหลังจากที่ข่าวถูกเผยแพร่ออกไป

นอกจากนั้นแล้ว ทาง Sam Bankman-Fried ยังได้ออกมาวิพากษ์วิจารณ์ถึงประสิทธิภาพในการทำหน้าที่เป็นเครือข่ายสำหรับการชำระเงินของเหรียญคริปโตเคอร์เรนซีอันดับ 1 ของโลกอย่าง Bitcoin (BTC) เมื่อวันจันทร์ ที่ 16 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ก่อนหน้าที่ FTX US จะออกมาเปิดตัวบริการตัวใหม่ โดยซีอีโอรายนี้กังวลว่าเครือข่าย Bitcoin นั้นไม่สามารถปรับขนาดได้เพียงพอต่อการประมวลผลธุรกรรมจำนวนหลายล้านรายการได้