ทำไมราคา ETH พุ่ง? เมื่อ Franklin Templeton จดทะเบียน Ethereum ETF แน่นอนว่าไม่ใช่สินทรัพย์เดียวที่ประสบความสำเร็จ พรีเซล eTukTuk ก็ขายดีตามขึ้นไปด้วย!
Table of contents
บทความนี้จัดทำขึ้น และได้รับการสนับสนุนโดย eTukTuk
Ethereum (ETH) เพิ่มขึ้น 7% เมื่อบริษัทรัฐสหรัฐอเมริกันชื่อดัง Franklin Templeton เข้าร่วมการแข่งขันกองทุนรวมประเภทตราสารอนุพันธ์ (ETF) ในขณะเดียวกัน eTukTuk ก็กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมียอดขายทะลุกว่า 1 ล้านดอลลาร์
ความตื่นตัวต่อ ETF ผลักดัน Ethereum มากยิ่งขึ้น
การผสมผสานระหว่างเงื่อนไขตลาดที่ดีขึ้นและข่าวเชิงบวกเกี่ยวกับ Ethereum ได้เสริมสร้างราคา Ethereum ทำให้นักวิเคราะห์เลือกที่จะเชื่อมั่นกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตมากยิ่งขึ้น
ในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา Franklin Templeton กลายเป็นบริษัท Wall Street ล่าสุดที่สมัครขอรับ Ethereum Spot ETF อย่างไรก็ตาม ข่าวนี้มีความน่าตื่นเต้นเป็นพิเศษเนื่องจากสถาบันต้องการรวบรวมการลงทุนใน ETF ซึ่งช่วยให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนมากขึ้น
มาตรการนี้เป็นนวัตกรรมที่สำคัญสำหรับอุตสาหกรรมคริปโต เพราะแสดงถึงความสามารถในการปรับเปลี่ยนระบบการเงินแบบดั้งเดิมเป็นแบบเรียลไทม์แทน
ผู้จัดการสินทรัพย์มูลค่า 1.5 ล้านล้านดอลลาร์ยื่นคำร้อง ETF ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (SEC) เมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ 2024 หากใบสมัครได้รับการอนุมัติ ETF ก็จะถูกเรียกว่า “FRANKLIN ETHEREUM ETF”
James Seyffart นักวิเคราะห์ ETF ชื่อดังได้โพสต์เกี่ยวกับการยื่นเอกสารใน X ว่า Franklin Templeton ได้เข้าร่วมการแข่งขันและให้รายชื่อผู้สมัครปัจจุบันที่อัปเดตและกำหนดเวลาของพวกเขา
จากข้อมูลของ Seyffart กำหนดส่งแรกสำหรับการอนุมัติ ETF คือวันที่ 10 มีนาคม 2024 นั่นเอง
นอกเหนือจากการยื่นเอกสาร Ethereum ETF แล้ว สภาวะตลาดที่กว้างขึ้นยังได้รับประโยชน์จากเหรียญที่มีมูลค่าเป็นอันดับสองโดยมูลค่าตลาดรวมคริปโต เพิ่มขึ้น 4.32% ตามข้อมูลของ CoinGecko
ผลกระทบจากปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ราคา ETH สูงขึ้น เหนือระดับแนวต้านที่สำคัญ
จากการตอบสนองนี้ทำให้นักวิเคราะห์มีความมั่นใจ โดย Trading Joker แนะนำว่านี่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการพุ่งขึ้นของ Ethereum
จากนั้นเขาก็เสนอตัวเร่งปฏิกิริยาเพิ่มเติมที่อาจช่วยเพิ่มความมั่นใจในการขึ้นของราคาด้วยว่า ETF แบบสปอต การหมุนเวียนสภาพคล่องจาก Solana ไปยัง Ethereum และ EigenLayer ลดอุปทานที่มีอยู่ของ ETH รวมไปถึงกลไกภาวะเงินฝืดของ Ethereum ด้วย
นักวิเคราะห์คิดว่า ETH จะสูงถึง 19,000 ดอลลาร์ภายในกลางปี 2025 เลยทีเดียว
ในขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์ Michael van de Poppe มีมุมมองในตลาดที่แคบลง โดยคาดการณ์ว่าการฝ่าวงล้อมอาจส่ง ETH ไปที่ 3.5K ดอลลาร์
ในขณะนั้น ETH ก็มีกำลังซื้อขายที่ $2,480 แต่ในที่สุดก็เพิ่มขึ้นเป็น $2.66K
อย่างไรก็ตาม Ethereum ไม่ใช่สินทรัพย์เดียวที่ประสบความสำเร็จในสภาวะตลาดปัจจุบันนี้
มีเหรียญรุ่นใหม่จำนวนมากที่มีกำไรเช่นกัน และยอดพรีเซล eTukTuk ก็ใกล้ถึง 1 ล้านดอลลาร์แล้ว
พรีเซล eTukTuk กำลังเข้าสู่ 1 ล้านดอลลาร์แล้ว
โครงการ eTukTuk มีเป้าหมายเพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก
เป็นผู้จัดจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าและเศรษฐกิจแบ่งปันแบบกระจายอำนาจ
โครงการนี้จะใช้รถตุ๊กตุ๊กที่ไม่ปล่อยมลพิษในประเทศที่กำลังพัฒนาควบคู่ไปกับสถานีชาร์จที่วางไว้อย่างมีกลยุทธ์
โครงการนี้ได้กำหนดเป้าหมายไปที่ศรีลังกา โดยร่วมมือกับ Capital Maharaja Group ซึ่งเป็นบริษัทเอกชนรายใหญ่ที่สุดของประเทศ
eTukTuk จะร่วมมือกับพันธมิตรในพื้นที่ซึ่งจะติดตั้งและบำรุงรักษาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการชาร์จเพื่อให้มั่นใจว่าโปรโตคอลจะปฏิบัติงานได้สำเร็จ
นอกจากการแก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เร่งด่วนแล้ว eTukTuk ยังให้บริการการเดินทางที่ปลอดภัยและราคาประหยัดสำหรับทุกคนอีกด้วย ใน whitepaper ของโครงการได้ชี้แจงว่ามีผู้ใหญ่ 1.4 พันล้านคนไม่มีบัญชีธนาคาร และไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงินที่จำเป็นได้
ด้วย eTukTuk นั้นทุกคนสามารถสร้างวอลเล็ทและเข้าถึงเครือข่ายได้อย่างง่ายดาย นอกจากนี้ eTukTuk ยังเปิดตัวบน BNB Chain เพื่อการทำธุรกรรมที่รวดเร็วและราคาไม่แพงอีกด้วย
โครงการนี้รวมเทคโนโลยี AI เข้ามาในหลายๆ ด้าน ตั้งแต่การปรับปรุงเส้นทางการขนส่ง จนถึงการดูแลรักษาก่อสร้างพื้นฐานเชิงคาดการณ์เพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์จะมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน
พรีเซลของ eTukTuk ดำเนินไปอย่างต่อเนื่องในช่วงเริ่มต้น โดยโทเค็นมีจำหน่ายในราคา 0.0265 ดอลลาร์ แต่จะเพิ่มขึ้นตามความก้าวหน้าของพรีเซล นักลงทุนสามารถ Stake และรับ APY 288% ได้อีกด้วย
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว
