ฝรั่งเศสขึ้นบัญชีดำแพลตฟอร์มซื้อขายหลายแห่งและออกโรงเตือนนักลงทุน

แพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลทั่วโลกกำลังเผชิญกับความท้าทายครั้งใหญ่จากกฎระเบียบและมาตรการตรวจสอบที่เข้มงวดมากขึ้นจากหน่วยงานกำกับในประเทศต่าง ๆ ซึ่งฝรั่งเศสเป็นประเทศล่าสุดที่ออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับบริการการลงทุนทางด้านคริปโตเคอร์เรนซี่ที่ไม่ได้การควบคุม

หน่วยงานกำกับของฝรั่งเศสออกโรงเตือนนักลงทุน

หน่วยงานกำกับดูแลของฝรั่งเศสอย่าง Autorité des Marchés Financiers (AMF) และ French Prudential Supervision and Resolution Authority (ACPR) ได้ออกโรงเตือนนักลงทุนให้ระมัดระวังในการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล รวมถึงอัตราแลกเปลี่ยน (ฟอเร็กซ์) ผ่านแพลตฟอร์มซื้อขายที่ไม่ได้รับอนุญาต ซึ่งประกอบไปด้วยแพลตฟอร์มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล 4 แห่ง และแพลตฟอร์มซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนอีก 12 แห่ง โดยหน่วยงานทั้งสองได้ระบุให้บริษัทเหล่านี้อยู่ในบัญชีดำ เพื่อปกป้องนักลงทุนจากการถูกฉ้อโกงได้

หน่วยงาน AMF และ ACPR ยังแนะนำให้นักลงทุนซื้อขายผ่านแพลตฟอร์มซื้อขายแลกเปลี่ยนที่ได้รับการอนุญาตและมีการกำกับดูแลเท่านั้น เพื่อผลประโยชน์ของนักลงทุนเอง

ฝรั่งเศสเรียกร้องให้มีการปฏิรูปด้านการเงินในยุโรป

เมื่อต้นปีที่ผ่านมา Francois Villeroy de Galhau ได้เรียกร้องให้ยุโรปจัดลำดับความสำคัญของกฎระเบียบคริปโต เนื่องจากความเสี่ยงของสินทรัพย์ดิจิทัลกำลังท้าทายอำนาจอธิปไตยทางการเงิน นอกจากนี้เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา หน่วยงาน AMF ยังเรียกร้องให้รัฐบาลของประเทศต่าง ๆ ในสหภาพยุโรป (อียู) เฝ้าระวังและรับผิดชอบต่อการเติบโตของคริปโตเคอร์เรนซี่อีกด้วย

หน่วยงานกำกับดูแลของฝรั่งเศศเผยว่า ต้องการให้สหภาพยุโรปมีการปฏิรูปกฎระเบียบทางด้านการเงินทั่วทั้งทวีป โดยมอบอำนาจให้กับสำนักงานหลักทรัพย์และการตลาดแห่งยุโรป (ESMA) ในการจัดการเรื่องนี้ อย่างไรก็ตาม การจัดการด้านกฎระเบียบยังคงมีความคลุมเคลือ เนื่องจากสมาชิกในกลุ่มอียูมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันในเรื่องนี้ รวมถึงเรื่องปัญหาในการดำเนินงานว่าควรจะจัดการผ่านหน่วยงานกำกับของสหภาพยูโร หรือผ่านหน่วยงานกำกับดูแลในประเทศของตน

ท่ามกลางความนิยมของสกุลเงินดิจิทัลที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้หน่วยงานกำกับดูแลหลาย ๆ ประเทศต้องเข้ามาจัดการกับเรื่องนี้มากขึ้น โดยก่อนหน้านี้ออสเตรเลียก็ได้ออกมาแนะนำให้ประชาชนลงทุนในคริปโตผ่านสถาบันการเงินที่ถือใบอนุญาต Australian Financial Services เท่านั้น เนื่องจากพบว่ามีการ ทำให้นักลงทุนชาวออสเตรเลียขาดทุนในคริปโตมากกว่า  50% ในช่วงหกเดือนแรกของปี 2021