Jack Dorsey มองว่ากฎใหม่ของ FinCEN จะผลักดันเหล่าผู้ใช้ Crypto ออกไป
บริษัทด้านสกุลเงิน Crypto รายใหญ่ของสหรัฐฯ กำลังรวมตัวกันเพื่อต่อต้านกฎหมายป้องกันการฟอกเงิน (AML) ฉบับใหม่ที่เสนอโดย FinCEN โดยได้เตือนว่าพวกกฎเหล่านั้นจะเป็นการผลักดันผู้ใช้ออกจากแพลตฟอร์มที่มีการควบคุม และจะยับยั้งการเกิดขึ้นใหม่ของนวัตกรรมต่าง ๆ
บริษัทด้านสกุลเงิน Crypto รายใหญ่ของสหรัฐฯ กำลังรวมตัวกันเพื่อต่อต้านกฎหมายป้องกันการฟอกเงิน (AML) ฉบับใหม่ที่เสนอโดย FinCEN โดยได้เตือนว่าพวกกฎเหล่านั้นจะเป็นการผลักดันผู้ใช้ออกจากแพลตฟอร์มที่มีการควบคุม และจะยับยั้งการเกิดขึ้นใหม่ของนวัตกรรมต่าง ๆ
บริษัทรายใหญ่ที่มีการดำเนินงานเกี่ยวข้องกับสกุลเงิน Crypto ของสหรัฐฯ กำลังแสดงพลังเพื่อต่อต้านกฎระเบียบที่ถูกเสนอขึ้นโดย FinCEN ซึ่งจะบังคับให้ธุรกิจที่ดำเนินการเกี่ยวกับสกุลเงิน Crypto ต้องรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับตัวตนของคู่สัญญาที่ไม่ใช่ลูกค้า
จดหมายเปิดผนึกฉบับวันที่ 4 มกราคม จาก Jack Dorsey ซึ่งออกในนามของ CEO แห่งบริษัทผู้ให้บริการทางการเงินอย่าง Square ได้พุ่งเป้าไปที่การกำหนดกฎระเบียบที่ทำให้เหล่าผู้ดำเนินการต้องรายงานในสิ่งที่ “มากเกินความจำเป็นสำหรับการทำธุรกรรมเงินสด” และทาง Sqaure นั้นถูกคาดหวังให้รวบรวม “ข้อมูลที่ไม่น่าเชื่อถือ เกี่ยวกับผู้ที่ไม่ได้เลือกใช้บริการของบริษัทเรา หรือสมัครเป็นลูกค้าของเรา”
“ชื่อคู่สัญญา และการรวบรวม/รายงาน ที่อยู่กระเป๋าเงินนั้นเป็นสิ่งที่ไม่จำเป็นสำหรับ [สกุลเงินเสมือน] CTRs หรือการเก็บบันทึก เนื่องจากมันไม่จำเป็นต้องใช้สำหรับการทำธุรกรรมด้วยเงินสดในปัจจุบัน”
ทางบริษัท Square คาดการณ์ว่าหากกฎหมายฉบับนี้ผ่าน จะเป็นการผลักดันผู้ใช้สกุลเงินดิจิทัลไปสู่บริการของสกุลเงิน Crypto ที่ไม่เป็นระเบียบ และไม่มีการควบคุม ซึ่งตั้งอยู่นอกสหรัฐอเมริกา โดยจะส่งผลกระทบต่อความสามารถในการแข่งขันระดับโลกของตัวประเทศเอง และสร้างความท้าทายที่มากขึ้นให้กับหน่วยงานกำกับดูแล
“นี่เป็นการเพิ่มอุปสรรคที่จะผลักดันให้การธุรกรรมจำนวนมากออกไปจากหน่วยงานที่มีการควบคุม เช่น ผลักดันธุรกรรมที่ทำโดยบริษัท Square ไปยัง Wallets ที่ไม่มีกฎระเบียบอื่น ๆ และเขตอำนาจการปกครองในต่างประเทศ โดยกฎเหล่านั้นจะทำให้ทาง FinCEN มองเห็นจักรวาลของธุรกรรม Cryptocurrency น้อยกว่าที่มีอยู่ในปัจจุบัน”
FinCEN ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางเกี่ยวกับการเสนอเปลี่ยนแปลงกฎ โดยทางหน่วยงานกำกับดูแลให้เวลาเพียง 15 วัน สำหรับการแสดงความคิดเห็นจากสาธารณะ แทนที่จะเป็น 60 วัน เหมือนปกติ ซึ่งหลังจากเผยแพร่ข้อเสนอนี้ในวันที่ 18 ธันวาคม ที่ผ่านมา ก็มีการส่งความคิดเห็นเกือบ 6,000 รายการ ไปยัง FinCEN เกี่ยวกับเรื่องนี้
บริษัท Kraken ซึ่งเป็นบริษัทแลกเปลี่ยนสกุลเงิน Crypto รายใหญ่สัญชาติสหรัฐฯ ก็เป็นหนึ่งในผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์ถึงกฎระเบียบที่เสนอมา โดยกล่าวตำหนิ FinCEN เนื่องจากไม่สามารถประเมินค่าเสียหายในการบังคับใช้กฎนี้ได้ เช่นเดียวกับทางบริษัท Square ก็ได้เอ่ยเตือนว่า กฎหมายจะขับไล่ผู้ใช้ออกจากแพลตฟอร์มที่มีการควบคุม
“แทบจะรับประกันได้เลยว่าหลักฐานทั้งหลายที่อยู่ภายใต้การบังคับใช้กฎหมายในวันนี้ จะถูกโยกย้านไปนอกขอบเขตของพวกเขาในวันพรุ่งนี้แน่นอน”
“เห็นได้ชัดว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างกฎแบบ Midnight rulemaking (กฎอย่างไม่เป็นทางการที่หน่วยงานของรัฐบาลกลางนำมาใช้เมื่อสิ้นสุดการบริหารงานของประธานาธิบดี) ที่มีแรงจูงใจทางการเมือง ซึ่งการประกาศแบบนี้ทำให้ความไว้วางใจที่เรามีใน FinCEN ลดน้อยลง”
Coinbase เองก็เป็นผู้ให้บริการอีกรายที่ออกมาพูดถึงการยื่นขอยกเว้นกฏที่ได้รับการเสนอโดย FinCEN ซึ่งพวกเขามองว่ามันเป็นกฎที่ “คลุมเครืออย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้” แถมยังเป็น “การรุกรานความเป็นส่วนตัวที่กว้างขวางต่อสาธารณะ” และเสริมว่าทาง FinCEN ล้มเหลวต่อการเสนอผลประโยชน์ให้แก่สาธารณะ