Blockchain

Ethereum ใช้พลังงานในการทำธุรกรรมเท่าการขับ Tesla Model 3 มากถึง 2.5 ไมล์

7 Hokewxla5w Aa Zx L3 C R8 Bt.jpg

ธุรกรรม 100 รายการบน Ethereum นั้นเทียบเท่ากับการขับ Tesla Model 3 เป็นระยะทาง 390 กิโลเมตร และเครือข่าย Ethereum ยังใช้พลังงานมากกว่าที่ประเทศคอสตาริกาใช้ตลอดทั้งปี แต่ Ethereum 2.0 อาจเปลี่ยนแปลงสิ่งเหล่านี้ได้

  • เครือข่าย Ethereum ปัจจุบันใช้พลังงานมากกว่าที่ประเทศคอสตาริกาใช้ตลอดทั้งปี
  • ธุรกรรม 100 รายการบน Ethereum นั้นเทียบเท่ากับการขับ Tesla Model 3 เป็นระยะทาง 390 กิโลเมตร
  • การสร้าง NFT บนเครือข่าย Tezos นั้นเทียบเท่ากับการใช้เครื่องเป่าผมเป็นเวลาสองวินาทีในขณะที่การสร้าง NFT บนเครือข่าย Ethereum นั้นเทียบกับการเป่าผมนานกว่า 20 ชั่วโมง

จากบทวิเคราะห์ของ Cointelegraph เผยว่า เครือข่าย Ethereum ปัจจุบันใช้พลังงานมากกว่าที่ประเทศคอสตาริกาใช้ตลอดทั้งปี นอกจากนี้ ธุรกรรมเดียวบน Ethereum ใช้พลังงานประมาณ 30 กิโลวัตต์-ชั่วโมง ซึ่งเทียบเท่ากับการเปิดไฟที่บ้านในสหรัฐอเมริกาเป็นเวลาทั้งวัน ธุรกรรม 100 รายการบน Ethereum นั้นเทียบเท่ากับการขับ Tesla Model 3 เป็นระยะทาง 390 กิโลเมตร อย่างไรก็ตาม การย้ายไปยัง Eth2 ของ Ethereum ที่กำลังจะเกิดขึ้นจะเปลี่ยนทั้งหมดนี้ให้ดีขึ้น

ในทางตรงกันข้าม ธุรกรรมบน Tezos ใช้พลังงานประมาณ 0.0016 kWh  หรือน้อยกว่าพลังงานที่ใช้ชาร์จแท็บเล็ต Apple เป็นเวลา 10 นาที ธุรกรรม 100 รายการของ Tezos เทียบเท่ากับการขับรถ 10 กม. ใน Tesla Model 3 การใช้พลังงานของเครือข่าย Tezos ทั้งหมดนั้นเทียบเท่ากับสองครัวเรือนในสหรัฐอเมริกาตลอดทั้งปีโดยประมาณ 

Screenshot 2021 12 10 at 11.31.28 1024x627.png

อย่างไรก็ตาม คำถามหนึ่งคือ บล็อกเชนคู่แข่ง เช่น Tezos, Polkadot และ Solana จะเป็นอย่างไร หาก Ethereum เปลี่ยนเป็น Eth2

การใช้พลังงานของบล็อคเชนมีการถกเถียงกันอย่างมาก ในขณะที่ NFTs มีการใช้งานอยู่บนบล็อคเชนหลายเครือข่าย รายงานการวิจัยฉบับนี้เปรียบเทียบเฉพาะการใช้พลังงานในสองเชนเท่านั้น โดยการใช้พลังงานบล็อคเชน ของ Ethereum เป็นกลไก Proof-of-Work (PoW) และ Tezos ใช้แบบ Proof-of-Stake (PoS)

ผลการวิจัยพบว่า บล็อกเชน ETH ใช้พลังงานมากกว่าเชน PoS อื่น ๆ  เช่น Tezos อย่างมีนัยสำคัญ โดยในปี 2021 ธุรกรรมบน Tezos มีประสิทธิภาพในการใช้พลังงานมากกว่าธุรกรรมบน Ethereum มากถึง 35,000 เท่าเลยทีเดียว

เมื่อกล่าวถึงประเด็นเรื่องการใช้พลังงาน อย่างแรกเลย เราจำเป็นต้องแยกความแตกต่างระหว่างต้นทุนการทำธุรกรรม และค่าใช้จ่ายในการรักษาเครือข่าย โดยปกติแล้ว ระบบ PoW เช่น Ethereum จะใช้พลังงานมากกว่าบล็อคเชน PoS เช่น Tezos

Proof of Work (PoW) คือกลไกในการแก้โจทย์ที่ระบบกำหนดมา เพื่อหาค่าสมการที่ถูกต้อง หรือเป็นระบบที่ใช้การขุดนั่นเอง ขณะที่ Proof of Stake (PoS) คืออัลกอริธึมที่ใช้สร้าง Consensus บนบล็อกเชน ผู้มีส่วนร่วมจะต้อง Stake เหรียญไว้ในระบบ และได้รับรางวัลเป็นเหรียญและสิทธิในการตรวจสอบธุรกรรม

Screenshot 2021 12 10 at 11.31.39 1024x627.png

การถกเถียงเรื่อง PoW vs. PoS

เครือข่ายบล็อคเชน PoW ขึ้นอยู่กับผู้ขุดแต่ละคนจำนวนมากที่มีส่วนร่วมในพลังแฮชของเครือข่าย เพื่อรักษาความปลอดภัยเครือข่าย ไม่ได้เกี่ยวข้องโดยตรงกับจำนวนธุรกรรม

อย่างไรก็ตาม เมื่อเปรียบเทียบการใช้พลังงานระหว่างบล็อคเชน จะต้องมีการปรับขนาดทางเมตริกที่ระบุว่ามีการใช้เครือข่ายอย่างกว้างขวางเพียงใด ดังนั้น การใช้พลังงานทั้งหมดจะถูกหารด้วยจำนวนธุรกรรมที่เครือข่ายดำเนินการภายในหนึ่งวัน 

สำหรับ Ethereum การใช้พลังงานทั้งหมดเป็นผลคูณของอัตราแฮชเฉลี่ยรายวัน และค่าประมาณประสิทธิภาพของฮาร์ดแวร์ ในที่สุด ผลลัพธ์จะถูกปรับเป็นรายปีเพื่อการเปรียบเทียบ

สำหรับ Tezos มีกลยุทธ์ที่แตกต่างกันเล็กน้อย เนื่องจากการใช้พลังงานในเครือข่าย PoS ไม่ได้ขึ้นอยู่กับอัตราแฮช การคำนวณมาจากการใช้พลังงานทั้งหมดในแต่ละวัน และคูณด้วยจำนวนผู้ที่ใช้งานอยู่

ผลลัพธ์ได้สนับสนุนการค้นพบก่อนหน้านี้ เกี่ยวกับการใช้พลังงานที่แตกต่างกันอย่างมากของบล็อคเชน PoW กับ PoS ซึ่งสามารถประมาณได้ว่า ในเดือนสิงหาคมปี 2021 การสร้าง NFT บนเครือข่าย Tezos นั้นเทียบเท่ากับการใช้เครื่องเป่าผมเป็นเวลาสองวินาที ในขณะที่การสร้าง NFT บนเครือข่าย Ethereum นั้นเทียบกับการเป่าผมนานกว่า 20 ชั่วโมง

การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับตอนนี้ บล็อกเชน Ethereum นั้นไม่ได้ใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพเท่ากับทางเลือกอย่าง PoS ดังนั้นเมื่อเปรียบเทียบบล็อกเชนแบบ PoW และ PoS การสร้าง NFT บน Ethereum จึงเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า เมื่อเทียบกับบล็อกเชนทางเลือกที่ใช้พลังงานน้อยกว่า 

อย่างไรก็ตาม การที่ Ethereum กำลังย้ายไปสู่อัลกอริธึม PoS จะทำให้การใช้พลังงานลดลงอย่างมาก ซึ่งจะเปลี่ยนสถานการณ์ให้ดีขึ้น

DISCLAIMER: การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูง มุมมองและความคิดเห็นจากผู้เขียนมีวัตถุประสงค์เพื่อในการให้ข้อมูลเท่านั้น และไม่ได้เป็นการให้ข้อมูลทางการเงิน การลงทุน หรือคำแนะนำอื่น ๆ ใด นักลงทุนควรศึกษาจากปัจจัยหลาย ๆ อย่างประกอบกันและมีการควบคุมความเสี่ยงอยู่เสมอ  

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

Bitcoin อาจราคาพุ่งก่อนปรับฐาน หากสหรัฐฯ อนุมัติกองทุนสำรอง Bitcoin แห่งชาติ
Ham's Rectangle Template   2024 12 10 T173224.361
Binance ดึงดูดเงินฝากทะลุ 24 พันล้านดอลลาร์ในปี 2024 จากฐานผู้ใช้ 250 ล้านคนทั่วโลก!
MARA Holdings ซื้อ Bitcoin เพิ่มอีก 1.1 พันล้านดอลลาร์ พร้อมสร้างสถิติใหม่ด้วยกำลังขุดสูงที่สุดในอุตสาหกรรม