ข่าวคริปโตเคอเรนซี่

Ethereum Foundation ชี้! ช่วง 18 เดือนข้างหน้าเป็น “จุดเปลี่ยนสำคัญ” พร้อมประกาศนโยบายจัดการเงินใหม่

Ethereum Foundation ชี้! ช่วง 18 เดือนข้างหน้าเป็น “จุดเปลี่ยนสำคัญ” พร้อมประกาศนโยบายจัดการเงินใหม่

Ethereum Foundation องค์กรผู้อยู่เบื้องหลังเครือข่าย Ethereum ประกาศใช้นโยบายการจัดการเงินแบบใหม่ เพื่อให้สามารถจัดสรรทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมสนับสนุนระบบนิเวศ DeFi อย่างต่อเนื่อง

Ethereum Foundation กำลังเข้าสู่ช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อของแผนพัฒนาระยะยาว โดยล่าสุดได้ประกาศนโยบายบริหารการเงินใหม่ ที่มีความโปร่งใสและมีโครงสร้างชัดเจนมากขึ้น เพื่อตอบสนองต่อค่าใช้จ่ายในการดำเนินงาน และความจำเป็นด้านสภาพคล่อง โดยจะเชื่อมโยงกับการถือครองและขาย Ether (ETH) ซึ่งเป็นทรัพย์สินหลักในคลังของมูลนิธิ เพื่อเสริมความมั่นคงทางการเงินในช่วง 18 เดือนที่กำลังจะมาถึง

เมื่อวันที่ 4 มิถุนายนที่ผ่านมา Hsiao-Wei Wang หนึ่งในผู้อำนวยการของ Ethereum Foundation เปิดเผยว่า มูลนิธิฯ เหลือระยะเวลาในการดำเนินงานภายใต้งบประมาณปัจจุบันเพียง 2.5 ปี ซึ่งถือเป็นแรงผลักสำคัญให้ต้องบริหารทรัพยากรอย่างรัดกุมมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 จนถึง 2026

“นโยบายใหม่นี้สะท้อนความเชื่อของเราว่า ปี 2025-2026 จะเป็นช่วงเวลาที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อ Ethereum” Wang กล่าว

ปรับนโยบายหลังเจอกระแสแง่ลบจากการขาย ETH

การปรับทิศทางครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังจาก Ethereum Foundation เผชิญเสียงวิจารณ์จากชุมชนกรณีการขาย ETH แบบไม่มีการแจ้งล่วงหน้าในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา ซึ่งบางฝ่ายมองว่าเป็นการบั่นทอนความเชื่อมั่นในองค์กร

เพื่อรักษาหลักความโปร่งใส Ethereum Foundation จึงจะเริ่มจัดทำรายงานสถานะการเงินเป็นรายไตรมาสและรายปี โดยจะเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับสินทรัพย์ในคลัง ผลการลงทุน และพัฒนาการสำคัญในแต่ละช่วงเวลา

( ที่มา : Ethereum Foundation )
( ที่มา : Ethereum Foundation )

ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 31 ตุลาคม 2024 ระบุว่า Ethereum Foundation มีเงินในคลังรวมราว 970.2 ล้านดอลลาร์ แบ่งเป็นคริปโตเคอร์เรนซี 788.7 ล้านดอลลาร์ และสินทรัพย์ประเภทอื่นอีก 181.5 ล้านดอลลาร์ โดย ETH คิดเป็นกว่า 81% ของสินทรัพย์ทั้งหมด ซึ่งตั้งแต่นั้นมา ราคาของ ETH ปรับตัวลดลงประมาณ 1.8% ตามข้อมูลจาก CoinGecko

เข้าร่วมระบบ DeFi เพื่อสร้างผลตอบแทนจากเงินคลัง

Ethereum Foundation ยังประกาศแนวทางใหม่ในการใช้สินทรัพย์ในคลังเพื่อสร้างผลตอบแทนอย่าง “เหมาะสม” โดยจะนำไปใช้งานผ่านโปรโตคอลแบบไร้สิทธิ์ (Permissionless) ที่มีความโปร่งใส ตรวจสอบได้ และผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยแล้ว

แนวทางนี้ช่วยให้มูลนิธิสามารถสนับสนุนโปรโตคอลที่ยึดหลัก “Defipunk” และในขณะเดียวกันก็ช่วยเสริมความแข็งแกร่งทางการเงินของตนเองไปพร้อมกัน

ในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา Ethereum Foundation ได้จัดสรรเงิน 45,000 ETH (มูลค่าราว $120 ล้าน ในขณะนั้น) เพื่อนำไปใช้งานในโปรโตคอล DeFi ต่าง ๆ โดยล่าสุดได้มีการนำ ETH ไปใช้เป็นหลักประกันและกู้เงินจำนวน $2 ล้าน เป็นเหรียญ GHO ผ่านแพลตฟอร์ม Aave ซึ่ง Stani Kulechov ผู้ก่อตั้ง Aave ยืนยันเมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม

นอกจากนี้โปรโตคอล DeFi อื่นที่ได้รับการสนับสนุน ได้แก่ Spark และ Compound

ลดบทบาทความเป็นกลางเพื่อสนับสนุนระบบนิเวศมากขึ้น

เดิมที Ethereum Foundation พยายามรักษาความเป็นกลางด้วยการไม่สนับสนุนโปรเจกต์เฉพาะเจาะจง เพื่อไม่ให้เกิดการลำเอียง แต่ท่าทีนี้กลับถูกวิจารณ์จากผู้พัฒนาในวงการ DeFi เช่น Kain Warwick ผู้ก่อตั้ง Infinex ซึ่งกล่าวหาว่ามูลนิธิมีท่าที “ต่อต้าน DeFi”

การเปลี่ยนแปลงล่าสุดยังรวมถึงการปรับโครงสร้างทีมพัฒนาภายใน เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน โดยมีบางตำแหน่งงานถูกยกเลิก แม้มูลนิธิจะไม่ได้เปิดเผยจำนวนพนักงานที่ได้รับผลกระทบอย่างชัดเจน

ท่ามกลางภาวะที่ ETH ยังไม่สามารถกลับสู่จุดสูงสุด

การเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้เกิดขึ้นท่ามกลางสถานการณ์ที่ Ethereum ยังไม่สามารถฟื้นตัวขึ้นมาทำจุดสูงสุดใหม่ได้ในรอบขาขึ้นครั้งล่าสุด โดยยังคงต่ำกว่าระดับสูงสุดในเดือนพฤศจิกายน 2021 ถึง 46.5% ขณะที่เหรียญอื่นอย่าง Bitcoin และ Solana กลับสามารถทำสถิติสูงสุดใหม่ได้แล้ว

Ethereum Foundation จึงอยู่ในจุดที่ต้อง “เลือกเดิน” อย่างระมัดระวังที่สุด เพื่อรักษาสมดุลระหว่างภารกิจระยะยาวกับสถานะทางการเงินในปัจจุบัน และสร้างความเชื่อมั่นใหม่ให้แก่ระบบนิเวศของตนเองในช่วง 18 เดือนสำคัญที่กำลังจะมาถึง

อ้างอิง : Cointelegraph

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง

ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล

Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว

ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

นักลงทุนรายใหญ่เทขาย Bitcoin ต่อเนื่อง หลังราคาทำจุดสูงสุดใหม่ ถือครองลดลง 40% ในรอบ 8 ปี
หุ้นของบริษัท NBX ในประเทศนอร์เวย์พุ่ง 138% หลังประกาศถือ Bitcoin เป็นสินทรัพย์สำรอง
Ethereum Foundation ชี้! ช่วง 18 เดือนข้างหน้าเป็น “จุดเปลี่ยนสำคัญ” พร้อมประกาศนโยบายจัดการเงินใหม่
นักวิจัยบล็อกเชนชี้ เงิน 300 Bitcoin ที่บริจาคให้กับ Ross Ulbricht ผู้ก่อตั้ง Silk Road ไม่น่าเป็นการโอนให้ตัวเอง