Elon Musk ปิดดีลหมื่นล้านซื้อ Twitter สำเร็จ
บอร์ดบริหาร Twitter มีมติเป็นเอกฉันท์ตัดสินใจให้ Elon Musk ปิดดีลหมื่นล้านซื้อ Twitter เมื่อวันจันทร์ที่ 25 เมษายน ที่ผ่านมา

บอร์ดบริหาร Twitter มีมติเป็นเอกฉันท์ตัดสินใจให้ Elon Musk ปิดดีลหมื่นล้านซื้อ Twitter เมื่อวันจันทร์ที่ 25 เมษายน ที่ผ่านมา
เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ในที่สุดความพยายามของซีอีโอแห่ง Tesla ก็เห็นผล หลังบอร์ดบริหารตัดสินใจอนุมัติให้ Elon Musk ปิดดีลหมื่นล้านซื้อ Twitter โซเชียลมีเดียรายใหญ่ระดับโลกไปเป็นที่เรียบร้อย เตรียมสนับสนุนให้เกิดเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นของผู้ใช้งานบนแพลตฟอร์มออนไลน์ทั้งในแวดวงคริปโต และอุตสาหกรรมอื่น ๆ
Elon Musk ปิดดีลหมื่นล้านซื้อ Twitter เตรียมสนับสนุน Free Speech
ทวิตเตอร์ได้ออกมาแถลงการณ์เมื่อวันจันทร์ที่ 25 เมษายน ถึงการผันตัวมาเป็นบริษัทเอกชน หลังบอร์ดบริหารมีมติยอมรับข้อเสนอซื้อหุ้นบริษัททั้งหมดด้วยเงินสดมูลค่ากว่า 54.20 ดอลลาร์สหรัฐ ต่อหุ้น หรือ รวมสุทธิ 4.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ สร้างความประหลาดใจให้กับนักลงทุน และผู้เล่นในตลาดการเงินกันเป็นจำนวนมาก โดยหลังจากข่าวการปิดดีลระหว่างทวิตเตอร์ และ Musk ได้แพร่กระจายออกไป ทางด้านซีอีโอ Tesla ก็ได้ออกมาโพสต์ข้อความลงบนทวิตเตอร์ส่วนตัวของเขา พร้อมระบุว่า
“ถ้าคำวิจาร์ณที่แย่ที่สุดของผมยังคงถูกปรากฎอยู่บนทวิตเตอร์จนถึงปัจจุบันแล้วล่ะก็ นั่นเป็นเพราะอะไรล่ะ? นี่แหละคือความหมายที่แท้จริงของคำว่า Free Speech”
ทางด้านทีมงานทวิตเตอร์ก็ได้ออกมาตอบโต้ถึงคำกล่าวอ้างของ Musk เช่นเดียวกัน โดยพวกเขามองว่า Free Speech หรือ เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นนั้น เป็นรากฐานของระบบประชาธิปไตยที่ยังคงถูกนำมาใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน และแน่นอนว่า ทวิตเตอร์เองก็เป็นอีกหนึ่งแพลตฟอร์มที่ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นบนโลกดิจิทัล
นักลงทุนหลายรายไม่เห็นด้วยที่ Elon Musk ปิดดีล 4.4 หมื่นล้าน ซื้อ Twitter
อย่างไรก็ตาม แม้ว่าข้อเสนอดังกล่าวจะดูเหมือนเป็นไปได้อย่างราบรื่น และมีทีท่าว่าความวุ่นวายต่าง ๆ อาจจะจบลงได้ในปีนี้ แต่ทว่าข้อเสนอของ Elon Musk ยังคงต้องรอการอนุมัติจากผู้ถือหุ้น Twitter รายอื่น ๆ รวมไปถึงหน่วยงานกำกับดูแลที่มีความเกี่ยวข้องลงมติในประเด็นดังกล่าวเสียก่อน นอกจากนี้ ผู้คนจำนวนมากยังคงมองว่าการซื้อหุ้นทวิตเตอร์มูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์สหรัฐนั้น อาจไม่ได้ให้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างที่คิด โดย Angelo Carusone ประธานกรรมการ Media Matters for America หน่วยงานกำกับดูแลสื่อมวลชนที่ไม่แสวงหาผลกำไร ก็ได้ออกมาแสดงความกังวลใจต่อการแถลงข่าวปิดดีลการซื้อขายหุ้นของทวิตเตอร์ พร้อมระบุว่า
“การประกาศครั้งนี้คงจะเป็นชัยชนะที่เกิดขึ้นจากการบิดเบือนข้อมูล และตัวบุคคลที่พยายามเร่ขายหุ้นเหล่านั้นเสียมากกว่า”
จะเห็นได้จากตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทวิตเตอร์ก็ได้มีการออกกฎระเบียบไม่อนุญาตให้ผู้ใช้งานใช้คำพูดคุกคาม หรือ ก่อความรุนแรงต่อบุคคล หรือ กลุ่มผู้ใช้งาน หรือ ยุยงให้ผู้อื่นเข้ามามีส่วนร่วมต่อการกระทำที่รุนแรงเพื่อป้องกันการปลุกระดมบนแพลตฟอร์มด้วยเช่นเดียวกัน ทั้งนี้ Carusone ยังชี้ให้เห็นว่าการตัดสินใจโดน Musk เพียงฝ่ายเดียวจะส่งผลให้ความพยายามที่ทางทวิตเตอร์ลงทุนลงแรงมาทั้งหมดนั้นถูกแบนออกไปจากแพลตฟอร์ม และอาจก่อให้เกิดการปลุกระดมความรุนแรงในกลุ่มผู้ใช้งานอีกครั้ง
ทางด้าน Jackson Palmer ผู้ร่วมสร้างเหรียญมีมชื่อดังอย่าง Dogecoin (DOGE) ซึ่ง Musk ก็เป็นหนึ่งในผู้ผลักดันการโปรโมทเหรียญบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เรียกการเข้าฮุบกิจการในครั้งนี้ว่า การครอบงำกิจการอย่างไม่เป็นมิตร (Hostile Takeover) ซี่งตรงกันข้ามกับสิ่งที่ซีอีโอ Tesla ตั้งปณิธานถึงการส่งเสริมให้เกิดเสริภาพการแสดงความคิดเห็นโดยสิ้นเชิง
ยังคงมีผู้ที่เห็นด้วยกับ Elon Musk อยู่
แม้ว่าจะมีผู้ที่ออกมาต่อต้าน Elon Musk อยู่หลายรายก็ตาม แต่ทว่าหนึ่งในผู้เล่นรายใหญ่ของตลาด Bitcoin อย่าง Anthony Pomp Pompliano กลับออกมาร่วมแสดงความยินดีกับผู้บริหารทวิตเตอร์หน้าใหม่ ในขณะเดียวกัน ทางด้าน BlockFi ผู้ให้บริการกู้ยืมคริปโตก็ร่วมแสดงทีท่าสนใจ และเข้าร่วมกระแสข่าวร้อนแรงในครั้งนี้ ผ่านการโพสต์ภาพล้อเลียนรูปหมาชิบะบนเหรียญ DOGE หลอมรวมกับโลโก้ของทวิตเตอร์อีกด้วย

แน่นอนว่าประเด็นการฮุบกิจการในครั้งนี้จะสร้างแรงสั่นสะเทือนจนนักลงทุนในตลาดหลายรายต่างพากันออกมาแสดงความคิดเห็นกันเป็นจำนวนมาก แต่ทว่า แทนที่ Michael Saylor ซีอีโอ และผู้ก่อตั้ง MicroStrategy จะแสดงความคิดเห็นถึงการซื้อกิจการทวิตเตอร์ของ Elon Musk โดยตรง เขากลับเลือกที่จะตอบข้อความของ Musk ด้วยประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งแรกของสหรัฐอเมริกาบนทวิตเตอร์ พร้อมระบุว่าเขาสนับนุนการออกมาเคลื่อนไหวในครั้งนี้ เช่นเดียวกันกับ Jody Hice สมาชิกสภาผู้แทนราษฏรที่เคยออกมาสนับสนุนการให้การเท็จในคดีฉ้อโกงการเลือกตั้งประธานาธิบดีแห่งสหรัฐอเมริกาเมื่อปี 2020 พร้อมกันนี้ Hice ยังเทียบการปิดดีลในครั้งนี้เป็นชัยชนะสำหรับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ครั้งแรกเช่นเดียวกันกับ Saylor อีกด้วย
ผู้ติดตาม Twitter ของ Elon Musk พุ่งทะลุ 80 ล้าน

หลังจากที่ Elon Musk ปิดดีลหมื่นล้านซื้อ Twitter ได้สำเร็จ ส่งผลให้บัญชีโซเชียลมีเดียของเขามีจำนวนผู้ติดตามเพิ่มขึ้นมากกว่า 83 ล้านราย ซึ่งมากกว่า Jack Dorsey อดีตซีอีโอทวิตเตอร์ที่มีผู้ติดตามอยู่เพียง 6.3 ล้านรายเท่านั้น ซึ่งความเคลื่อนไหวในครั้งนี้อาจส่งผลกระทบต่อพฤติกรรมการใช้งานบนแพลตฟอร์ม และโซเชียลมีเดียโดยรวมก็เป็นได้ อย่างไรก็ตาม ซีอีโอ Tesla ก็ได้ออกมากล่าวเมื่อวันที่ 14 เมษายน ที่ผ่านมา ว่าเขานั้นได้ให้ความสำคัญในการเข้าขจัด Spam และ Scam รวมไปถึงกองทัพ Bot ต่าง ๆ เป็นอันดับแรก ทั้งนี้ จากรายงานล่าสุดพบว่าหุ้นทวิตเตอร์ทะยานขึ้นมาสูงกว่า 32% อยู่ที่ 51.70 ดอลลาร์สหรัฐ ภายในระยะเวลา 30 วันที่ผ่านมา