ยุค Bitcoin ของเอลซัลวาดอร์เป็นปัญหาใหญ่สำหรับ Western Union

Western Union ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรับส่งเงินระหว่างประเทศโดยไม่ต้องมีบัญชีกับธนาคาร กำลังจะได้รับ “ความสูญเสีย” ครั้งใหญ่พวกเขาในประเทศเอลซัลวาดอร์ ซึ่งขึ้นแท่นเป็นประเทศแรกในโลกที่ใช้สกุลเงินดิจิทัลอย่าง Bitcoin (BTC) เป็นเงินที่ถูกกฎหมาย

ยุค Bitcoin ของเอลซัลวาดอร์ทำให้ผู้คนไม่ต้องง้อธนาคารอีกต่อไป

สำนักข่าวชื่อดังอย่าง CNBC ได้รายงานข้อมูลโดยอ้างถึงการที่ชาวเอลซัลวาดอร์ที่ทำงาน และอาศัยอยู่ต่างแดนนั้นมีความตื่นเต้นเป็นอย่างมากเกี่ยวกับการเข้ามาของยุค Bitcoin ที่จะช่วยให้พวกเขาเสียค่าธรรมเนียมการโอนเงินตามบริษัทต่าง ๆ เช่น Western Union น้อยลงอย่างมหาศาล

โดยสาเหตุที่ “ยุค Bitcoin” นั้นจะเข้ามาสร้างความเสียหายครั้งใหญ่แก่เหล่าสถาบันผู้ให้บริการทางการเงินทั้งหลายนั่นก็เป็นเพราะว่า “การโอนเงิน” นั้นถือเป็นช่องทางสำคัญของการทำธุรกิจบนเศรษฐกิจเอลซัลวาดอร์เลยก็ว่าได้ โดยมีการโอนเงินมูลค่ามากกว่า 6 พันล้านดอลลาร์เกิดขึ้นภายในปี 2020 ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 23% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) เลยทีเดียว

ทั้งนี้ทุก ๆ ครั้งที่มีการโอนเงิน เงินในบางส่วนก็จะถูกนำมาชำระเป็นค่าธรรมเนียมให้กับบริษัทตัวกลางต่าง ๆ เช่น Western Union นั่นเอง ซึ่งค่าธรรมเนียมการทำธุรกรรมนั่นก็สูงลิ่วถึงประมาณ 12.5% เลยทีเดียว ​​และใช่ว่าการโอนเงินรูปแบบดังกล่าวจะสะดวกสบาย เพราะชาวเอลซัลวาดอร์ต่างเจอปัญหามากมายต่อการใช้บริการการชำระเงินแบบเดิมเหล่านี้ ทั้งหมดทั้งมวลนี้เองจึงทำให้ประชาชนชาวเอลซัลวาดอร์ส่วนใหญ่รู้สึกตื่นเต้นกับทางเลือกใหม่อย่าง Bitcoin

บริการทางการเงินจะเปลี่ยนไปเพราะ Bitcoin

Matt Hougan ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุนของ Bitwise Asset Management บริษัทผู้จัดการสินทรัพย์ดิจิทัล กล่าวว่า

“การโอนเงินระหว่างประเทศนั้นถือเป็นหนึ่งในส่วนที่ย่ำแย่ที่สุดในระบบการเงินแบบดั้งเดิมของเราเลยก็ว่าได้ โดยมันมีค่าธรรมเนียมที่สูงลิ่วในระดับที่ว่าประชากรทั่วไปไม่สามารถจ่ายมันได้ ... แต่ทว่า Bitcoin นั้นสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้จริง ๆ”

ในทำนองเดียวกัน ประธานาธิบดีเอลซัลวาดอร์อย่าง Nayib Bukele ก็ได้กล่าวว่า ธุรกิจบริการทางการเงินสร้างรายได้มากถึง 400 ล้านดอลลาร์จากกค่าธรรมเนียมการโอนเงินระหว่างประเทศ ซึ่งแหล่งรายได้นี้จะต้องกีดกันออกไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของผู้บริโภค