นักวิเคราะห์เผย! แม้การที่ดอลลาร์อ่อนค่าจะส่งผลบวกต่อ Bitcoin แต่ก็ยังมีปัจจัยอื่นที่ต้องจับตา

Jamie Coutts นักวิเคราะห์จาก Real Vision ระบุว่า การอ่อนค่าของ ดัชนีค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ (DXY) อาจเป็นสัญญาณเชิงบวกต่อ Bitcoin แต่ยังมีสองปัจจัยที่สร้างความกังวลในระยะสั้น ได้แก่ ความผันผวนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (MOVE Index) และส่วนต่างของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรภาคเอกชน

“แม้การวิเคราะห์ของผมเริ่มเป็นขาขึ้นจากการที่ค่าเงินดอลลาร์อ่อนตัวลง แต่ยังมีสองปัจจัยที่ต้องจับตา คือ MOVE Index และส่วนต่างของพันธบัตรภาคเอกชน” Coutts กล่าวในโพสต์บน X เมื่อวันที่ 9 มีนาคม

เขามองว่า Bitcoin กำลังเล่น "เกมวัดใจ" กับธนาคารกลาง ซึ่งทำให้แนวโน้มของสินทรัพย์ดิจิทัลชนิดนี้เป็นขาขึ้นแบบค่อยเป็นค่อยไป

ดัชนี DXY ร่วงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 4 เดือนที่ระดับ 103.85 เมื่อวันที่ 10 มีนาคมนี้ ตามข้อมูลจาก Market Watch โดยดัชนีนี้เป็นตัวสะท้อนมูลค่าของเงินดอลลาร์เมื่อเทียบกับตะกร้าสกุลเงินหลักอื่น ๆ

ความผันผวนของพันธบัตรรัฐบาลและพันธบัตรเอกชนเป็นปัจจัยเสี่ยง

Coutts อธิบายว่า พันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เป็นสินทรัพย์ค้ำประกันระดับโลก และหากพันธบัตรเหล่านี้มีความผันผวนสูงขึ้น จะนำไปสู่การลดมูลค่าสินทรัพย์ค้ำประกัน (Collateral Haircuts) และทำให้สภาพคล่องในตลาดลดลง

แม้ปัจจุบันความผันผวนของพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ (MOVE Index) จะอยู่ในระดับคงที่ แต่ก็ยังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ซึ่ง Coutts มองว่า หากความผันผวนของพันธบัตรยังคงสูงขึ้น อาจทำให้ค่าเงินดอลลาร์กลับตัวและแข็งค่าขึ้นอีกครั้ง ซึ่งจะเป็นปัจจัยลบต่อ Bitcoin

นอกจากนี้ ส่วนต่างของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรเอกชนได้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลา 3 สัปดาห์ติดต่อกันแล้ว ซึ่งในอดีต การเพิ่มขึ้นของส่วนต่างนี้มักเกิดขึ้นพร้อมกับการที่ราคาของ Bitcoin ได้แตะจุดสูงสุดในระยะสั้น ซึ่งหมายความว่าอาจเป็นสัญญาณเตือนถึงการปรับฐานราคาของ Bitcoin ในอนาคตอันใกล้นี้

Bitcoin ยังมีปัจจัยบวก แม้มีความเสี่ยงระยะสั้น

ถึงแม้ว่าค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าจะเป็นปัจจัยขับเคลื่อนหลักของ Bitcoin ในมุมมองของ Coutts แต่เขายังเตือนว่า ความเสี่ยงจากตลาดพันธบัตรยังไม่ควรถูกมองข้าม

“การอ่อนค่าของดอลลาร์ในเดือนนี้ถือเป็นการลดลงครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 12 ปี แต่ความผันผวนของพันธบัตรและตลาดสินเชื่อยังเป็นสิ่งที่ต้องจับตา” เขากล่าว

นอกจากนี้ Bravos Research ยังกล่าวเสริมว่า การลดลงของ DXY อาจเป็นแรงหนุนสำคัญต่อสินทรัพย์เสี่ยง เช่น หุ้นและคริปโต

Coutts ยังมองว่ามีปัจจัยบวกอื่น ๆ ที่อาจผลักดันราคา Bitcoin ขึ้นต่อไป ไม่ว่าจะเป็น การแข่งขันกันสะสม Bitcoin ระหว่างประเทศต่าง ๆ ผ่านการถือครองเป็นทุนสำรอง หรือสะสมผ่านการขุด

รวมไปถึง Michael Saylor และบริษัทของเขา Strategy ที่อาจเพิ่มการถือครอง Bitcoin อีก 100,000 - 200,000 BTC ในปีนี้ หรือแม้แต่ความต้องการจากกองทุน ETF ที่อาจเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า จากสภาพคล่องในตลาดที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

Coutts เปรียบเทียบ Bitcoin ว่าเป็น "เกมวัดใจครั้งใหญ่" กับธนาคารกลาง โดยมองว่าหากนักลงทุนสาย HODL ยังคงถือครองโดยไม่ใช้เลเวอเรจ (Leverage) โอกาสจะยังคงเป็นของผู้ถือ Bitcoin ต่อไปเรื่อย ๆ

อ้างอิง : Cointelegraph