สุ่มเสี่ยง! พบเหรียญ DOGE กว่า 48 เปอร์เซ็นต์ถูกถือครองโดยวาฬเพียง 10 คน
ข้อมูลใน CoinMarketCap ระบุว่า เหรียญ Dogecoin ทั้งหมด 48% ถูกถือครองโดยเจ้าของวอลเล็ตเพียง 10 เท่านั้น แสดงให้เห็นความเสี่ยงที่ตัวเหรียญจะถูกวาฬปั่นราคา
ข้อมูลใน CoinMarketCap ระบุว่า เหรียญ Dogecoin ทั้งหมด 48% ถูกถือครองโดยเจ้าของวอลเล็ตเพียง 10 เท่านั้น แสดงให้เห็นความเสี่ยงที่ตัวเหรียญจะถูกวาฬปั่นราคา
อย่างที่ทราบกันดีว่า Dogecoin นั้นเป็นเหรียญที่นิยมมากที่สุดในบรรดาเหรียญ meme ทั้งหมด แต่หากมองในแง่ของการพัฒนา เหรียญ DOGE ยังขาดคุณสมบัติในการพัฒนาประโยชน์ในตัวเหรียญอย่างเห็นได้ชัด
Dogecoin กลับมาเป็นที่กล่าวถึงอีกครั้งหลังจากที่ Elon Musk เข้าบริหาร Twitter ซึ่งหลายคนคาดหวังจะได้เห็นเหรียญ DOGE ถูกใช้งานในฟีเจอร์ใหม่ของทวิต แต่ก็ยังไม่มีสัญญาณของการผนวกนำสกุลเงินดิจิทัลมาใช้ใน Twitter แต่อย่างใด เนื่องจาก ณ ตอนนี้บริษัทยังประสบกับปัญหาในหลายทาง
Dogecoin 48 เปอร์เซ็นต์ ตกอยู่ในมือ 'วาฬ'!
ตามข้อมูลล่าสุดจาก CoinMarketCap พบว่ามีเหรียญ DOGE ถึง 48 เปอร์เซ็นต์อยู่ในการครอบครองของนักลงทุนเพียง 10 รายเท่านั้น
โดยที่ผู้ถือ Dogecoin มากที่สุดครอบครองเหรียญอยู่ถึง 25.27% ของทั้งหมด ซึ่งเทียบเท่ากับจำนวน 34,762,065,944.39 ของเหรียญ DOGE
ในขณะที่ Dogecoin มีจำนวน Address ที่ถือครองทั้งหมดที่ 4,510,766 รายการ แต่แค่เพียง 10 อันดับแรกของ Address เหล่านี้รวมกันก็ครอบครองส่วนแบ่งมูลค่าทั้งหมดของเหรียญไว้ถึง 48.03 เปอร์เซ็นต์
รูปแบบการถือครองเหรียญที่เกิดขึ้นถือเป็นภัยคุกคามต่อราคาของเหรียญ DOGE ในอนาคต เนื่องจากวาฬเหล่านี้สามารถควบคุมราคาของเหรียญได้อย่างง่ายดายผ่านปั๊มและโยกย้ายสินทรัพย์
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว