General

ยุโรดิจิทัลจะสามารถใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมายในไม่ช้านี้

3ijhggtsdi8.jpg

ธนาคารกลางยุโรปได้ออกมาประกาศถึงความก้าวหน้าของโครงการยุโรดิจิทัลของพวกเขา โดยระบุว่าในอีกไม่กี่อึดใจ e-Euro ของพวกเขานั้นก็จะใช้งานได้อย่างเป็นทางการแล้ว

สมภูมิการแข่งขันในการสร้างสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC) ยังคงดำเนินต่อไปอย่างดุเดือด โดยล่าสุดธนาคารกลางยุโรป หรือ European Central Bank (ECB) ได้ระบุว่ายุโรดิจิทัลของพวกเขาอาจสามารถชำระหนี้ได้ตามกฎหมายในเขตอำนาจศาลของตนในไม่ช้า เนื่องจากความคืบหน้าในการศึกษาโครงการริเริ่มดังกล่าว

ยุโรดิจิทัลใกล้ความจริงเข้ามาทุกที

ในวันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา Fabio Panetta สมาชิกคณะบริหารของธนาคารกลางยุโรป ได้เป็นผู้ประกาศผลลัพธ์เบื้องต้นของการสร้างสกุลเงินดิจิทัลในเขตแดนยูโร โดยขณะนี้ ECB กำลังดำเนินการศึกษาในการตรวจสอบความเป็นไปได้ที่จะให้สถานะยูโรดิจิทัลในการชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย ซึ่งเขานั้นได้อธิบายว่าเราทั้งหลายไม่ควรมองข้ามการทำให้ CBDC นั้นมีสถานะในการชำระหนี้ได้ตามกฎหมายเลยแม้แต่น้อย

ทั้งนี้เขายังระบุว่า การที่สกุลเงินดิจทัลของธนาคารกลางนั้นสามารถยืนอยู่ในสถานะดังกล่าวจะทำให้ภาครัฐกลับมาเป็นฝ่ายได้เปรียบเหนือตัวเลือกการชำระเงินอื่น ๆ ที่นำเสนอโดยบริษัทเอกชน และช่วยให้สาธารณชนเข้ามาใช้งานได้ในวงกว้างขึ้นอีกด้วย

Fabio Panetta 1024x576.jpg
Fabio Panetta สมาชิกคณะบริหารของธนาคารกลางยุโรป

“มันค่อนข้างจะแปลกประหลาดหากเราไม่ทำให้ตราสารชนิดใหม่ที่ถูกออกโดยธนาคารกลางเหล่านี้มีความสามารถในการชำระหนี้ตามกฎหมายได้”

นอกจากนี้ทาง ECB ยังทำการศึกษาวิจัยในด้านอื่น ๆ ควบคู่กับประเด็นข้างต้นนี้ไปด้วย โดยพวกเขากำลังตรวจสอบความสามารถของ CBDC กับการใช้จ่ายใจร้านค้าปลีกในยุโรป ทั้งยังมองถึงกรณีศึกษาการใช้งานจริง และโครงสร้างพื้นฐานทางด้านเทคทั้ง Front-end และ Back-end อีกด้วย

CBDC ยังคงมีอุปสรรคอยู่พอสมควร

แม้ฝ่ายธนาคารกลางยุโรปจะมองว่า CBDC จะสามารถแซงชนะเหล่าสกุลเงินดิจิทัลอื่น ๆ ที่เอกชนเป็นผู้ให้บริการได้ แต่มันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น เพราะในขณะเดียวกันทาง Elvira Nabiullina ผู้ว่าการธนาคารกลางรัสเซีย ก็ได้ออกมาระบุถึงความสำคัญของการสร้างความไว้วางใจให้แก่บุคคลในสังคมที่พวกเขาจะมีต่อเงินดิจิทัล และยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการแปลงเงิน Fiat เป็นเงินดิจิทัลแบบไร้รอยต่อเพื่อความไม่ซับซ้อนในการใช้งานอีกด้วย

นอกจากนี้เหล่าผู้เชี่ยวชาญทางการเงินทั้งหลายต่างก็เชื่อว่า ผู้บริโภคจำนวนมากอาจจะหลีกเลี่ยงการใช้งาน CBDC หากพวกเขามองว่าวิธีการชำระเงินรูปแบบอื่น ๆ เช่น บัตรเครดิต และการใช้จ่ายผ่านแอป หรือแม้แต่ตัวเลือกใหม่ ๆ เช่น Stablecoins นั้นทำงานได้ดียิ่งกว่า

ด้วยความซับซ้อนที่ว่าเหล่านี้ จึงไม่ใช่เรื่องหน้าแปลกใจเลย ที่ธนาคารกลางยุโรป ซึ่งเป็นหนึ่งในธนาคารชั้นแนวหน้าของโลกวางแผนว่าจะใช้เวลาถึงห้าปีในการดำเนินการเรื่องเหล่านี้

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

Bybit กลับมาดำเนินการถอนเงินได้ตามปกติ หลังถูกแฮกมูลค่า 1.5 พันล้านดอลลาร์
บราซิลอนุมัติ Spot XRP ETF เป็นครั้งแรก! ขณะธนาคารท้องถิ่นเตรียมเปิดตัว StableCoin บน XRPL
นักวิเคราะห์ เผย! การรับรองคำขอ Spot XRP ETF ของ SEC อาจเร่งให้ XRP พุ่งแตะ $6
นักวิเคราะห์คว้ารางวัลจาก Arkham หลังเป็นผู้ที่่ระบุว่า กลุ่มแฮ็กเกอร์จากเกาหลีเหนือ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังการแฮ็ก Bybit มูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์