ความเสี่ยงของการใช้งาน Smart Contract ที่ผู้คนอาจมองข้าม
ผู้ก่อตั้ง Ethereum ได้ออกมาเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงของช่องโหว่ (Exploit) บนระบบสัญญาอัจฉริยะใน DeFi
ผู้ก่อตั้ง Ethereum ได้ออกมาเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงของช่องโหว่ (Exploit) บนระบบสัญญาอัจฉริยะใน DeFi
Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum หนึ่งในสกุลเงินดิจิทัลยอดนิยม ได้ออกมาเตือนถึงอันตรายที่ผู้คนอาจมองข้ามจากความเสี่ยงในการใช้งานสัญญาอัจฉริยะ “Smart Contract” บนโปรโตคอลของโลกการเงินไร้ตัวกลางหรือที่เรารู้จักกันในนาม Decentralized Finance ผ่านการสัมภาษณ์เพื่อเฉลิมฉลองวันครบรอบห้าปีของ Ethereum
ซึ่งนี่ไม่ใช่ประเด็นแรกที่ผู้ก่อตั้งสกุลเงินสุดฮิตรายนี้ได้ออกมาตักเตือนผู้คนเกี่ยวกับแพลตฟอร์ม DeFi เพราะ Buterin ยังได้กล่าวกับผู้ใช้ทั้งหลายว่า “อย่าเสี่ยงที่จะออมเงิน” ใน DefI โดยเด็ดขาด เมื่อเขาไปปรากฏตัวในรายการ Unchained Podcast ของ Laura Shin
ความเสี่ยงที่ยากจะมองเห็น
เมื่อถูกถามให้วิพากษ์เกี่ยวกับสิ่งที่ถือเป็นความกังวลหลักสำหรับ DeFi นาย Buterin ก็ได้ตอบในทันทีว่า
“ผมคิดว่าสิ่งหนึ่งที่เป็นเรื่องใหญ่สำหรับผม คือผู้คนจำนวนมากประเมินความเสี่ยงของการใช้งานสัญญาอัฉจริยะต่ำเกินไป”
Buterin กล่าวว่าการที่อัตราดอกเบี้ยของ Defi นั้นสูงกว่าบัญชีธนาคารแบบดั้งเดิมอย่างมากนั้นหมายความได้ว่า DeFi มีความเสี่ยงสูงกว่าและมีโอกาสที่จะ 'พังทลาย' ได้ไม่ยาก Buterin กล่าวเพิ่มเติมว่าเขาเองไม่มั่นใจว่าแม้แต่แพลตฟอร์ม โปรโตคอลที่ผ่านการตรวจสอบมาแล้วเหล่านี้จะสามารถรับประกันได้ว่าพวกเขาจะไม่ 'พัง' ภายในช่วงระยะหนึ่งด้วยอัตรากำไรขั้นต้นที่กำหนดไว้
“DeFi ยังคงสามารถใช้งานได้ตามปกติ แต่พวกเราควรอย่าทำเหมือนกับว่าแพลตฟอร์มนี้นี้เป็นสถานที่ที่คุณควรแนะนำ หรือสนับสนุนให้ผู้คนจำนวนมากหันมาทำการออมทรัพย์”
มีตัวอย่างของการถูกโจมตีจุดอ่อนของระบบความมั่นคงปลอดภัยจากผู้ใช้รายใหญ่ของ Smart Contact ผ่าน Defi ให้พบเห็นเป็นจำนวนมากในปีนี้ ตัวอย่างเช่น Flash Loan ของ bZx ที่ถูกจู่โจมในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้สูญเสีย Crypto มูลค่าเกือบ 1 ล้านเหรียญสหรัฐและการเกิด Bug ใน Smart Contract ของ Bancor หนึ่งในแพลตฟอร์ม Decentralized Finance ในเดือนมิถุนายนที่ผ่านมาซึ่งทำให้เครือข่ายถูก Shutdown ในทันที
การทำฟาร์มกำลังให้ผลผลิตไม่ยั่งยืน
Buterin มีความกังวลเกี่ยวกับความไม่ยั่งยืนของการ “Yield Farming” หรือการนำ Crypto มาลงทุนในแอปพลิเคชั่นหรือแพลตฟอร์มใหม่แบบชั่วคราวเพื่อเก็งกำไร ซึ่งเขาระบุว่าการจ่ายผลตอบแทนดอกเบี้ยสูง ๆ นั้นมาจากผลของการที่แพลตฟอร์มนั้นปล่อยให้มีการกู้ โดยแพลตฟอร์มต่าง ๆ นั้นไม่สามารถ “ผลิตเหรียญ” เพื่อดึงดูดผู้คนเข้าสู่ระบบนิเวศของพวกเขาตลอดไป เขายังกล่าวเสริมอีกว่า
“มันเป็นการหากำไรแบบระยะสั้นและเมื่อสิ่งล่อใจหายไปแล้ว คุณก็จะสามารถเห็นได้อย่างง่ายดายว่าอัตราผลตอบแทนจะลดลงไปเกือบจะถึงศูนย์เปอร์เซ็นต์”
“มีโครงการ DeFi จำนวนมากที่สามารถรับผิดชอบและอยู่รอดได้เป็นระยะเวลานานโดยไม่ถูกโจมตี และแน่นอนว่านี่ไม่ใช่คุณสมบัติโดยเนื้อแท้ของ DeFi เพราะมันขึ้นอยู่กับหน่วยงานที่บริหารต่างหาก”