สรุปรายงานตลาด! CoinEx Research ชี้ตลาดคริปโตเดือนกุมภาพันธ์เจอแรงกดดันหลายด้าน
ตลาดคริปโตเดือนกุมภาพันธ์เผชิญกับแรงกดดันหนัก หลัง Bitcoin ร่วงต่ำกว่า $80,000 ท่ามกลางแรงเทขายจากสถาบัน และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ขณะที่การแฮกครั้งประวัติศาสตร์ของ Bybit และความวุ่นวายของเหรียญมีมยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์

ตลาดคริปโตเดือนกุมภาพันธ์เผชิญกับแรงกดดันหนัก หลัง Bitcoin ร่วงต่ำกว่า $80,000 ท่ามกลางแรงเทขายจากสถาบัน และความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ ขณะที่การแฮกครั้งประวัติศาสตร์ของ Bybit และความวุ่นวายของเหรียญมีมยิ่งซ้ำเติมสถานการณ์
รายงานตลาดประจำเดือนกุมพาพันธ์ที่ผ่านมาจาก CoinEx Research ชี้ให้เห็นถึงการปรับฐานรุนแรงของตลาดคริปโตในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ซึ่งถูกกดดันจากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจมหภาค การไหลออกของเงินทุนจากสถาบัน และความปั่นป่วนในตลาด เหรียญมีมทางการเมือง (Political Meme Tokens)
Bitcoin ซึ่งเปิดระดับราคารายเดือนที่ $102,000 ได้ร่วงลงต่ำกว่า $80,000 ท่ามกลางกระแสความกังวลของนักลงทุน ขณะที่ความตึงเครียดทางการเมืองเพิ่มขึ้น รวมถึง แผนภาษีการค้าฉบับใหม่จากรัฐบาลของ Trump ที่ทำให้ตลาดสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลกได้รับผลกระทบ
นอกจากนี้ เหตุการณ์ แฮกครั้งประวัติศาสตร์ของ Bybit ที่มูลค่าความเสียหายกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ ก็ซ้ำเติมตลาดให้เลวร้ายลง อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางภาวะตลาดหมี Berachain กลับสามารถเปิดตัวเครือข่ายหลัก (Mainnet) ได้อย่างแข็งแกร่ง พร้อมด้วยเม็ดเงินไหลเข้าสู่ Stablecoin อย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นสัญญาณว่าสภาพคล่องในตลาดอาจยังไม่หมดไป
ตลาดหมีทวีความรุนแรง Bitcoin ดิ่งหนัก นักลงทุนหวาดกลัว
เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมาถือเป็นช่วงเวลาที่ตลาดคริปโตต้องเผชิญกับแรงกดดัน โดยดัชนี Fear & Greed Index ที่มักใช้วัดความเชื่อมั่นของตลาด ลงมาอยู่ในโซน “กลัว” (Fear) Bitcoin ร่วงลงต่ำกว่าแนวรับสำคัญที่ $80,000 ซึ่งเกิดจากแรงขายของนักลงทุนระยะสั้น ประกอบกับการขาดสภาพคล่องหลังจากการเปิดตัวของ เหรียญมีมทางการเมือง เช่น Trump Token และ Melania Token
ตลาดยังได้รับแรงกดดันเพิ่มเติมจาก LIBRA Token Scandal ซึ่งเป็นเหรียญมีมที่ได้รับการสนับสนุนโดย Javier Milei ประธานาธิบดีอาร์เจนตินา แม้ว่าจะได้รับกระแสตอบรับดีในช่วงแรก แต่ราคากลับร่วงลงกว่า 80% หลังมีข่าวฉาวเกี่ยวกับเบื้องหลังของโปรเจกต์ ทำให้ความเชื่อมั่นของนักลงทุนในตลาดเหรียญมีมพังทลายลง และส่งผลกระทบเชิงลบต่อเครือข่ายของ Solana
นโยบายภาษี Trump กดดันตลาดคริปโต สร้างความปั่นป่วนให้สินทรัพย์เสี่ยง
ตลาดคริปโตไม่ได้เผชิญกับปัจจัยภายในตลาดเท่านั้น แต่ยังได้รับผลกระทบจาก นโยบายการค้าของรัฐบาล Trump โดยเฉพาะแผนการเรียกเก็บภาษีใหม่ ซึ่งสร้างความกังวลเกี่ยวกับ ภาวะเงินเฟ้อและการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก นักลงทุนจำนวนมากจึงลดการถือครองสินทรัพย์เสี่ยง เช่น Bitcoin และหันไปถือเงินสดมากขึ้น
นอกจากนี้ นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจชะลอการลดดอกเบี้ย หรือแม้แต่พิจารณา การขึ้นอัตราดอกเบี้ย เพื่อควบคุมภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งยิ่งสร้างแรงกดดันให้กับตลาดคริปโตมากขึ้น
เงินทุนไหลออกจาก Bitcoin ETF ทุบสถิติ 3.5 พันล้านดอลลาร์
หนึ่งในสัญญาณสำคัญที่บ่งชี้ถึงความระมัดระวังของนักลงทุนสถาบันคือ การที่เงินทุนได้ไหลออกจาก Bitcoin ETFs อย่างมหาศาล โดยในเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มีเม็ดเงินไหลออกจาก Spot Bitcoin ETF รวมกว่า 3.5 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นมูลค่าสูงสุดนับตั้งแต่มีการเปิดตัว Bitcoin ETF
แนวโน้มนี้สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนสถาบันกำลังเพิ่มความระมัดระวังมากขึ้น ท่ามกลาง ความผันผวนที่รุนแรงของตลาด และ ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ
Bybit ถูกแฮก! มูลค่าความเสียหายกว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์
อีกหนึ่งเหตุการณ์ที่สร้างแรงสั่นสะเทือนให้กับตลาดคริปโตคือ การแฮกครั้งประวัติศาสตร์ของ Bybit ซึ่งเป็นหนึ่งในกระดานเทรดชั้นนำของโลก
แฮกเกอร์สามารถขโมย Ethereum ได้มากถึง 490,000 ETH หรือคิดเป็นมูลค่ากว่า 1.5 พันล้านดอลลาร์ ทำให้นี่เป็นหนึ่งในเหตุการณ์แฮกที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของตลาดคริปโต การแฮกครั้งนี้ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อ Bybit แต่ยังกระทบต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อกระดานเทรดแบบรวมศูนย์ (CEX) โดยรวมอีกด้วย
Ethereum ได้รับผลกระทบหนักที่สุดจากเหตุการณ์ดังกล่าว โดยราคาดิ่งลงจาก $2,700 เหลือเพียง $2,100 ภายในระยะเวลาอันสั้น
Berachain ทะยานฝ่าวิกฤติ ตลาดหมีไม่อาจหยุดการเติบโตของบล็อกเชนใหม่
ท่ามกลางบรรยากาศตลาดที่ซบเซา Berachain กลับสามารถเปิดตัวเครือข่าย Mainnet ได้อย่างแข็งแกร่ง โดยบล็อกเชน Layer 1 ที่สร้างขึ้นบน Cosmos SDK นี้สามารถดึงดูด เม็ดเงินฝากล่วงหน้ากว่า 2.6 พันล้านดอลลาร์ ผ่านโครงการ Royco Initiative
ทำให้ในช่วงที่รายงานนี้ถูกเผยแพร่ TVL (Total Value Locked) ของ Berachain พุ่งทะลุ 3.1 พันล้านดอลลาร์ กลายเป็นบล็อกเชนอันดับ 6 ของโลก ตามมูลค่าที่ถูกล็อกไว้ แสดงให้เห็นถึงความสนใจของนักลงทุนต่อแพลตฟอร์มใหม่นี้ แม้ว่าตลาดคริปโตโดยรวมจะอยู่ในช่วงขาลง
Stablecoin Inflows แสดงสัญญาณเชิงบวก – ตลาดกระทิงยังไม่ตาย?
แม้ตลาดคริปโตอาจจะอยู่ในช่วงขาลงระยะสั้น แต่การไหลเข้าของ Stablecoin ยังคงแข็งแกร่ง โดยเดือนกุมภาพันธ์มีการไหลเข้ารวม 5 พันล้านดอลลาร์ แม้ว่าจะลดลงจากระดับ 9.9 พันล้านดอลลาร์ ในเดือนมกราคม แต่นักวิเคราะห์มองว่านี่เป็น การชะลอตัวตามธรรมชาติของตลาด มากกว่าการไหลออกของสภาพคล่อง
การไหลเข้าของ Stablecoin มักเป็นตัวบ่งชี้ถึง โครงสร้างตลาดขาขึ้นที่ยังคงอยู่ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณว่าตลาดยังไม่ถึงจุดสิ้นสุดของขาขึ้นในรอบนี้
ตลาดคริปโตในเดือนกุมภาพันธ์ 2025 ถูกครอบงำด้วยความกังวลจากหลายปัจจัย ทั้งภาวะเศรษฐกิจโลก ความไม่แน่นอนทางการเมือง และเหตุการณ์แฮกครั้งใหญ่ ทำให้ Bitcoin ร่วงหนัก นักลงทุนสถาบันถอนทุน และความเชื่อมั่นลดลง
อย่างไรก็ตาม ยังคงมีสัญญาณเชิงบวก จาก6การเปิดตัว Berachain และการไหลเข้าของ Stablecoin ซึ่งอาจช่วยให้ตลาดสามารถฟื้นตัวได้ในเดือนมีนาคม โดยมีสิ่งที่ต้องจับตาคือ ตลาดจะสามารถพลิกกลับมาเป็นขาขึ้นได้หรือไม่ หรือเรากำลังเข้าสู่ขาลงที่ยาวนานกว่าเดิม?
อ้างอิง : CoinEx Research
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว