รายงานจาก Glassnode เผย! ปริมาณการชำระบัญชีรายวันของคริปโตเพิ่มขึ้นเกือบสามเท่า หลังตลาดถูกเร่งด้วยการใช้ Leverage
การล้างสัญญา Futures รายวันกำลังพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการใช้ Leverage ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเหตุการณ์การปรับฐานครั้งใหญ่ในเดือนตุลาคม แสดงให้เห็นว่า ตลาดอนุพันธ์ได้เข้ามามีบทบาทในการกำหนดรอบตลาดของ Bitcoin อย่างมีนัยสำคัญ
การล้างสัญญา Futures รายวันกำลังพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว เนื่องจากการใช้ Leverage ที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะเหตุการณ์การปรับฐานครั้งใหญ่ในเดือนตุลาคม แสดงให้เห็นว่า ตลาดอนุพันธ์ได้เข้ามามีบทบาทในการกำหนดรอบตลาดของ Bitcoin อย่างมีนัยสำคัญ
ปริมาณการชำระบัญชี (Liquidations) รายวันในตลาดคริปโตได้เพิ่มขึ้นเกือบสามเท่าในรอบตลาดปัจจุบัน เนื่องจากปริมาณสัญญา Futures ที่เปิดอยู่ (Open Interest) ปรับตัวสูงขึ้น และกิจกรรมการซื้อขายโดยรวมที่ยังคงขยายตัว ทำให้ตลาดมีการใช้ Leverage มากขึ้น
ตามรายงานล่าสุดจาก Glassnode และ Fasanara ระบุว่า ค่าเฉลี่ยของการชำระบัญชีสัญญาซื้อขายล่วงหน้ารายวันได้เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยสถานะ Long เพิ่มจากประมาณ 28 ล้านดอลลาร์ในรอบที่แล้ว เป็น 68 ล้านดอลลาร์ในปัจจุบัน และสถานะ Short เพิ่มจาก 15 ล้านดอลลาร์ เป็น 45 ล้านดอลลาร์
สิ่งนี้เห็นได้ชัดเจนที่สุดเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ในเหตุการณ์ที่นักวิเคราะห์เรียกว่า "Early Black Friday" ในระหว่างการเทขายครั้งใหญ่นั้น สถานะ Long ถูกชำระบัญชีไปมากกว่า 640 ล้านดอลลาร์ต่อชั่วโมง ขณะที่ราคา Bitcoin ร่วงจาก $121,000 ไปที่ $102,000 ปริมาณสัญญาซื้อขายที่เปิดอยู่ได้ทรุดตัวลง 22% ภายในเวลาไม่ถึง 12 ชั่วโมง จาก $49,500 ล้านดอลลาร์ เหลือ $38,800 ล้านดอลลาร์ ซึ่ง Glassnode เรียกว่าเป็นหนึ่งในเหตุการณ์การล้างสัญญา Leverage ที่รุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ของ Bitcoin
กิจกรรมในตลาด Futures มีการขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยปริมาณสัญญาซื้อขายที่เปิดอยู่พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 67,900 ล้านดอลลาร์ ปริมาณการซื้อขายในตลาด Futures ก็เพิ่มขึ้นอย่างมากเช่นกัน โดยมีมูลค่าการซื้อขายรายวันสูงถึง 68,900 ล้านดอลลาร์ในช่วงกลางเดือนตุลาคม ซึ่งคิดเป็นสัญญาแบบ Perpetual มากกว่า 90%
ปริมาณการซื้อขาย Spot Bitcoin เพิ่มขึ้นสองเท่า
สิ่งที่น่าสังเกตคือ ปริมาณการซื้อขายแบบ Spot ของ Bitcoin ก็เพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเมื่อเทียบกับรอบตลาดก่อนหน้า โดยเพิ่มขึ้นอยู่ในช่วง 8,000 ล้านดอลลาร์ ถึง 22,000 ล้านดอลลาร์ต่อวัน ตามข้อมูลของ Glassnode ในช่วงที่เกิดการร่วงลง เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ปริมาณการซื้อขายแบบ Spot รายชั่วโมงพุ่งขึ้นถึง 7,300 ล้านดอลลาร์ ซึ่งมากกว่าสามเท่าของจุดสูงสุดในช่วงที่ผ่านมา เนื่องจากนักเทรดจำนวนมากรีบเข้ามา "Buy the Dip" แทนที่จะหนีออกจากตลาด
รายงานอ้างว่า นับตั้งแต่มีการเปิดตัวกองทุน Spot Exchange-Traded Funds (ETFs) ในสหรัฐฯ เมื่อต้นปี 2024 บทบาทของ Bitcoin ก็เริ่มเปลี่ยนไป ตลาด Spot กลายเป็นตัวกำหนดราคา การเปลี่ยนแปลงนี้ได้ดึงดูดเงินทุนเข้าสู่สินทรัพย์ ช่วยผลักดันส่วนแบ่งตลาดของ Bitcoin ต่อคริปโตทั้งหมดให้เพิ่มขึ้นจาก 38.7% ในปลายปี 2022 เป็น 58.3% ในปัจจุบัน
กระแสเงินทุนก็สอดคล้องกับแนวโน้มดังกล่าวเช่นกัน เงินทุนที่ไหลเข้าสู่ Bitcoin รายเดือนมีตั้งแต่ 40,000 ล้านดอลลาร์ถึง 190,000 ล้านดอลลาร์ ผลักดันให้ มูลค่ารวมของ Bitcoin ทั้งหมดโดยอิงจากราคาที่เหรียญแต่ละเหรียญเคลื่อนไหวครั้งล่าสุด (Realized Capitalization) พุ่งขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.1 ล้านล้านดอลลาร์ และนำเงินทุนเข้าสู่เครือข่ายมากกว่า 732,000 ล้านดอลลาร์ นับตั้งแต่จุดต่ำสุดของรอบตลาด ในปี 2022 ซึ่งมากกว่ารอบตลาดก่อนหน้าทั้งหมดรวมกัน
"สิ่งนี้เน้นให้เห็นถึงสภาพแวดล้อมของตลาดที่มีสถาบันเข้ามามีบทบาทและมีความเสถียรเชิงโครงสร้างมากขึ้น" Glassnode กล่าว
Bitcoin แข่งขันกับ Visa ในฐานะเครือข่ายชำระเงิน
รายงานยังชี้ให้เห็นถึงบทบาทของ Bitcoin ในฐานะเครือข่ายการชำระเงิน (Settlement Network) ซึ่งปัจจุบันกำลังแข่งกับช่องทางการชำระเงินที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยในช่วง 90 วันที่ผ่านมา เครือข่าย Bitcoin ได้ดำเนินการโอนเงินมูลค่า $6.9 ล้านล้านดอลลาร์ ซึ่งเกินกว่าปริมาณที่ Visa และ Mastercard ทำได้ในช่วงเวลาเดียวกัน
ขณะเดียวกัน อุปทาน Bitcoin กำลังเปลี่ยนไปอยู่ในมือของสถาบันอย่างต่อเนื่อง ตามข้อมูลของ Glassnode ปัจจุบันมี Bitcoin ประมาณ 6.7 ล้าน BTC ถูกถือครองอยู่ในกองทุน ETF งบดุลของบริษัท และคลังสินทรัพย์ดิจิตอล นับตั้งแต่ต้นปี 2024 กองทุน ETF เพียงอย่างเดียวได้เข้าถือ Bitcoin ไปแล้วประมาณ 1.5 ล้าน BTC ขณะที่ยอดคงเหลือบนกระดานเทรดรวมศูนย์กลับลดลง
อ้างอิง : Cointelegraph
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว
