เศรษฐีคริปโตขายหุ้น 15% เพื่อพัฒนานวัตกรรมใหม่
Chamath Palihapitiya เศรษฐีคริปโตขายหุ้น 15% เพื่อเป็นทุนในการสร้างเทคโนโลยีสำหรับโลกอนาคตให้กับบริษัทร่วมลงทุนของเขา
Chamath Palihapitiya เศรษฐีคริปโตขายหุ้น 15% เพื่อเป็นทุนในการสร้างเทคโนโลยีสำหรับโลกอนาคตให้กับบริษัทร่วมลงทุนของเขา
Chamath Palihapitiya อดีตผู้บริหารระดับสูงแห่ง Facebook ออกมายืนยันผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวเมื่อวันศุกร์ที่ 19 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ถึงความเคลื่อนไหวล่าสุดที่เขาในการตัดสินใจขายหุ้นจำนวน 15% ของเขาที่มีอยู่ในแพลตฟอร์มให้บริการเงินกู้ออนไลน์อย่าง SoFi ที่เพิ่งเปิดตัวต่อสาธารณชนไปเมื่อไม่นานมานี้ โดยแพลตฟอร์มดังกล่าวเพิ่งทำการควบรวมกิจการกับบริษัท "เช็คเปล่า" หรือ Blank-check company ของเขาเอง ซึ่งเดิมมีมูลค่าอยู่ราว 8.65 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุดมูลค่าใน Market Cap อยู่ที่ 17.04 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
มหาเศรษฐีคริปโตขายหุ้น 15% เพื่อนำมาพัฒนาเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคต
มหาเศรษฐีคริปโตขายหุ้น 15% ใน Sofi เนื่องจากเขาเล็งเห็นถึงความสำคัญของเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคตที่จะสามารถช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ เติบโตขึ้นได้อย่างมาก โดยเขาได้ระบุผ่านทวิตเตอร์ของเขาว่า
“ตลาดตราสารทุน, ตลาดคริปโต, การประเมิณมูลค่างานศิลปะ, บริการแบบ SaaS (Software as a Service) ต่าง ๆ ดูเหมือนว่าจะทะยานสู่ All-Time High กันทั้งนั้น ... ดังนั้นผมจึงค้นพบว่ามีสิ่งดี ๆ บางอย่างกำลังเกิดขึ้น ซึ่งเราต้องการสิ่งเหล่านี้มากกว่าเมื่อก่อน ดังนั้นผมจึงตัดสินใจขายหุ้นใน SoFi จำนวน 15% เพื่อนำไปลงทุนกับนวัตกรรมใหม่ ๆ”
นอกจากนี้ Palihapitiya ยังได้กล่าวเพิ่มเติมว่าเขาตั้งใจที่จะเพิ่มทุนทางสังคม (Social Capital) ให้กับธุรกิจด้านการแพทย์อย่าง Clover Health แต่ทว่าเขายังไม่ได้ออกมาประกาศถึงจำนวนเงินในการลงทุนครั้งนี้ และ ล่าสุดเขาได้เริ่มออกมาสนับสนุนแพลตฟอร์มแบบ Decentralized หลายโปรเจกต์ด้วยกัน เช่น Solana เป็นต้น
ผลจากการประกาศของมหาเศรษฐีคริปโตรายนี้ทำให้หุ้นของบริษัทร่วงลงมาเกือบ 2% เลยทีเดียว
SoFi แพลตฟอร์มการเงินสมัยใหม่
SoFi เป็นแพลตฟอร์มการเงินสมัยใหม่ที่ประกอบไปด้วยการให้บริการ 5 ส่วนด้วยกัน ได้แก่ สินเชื่อเพื่อการลงทุน, การจัดการการลงทุน, การพัฒนา และ ให้คำปรึกษาทางด้านธุรกิจ, การพัฒนาอาชีพ และ การการกู้ยืมเพื่อการศึกษา
พอร์ตโฟลิโอในส่วนทุนทางสังคมของบริษัทนั้นประกอบไปด้วยบริษัทร่วมทุนกว่า 74 แห่ง และ นาย Palihapitiya เอง ซึ่งมีมูลค่ารวมสุทธิราว 1.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ด้วยเหตุนี้จึงทำให้เขากลายเป็นมหาเศรษฐี Bitcoin (BTC) ไปโดยปริยาย เนื่องมาจากวิสัยทัศน์ที่กว้างไกลของเขาในการมองว่า Bitcoin เป็นสินทรัพย์ที่ควรนำมาใช้เพื่อการลงทุนนั่นเอง