เศรษฐีนักลงทุนชื่อดังเลิกต่อต้านคริปโตแล้ว

Kenneth C. Griffin ผู้ก่อตั้ง Citadel บริษัทผู้ให้บริการด้านการเงิน และกองทุนป้องกันความเสี่ยงข้ามชาติแห่งสหรัฐอเมริกาได้ออกมาเปิดใจพูดถึงสาเหตุที่ทำให้เขาเลิกต่อต้านคริปโต และการอนุมัติให้บริษัทเข้ามามีส่วนร่วมในอุตสาหกรรมสินทรัพย์ดิจิทัลภายในปีนี้ กับ David Rubenstein ในรายการ Bloomberg Wealth แม้ว่าก่อนหน้าเขาจะเคยออกมาเตือนคนรุ่นใหม่ไม่ให้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคริปโต และคิดว่าสิ่งเหล่านี้ไม่มีความจำเป็นที่ต้องนำมาใช้ในชีวิตประจำวันก็ตาม

Griffin เคยคิดว่า Bitcoin จะทำให้เกิดวิกฤตฟองสบู่

ย้อนกลับไปในเดือนพฤศจิกายนปี 2017 มหาเศรษฐีแห่ง Citadel รายนี้มองว่า Bitcoin (BTC) นั้นมีคุณสมบัติหลายอย่างที่จะก่อให้เกิด “วิกฤตฟองสบู่ทิวลิป (Tulip Bulb Mania)” ที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ 100 ปีที่แล้วในฮอลแลนด์ โดยในช่วงเวลานั้น Bitcoin มีราคาซื้อขายเพียง 10,000 ดอลลาร์สหรัฐเท่านั้น ซึ่ง Griffin คาดการณ์ว่าคริปโตอาจพบกับจุดจบที่เต็มไปด้วยคราบน้ำตา

ยิ่งไปกว่านั้นในเดือนพฤศจิกายน ปี 2021 มหาเศรษฐีรายนี้ยังคงเกิดความสงสัยต่อสกุลเงินดิจิทัลอยู่ค่อนข้างมาก เนื่องจากผู้คนสมัยนี้มักจะให้ความสนใจกับนวัตกรรมใหม่ที่เกิดขึ้น ทำให้เขากังวลว่าความหลงใหลในตัวคริปโตเคอเรนซีนั้นอาจเป็นสิ่งที่ผิด

มูลค่าตลาดคริปโตที่เพิ่มขึ้นทำให้ Griffin เลิกต่อต้านคริปโต

อย่างไรก็ตาม ล่าสุด Griffin ได้ออกมายอมรับในระหว่างการให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ Bloomberg Wealth ว่าเขามองสินทรัพย์ดิจิทัลผิดไป พร้อมกล่าวว่า

“ตลอดระยะเวลา 15 ปีที่ผ่านมา คริปโตนั้นเป็นสินทรัพย์ในอุตสาหกรรมการเงินที่ยอดเยี่ยมมาก และผมจะขอพูดให้ชัดเจน แม้ว่าผมจะเคยเป็นคนหนึ่งที่ต่อต้านคริปโตมาก่อน แต่ทว่าตลาดคริปโตในปัจจุบันมีมูลค่าสูงถึง 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งชี้ให้เห็นว่าผมคิดผิดมาโดยตลอด”

อย่างไรก็ตาม ยังคงมีผู้คนจำนวนมหาศาลที่ไม่เห็นด้วยเช่นเดียวกันกับเขา ดังนั้นผู้ก่อตั้ง Citadel จึงมองว่าการแก้ไข และทำให้บรรดานักลงทุน หรือ องค์กรต่าง ๆ หันมายอมรับคริปโตให้มากขึ้นนั้น สามารถทำได้ด้วยการเข้ามามีบทบาทในตลาดคริปโตอย่างจริงจัง ด้วยการอนุมัติให้บริษัทนำสินทรัพย์คริปโตเข้ามารวมเป็นหนึ่งในกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจขององค์กรภายในไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ด้วยเช่นเดียวกัน

ความยิ่งใหญ่ของ Citadel

Citadel Securities ดำเนินธุรกิจในประเทศสหรัฐอเมริการมาอย่างยาวนาน ด้วยการวิเคราะห์ตลาดทั่วโลกผ่านการนำกลยุทธ์ต่าง ๆ เข้ามาใช้เพื่อสร้างตลาดการลงทุนชั้นนำให้กับบรรดาหุ้นส่วนขององค์กร โดยในเดือนมกราคม ที่ผ่านมา ทางบริษัทได้ออกมาประกาศถึงการเข้าลงทุนกับบริษัทร่วมลงทุนคริปโตชื่อดังทั้ง 2 แห่ง ได้แก่ Sequoia Capital และ Paradigm เป็นครั้งแรกด้วยมูลค่ากว่า 1.15 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ พร้อมทั้งได้รับการประเมิณมูลค่าหลังการลงทุนอยู่ที่ 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐอีกด้วย นอกจากนี้ ในปัจจุบันบริษัทมีมูลค่าสินทรัพย์ที่อยู่ภายใต้การจัดการขององค์กรสุทธิ (AUM) อยู่ที่ 3.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

เศรษฐีจาก Citadel เชื่อว่า Ether จะเข้ามาแทน Bitcoin

นักลงทุนมหาเศรษฐีพันล้านได้ออกมาเผยถึงความเชื่อของเขาที่มีต่อคุณสมบัติของ Ether (ETH) ว่าในท้ายที่สุดแล้วสินทรัพย์ที่อยู่บนเครือข่าย Ethereum จะสามารถเข้ามาแทนที่ Bitcoin ได้ เนื่องจากส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่านั่นเอง