แอป Chivo ทำให้ชาวเอลซัลวาดอร์ใช้คริปโตมากขึ้น

หลังจากรัฐบาลเอลซัลวาดอร์ได้อนุมัติให้ Bitcoin (BTC) กลายเป็นสินทรัพย์ที่ถูกต้องตามกฎหมายพร้อมกับเปิดตัวแอปพลิเคชัน Bitcoin Wallet ของตนเองขึ้นเมื่อวันที่ 7 กันยายน ปี 2021 ที่ผ่านมา โดยมีแพลตฟอร์ม Bitso เข้ามาเป็นผู้ดูแลระบบหลังบ้าน (Back-end) แก่แอปฯ ดังกล่าวให้สามารถทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางการซื้อ และขายเหรียญ BTC รวมไปถึงการให้บริการเก็บรักษา และแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลให้กับประชาชนในประเทศได้นั่นเอง ซึ่งในปัจจุบัน ก็ได้ผ่านมากว่า 7 เดือนแล้ว ทางด้านผู้บริหาร Bitso จึงได้ค้นพบหลักฐานสำคัญที่ชี้ให้เห็นว่าแอป Chivo ทำให้ชาวเอลซัลวาดอร์ใช้คริปโตมากขึ้นกว่าเดิมอย่างมาก จนอาจแสดงให้เห็นถึงสัญญาณที่มีนัยสำคัญบางอย่าง เราลองมาดูกันดีกว่าว่าสัญญาณที่ว่านั้นคืออะไรกันแน่

Bitso คือใคร?

Bitso หรือ แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัลสัญชาติเม็กซิกันรายใหญ่ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการดูแลเทคโนโลยีหลังบ้านให้กับ Chivo Wallet ของเอลซัลวาดอร์ ปัจจุบันได้เปิดกิจการกระจายไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ในหลากหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็น เม็กซิโก, บราซิล, อาร์เจนตินา และโคลอมเบีย รวมไปถึงเอลซัลวาดอร์อีกด้วย ซึ่งการเข้าช่วยเหลือเอลซัลวาดอร์ในครั้งนี้ ทางแพลตฟอร์มได้เข้าจับมือร่วมกับธนาคาร Silvergate Bank ในสหรัฐอเมริกาเพื่อให้บริการการทำธุรกรรมด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐแก่ผู้ใช้งานได้ โดยในปี 2020 ที่ผ่านมา บริษัทได้ให้บริการโอนเงินข้ามประเทศระหว่างสหรัฐฯ และเม็กซีโกไปแล้วรวมเป็นมูลค่ากว่า 1.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ก่อนจะออกมาประกาศความพร้อมในการเข้าช่วยเหลือเอลซัลวาดอร์ในปีถัดไป

ทั้งนี้ในเดือนพฤษภาคม ปี 2021 ที่ผ่านมา ทางบริษัทได้ปิดรอบระดมทุนในระดับ Series C ไปด้วยมูลค่ากว่า 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ กลายเป็นบริษัทแห่งแรกในภูมิภาคที่มีมูลค่ารวมสุทธิสูงกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

ผู้บริหาร Bitso ชื่นชมแอป Chivo

ทางด้าน Felipe Vallejo ผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่กำกับดูแลแห่งแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยน Bitso ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านสำนักข่าวต่างประเทศรายหนึ่งเมื่อวันศุกร์ที่ 29 เมษายน ที่ผ่านมา ระบุว่านับตั้งแต่แพลตฟอร์มได้เริ่มทำงานร่วมกับรัฐบาลเอลซัลวาดอร์มาเป็นระยะเวลากว่า 7 เดือนหลังจากเปิดตัว Chivo อย่างเป็นทางการไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น แอปพลิเคชันดังกล่าวก็ได้รับกระแสตอบรับที่ดีจากประชาชนจำนวนมากมาอย่างต่อเนื่อง จนเรียกได้ว่ารัฐบาลสามารถจูงใจให้ชาวเอลซัลวาดอร์หันมาใช้คริปโตได้สำเร็จ แม้ว่าก่อนหน้านี้อาจจะต้องเผชิญกับปัญหาทางเทคนิคบางประการ จนทำให้แอปพลิเคชันต้องยุติการใช้งานลงชั่วคราวก็ตาม

งานวิจัยชี้ แอป Chivo ทำให้ชาวเอลซัลวาดอร์ใช้คริปโตมากขึ้นกว่าเดิม

พร้อมกันนี้ ผู้บริหาร Vallejo ยังได้อ้างอิงถึงผลการศึกษาจากศูนย์วิจัยเศรษฐกิจแห่งชาติที่พบว่าชาวเอลซัลวาดอร์กว่า 40% ยังคงใช้งานแอปพลิเคชันกระเป๋าเงิน Chivo ต่อ หลังจากได้รับเงินช่วยเหลือจากรัฐบาลผ่านทางช่องทางดังกล่าวไปเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งตัวเขาเองก็เชื่อมั่นว่าผลการวิจัยดังกล่าวเป็นการส่งสัญญาณถึงการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ พร้อมระบุว่า

“พวกเราเชื่อว่าเหตุการณ์ในครั้งนี้นับเป็นการส่งสัญญาณการเติบโตของอัตราการยอมรับคริปโตที่ค่อนข้างชัดเจนที่สุด ในขณะที่ผลการศึกษาสินทรัพย์ดิจิทัล และกรณีการใช้งานในแต่ละวันภายในเอลซัลวาดอร์ยังคงมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จะเห็นได้ว่าจำนวนผู้ใช้งานแอปพลิเคชันนั้นได้เพิ่มขึ้นมาพร้อมกับความรู้ และความเข้าใจเกี่ยวกับเทคโนโลยี และโอกาสทางธุรกิจที่เราสามารถสร้างขึ้นมาได้จากคริปโตนั่นเอง”

ด้วยเหตุนี้ เหตุการณ์ข้างต้นจึงเรียกได้ว่าเป็นสัญญาณที่บ่งบอกถึงการเติบโตของอัตราการยอมรับคริปโตที่ชัดเจนอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อนำไปเปรียบเทียบกับอัตราการยอมรับตลาดการเงินในรูปแบบดั้งเดิมของเอลซัลวาดอร์ จะเห็นได้จากผลการสำรวจบางแห่งที่บ่งชี้ว่ามีวัยรุ่นในเอลซัลวาดอร์เพียงแค่ 29% เท่านั้นที่มีบัญชีธนาคารในปี 2017 ที่ผ่านมา

Chivo ก็เปรียบเสมือน Coinbase ในเอลซัลวาดอร์

นอกจากนี้ ผู้บริหาร Bitzo ยังได้เน้นย้ำถึงผลการวิจัยความแข็งแกร่งของอัตราการยอมรับ Chivo เทียบกับอัตราการยอมรับแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตรายอื่น ๆ ที่ชี้ให้เห็นอย่างชัดเจนว่า จำนวนผู้ใช้งานกระเป๋าเงินของเอลซัลวาดอร์นั้นมีมากถึง 2.6 ล้านราย จากจำนวนประชากรทั้งหมดในประเทศที่มีอยู่ราว 6.49 ล้าน ซึ่งสามารถเทียบได้กับ แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนชื่อดังระดับโลก อย่างเช่น Coinbase ที่มีจำนวนผู้ใช้งานในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปี 2021 ที่ผ่านมา อยู่ที่ 11.4 ล้านรายด้วยกัน

Bitso เดินหน้าสอนชาวเอลซัลวาดอร์ใช้คริปโต

Bitso และ Chivo คาดว่าจะเพิ่มอัตราการยอมรับด้วยการให้ความรู้เกี่ยวกับคริปโต และ Blockchain แก่ประชาชน เนื่องจากทางบริษัทได้เล็งเห็นว่าปัจจัยสำคัญที่เป็นอุปสรรคกีดกั้นไม่ให้ผู้คนยอมรับคริปโตเคอร์เรนซีทั้งในแถบละตินอเมริกา และทั่วโลกนั้น ก็คือการศึกษานั่นเอง ดังนั้นทั้ง 2 องค์กรจึงยังคงเดินหน้าให้บริการชาวเอลซัลวาดอร์ด้วยข้อมูล และเครื่องมือที่ช่วยให้พวกเขาเกิดความเข้าใจ และนำนวัตกรรมใหม่ ๆ ไปใช้ได้อย่างสะดวกสบายมากที่สุด เพื่อช่วยเพิ่มอัตราการยอมรับคริปโตให้มากขึ้นไปอีกในอนาคต

แน่นอนว่า กลยุทธ์ดังกล่าวไม่ได้ถูกนำไปใช้แค่เพียงในประเทศเอลซัลวาดอร์เท่านั้น แต่ Vallejo ยังได้พยายามที่จะมอบการศึกษาในเรื่องดังกล่าวเพิ่มเติมไปยังประเทศต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น อาร์เจนตินา, ชิลี, โคลอมเบีย, เม็กซิโก, เปรู และอุรุกวัย เป็นต้น

ความเคลื่อนไหวล่าสุดจาก Bitcoin Wallet ของเอลซัลวาดอร์

ก่อนหน้านี้ในเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา แอปพลิเคชัน Bitcoin Wallet แห่งเอลซัลวาดอร์ก็ได้ออกมาแถลงการณ์ร่วมมือกับ AlphaPoint ผู้ให้บริการโครงสร้างพื้นฐาน White Label หรือ ระบบ ATM ที่ไม่แบ่งแยกบริษัท สามารถให้บริการผ่านบัตรจากทุกธนาคาร เพื่ออัปเดตระบบของแอปพลิเคชันให้สามารถลดค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมลง และเข้าแก้ไขปัญหาในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านเสถียรภาพ, การประมวลผล และการปรับขนาดของเครือข่าย รวมไปถึงผลกระทบต่อสังคมอีกด้วย ซึ่งในอนาคตทางรัฐบาลก็ได้เตรียมวางแผนที่จะเปิดให้ประชาชนสามารถชำระค่าสาธารณูปโภค, จ่ายภาษี และทำธุรกรรรายวันด้วย Bitcoin ผ่าน Chivo ได้อีกด้วยเช่นเดียวกัน