Blockchain

ท่าทีของรัฐบาลต่อสกุลเงินคริปโตในภูมิภาคเอเชีย: ประเทศจีน

Photo 1522628037257 F925ec1e03df.jpg

สรุปสถานการณ์ด้านกฎหมายต่อวงการคริปโตในประเทศเจ้าตลาดอย่างจีน กับการพัฒนาที่เข้มงวดจากส่วนกลาง

การเข้าที่สกุลเงินคริปโตเข้ามามีบทบาทในแวดวงการเงินของโลกนั้น เป็นสิ่งที่รัฐบาลของแต่ละประเทศไม่สามารถที่จะปล่อยผ่านไปได้ เนื่องจากรัฐบาลเหล่านี้อยู่ในฐานะผู้กุมอำนาจในการกำกับดูแลเงินตรา ทั้งยังเป็นผู้กำหนดและจำกัดการไหลเข้าออกของเงินเพื่อเป็นการรักษาดุลภาพของเศรษฐกิจภายในประเทศ ดังนั้นแล้วการเติบโตของวงการคริปโตจึงส่งผลกระทบโดยตรงต่อความสามารถในการควบคุมตลาดเงินของพวกเขา บทความนี้จึงเป็นชิ้นแรกในซีรีย์สรุปสถานการณ์ทางด้านกฎหมายเกี่ยวกับสกุลเงินคริปโตของประเทศในภูมิภาคเอเชียนั่นเอง

แหล่งนวัตกรรมของภูมิภาค

เมื่อมองโดยทั่วไปแล้ว ประเทศจีนนั้นเรียกได้ว่าเป็นประเทศที่สาวกคริปโตนั้นเห็นการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เกี่ยวของกับสกุลเงินคริปโตออกมามากที่สุด ทั้งยังเป็นหนึ่งในพื้นที่ที่มีขุมพลังการขุดเหรียญตามมาตรฐาน ERC-20 อย่างเช่น Bitcoin มากที่สุดในโลกอีกด้วย โดยประเทศดังกล่าวนี้เป็นที่มาของแพลตฟอร์ม Exchange ที่ทรงอิทธิพลที่สุดในวงการอย่าง Binance ทั้งยังเป็นแหล่งกำเนิดของโครงการคริปโตที่มีประโยชน์อีกหลายรายการ

ข้อจำกัดทางกฎหมาย

อย่างไรก็ตามเบื้องหลังภาพการพัฒนาที่เกิดขึ้นนั้น จะพบกับความยากลำบากและความคุมเครือที่เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมคริปโตภายในประเทศ เนื่องจากรูปแบบการปกครองของรัฐบาลประเทศจีนเองนั้นเป็นแบบคอมมิวนิสต์ซึ่งยึดถือนโยบายอย่างเด็ดขาดจากส่วนกลาง ทำให้พื้นที่ในการดำเนินการนั้นถูกจำกัดอยู่ในพื้นที่สีเทาของกฎหมายนั่นเอง นอกจากนี้แล้วสกุลเงินคริปโตยังถูกห้ามไม่ให้มีการดำเนินการซื้อขายภายในประเทศตั้งแต่ในปี 2017 อีกด้วย

การเปลี่ยนแปลง

ทั้งนี้สถานการณ์ดังกล่าวเริ่มเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้นในปี 2019 หลังจากที่ศาลของประเทศจีนได้ตีความให้สกุลเงินคริปโตอย่างเช่น Bitcoin เป็นทรัพย์สินในแบบเสมือน หรือ Virtual Property ทำให้การถือครองและการได้มาซึ่งทรัพย์สินดังกล่าวนั้นสามารถทำได้ แต่การซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัลยังคงถูกจำกัดภายใต้กฎหมายของประเทศอยู่ แต่กรณีก็เป็นการเปิดทางให้กับการดำเนินการด้านคริปโตต่างๆสามารถทำได้มากขึ้นนั่นเอง นอกจากนี้แล้วประธานาธิบดีของประเทศยังออกมากล่าวอย่างเป็นทางการถึงการสนับสนุนเทคโนโลยี Blockchain อีกด้วย

สกุลเงินจากรัฐบาลกลาง

ภายใต้กฎหมายของประเทศที่จำกัดกิจกรรมการซื้อขายสกุลเงินคริปโตนั้น คือ นโยบายสำคัญของประเทศในการพัฒนาสกุลเงินหยวนแบบดิจิทัล (Central Bank Digital Currency หรือ CBDC) ซึ่งจะออกใช้งานโดยธนาคารกลางของประเทศจีน ไม่ใช่เพียงเพื่อแทนที่การใช้เงินสดเท่านั้น แต่เป็นส่วนหนึ่งของระบบการชำระเงินแบบใหม่ของประเทศที่เตรียมขยายไปสู่สากลอย่างที่เกิดขึ้นแล้วผ่านระบบ Alipay นั่นเอง

นอกจากนี้แล้วทางรัฐบาลของประเทศจีนยังได้เน้นย้ำถึงความสำคัญของการนำเทคโนโลยี Blockchain มาใช้งานเพื่อผลักดันคุณภาพสวัสดิการของประเทศ รวมถึงช่วยเหลือภาคธุรกิจภายในประเทศ โดยได้มีโครงการที่เกิดขึ้นแล้วอย่าง Blockchain Service Network (BSN) ที่เข้ามาช่วยธุรกิจขนาดกลางถึงขนาดย่อยในการปฏิบัติตามกฎหมายของประเทศด้านต่าง ๆ อย่างถูกต้อง ทั้งยังรองรับการใช้งานฟีเจอร์อื่น ๆ เช่น การรองรับ Stablecoin เป็นต้น

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

นักวิเคราะห์เตือน! Bitcoin อาจใกล้ถึงจุดสูงสุด หลังผู้ถือครองระยะยาวเทขายกว่า 800,000 BTC ในหนึ่งเดือน
Ham's Rectangle Template   2024 12 10 T173224.361
MARA Holdings ซื้อ Bitcoin เพิ่มอีก 1.1 พันล้านดอลลาร์ พร้อมสร้างสถิติใหม่ด้วยกำลังขุดสูงที่สุดในอุตสาหกรรม
โฆษณา Bitcoin ETF โผล่ในแอป Alipay ของจีนแผ่นดินใหญ่