ธนาคารกลางจีนลุยเพิ่มการใช้หยวนดิจิทัล (e-CNY) แบบเต็มสูบ

พี่จีนยังคงรุกหนักในการทำให้สกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง หรือ CBDC ของพวกเขาเป็นที่นิยมอย่างต่อเนื่อง! โดยทางเจ้าหน้าระดับสูงของธนาคารกลางแห่งแดนมังกรได้ออกมาระบุว่าทางธนาคารกลางกำลังขยายขอบเขตการใช้งานของหยวนดิจิทัล (e-CNY) ของพวกเขาแบบสุดกำลัง

หยวนดิจิทัล (e-CNY) กำลังโตระเบิด!

สำนักข่าวซินหัว ซึ่งเป็นสำนักข่าวสายตรงของรัฐบาลจีน ได้ทำการสัมภาษณ์ Lan Zou หัวหน้าฝ่ายนโยบายการเงินของธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีน (People’s Bank of China: PBoC) โดยเขานั้นประกาศอย่างหนักว่าจีนจะขยายจำนวนพื้นที่ที่ใช้ทำการทดสอบหยวนดิจิทัล (e-CNY) ในประเทศให้เร็วที่สุด

โดยเดิมทีแล้วโครงการหยวนดิจิทัลของพี่จีนได้เปิดทดลองใช้เพียงแค่ 11 พื้นที่เท่านั้น แต่ทว่าแผนการณ์ล่าสุดพวกเขาตั้งใจจะให้เกิดการใช้งานแบบนำร่อง ถึง 23 เขตการปกครอง ครอบคลุม 15 จังหวัด จาก 31 จังหวัดของจีน ซึ่งรวมไปถึงเขตการปกครองตนเองอีกด้วย

ความสำเร็จอันยิ่งโยชน์ของ e-CNY

Lan Zou ระบุว่า PBoC ซึ่งเป็นธนาคารกลางของจีนนั้นมีหน้าที่โดยตรงในการรับผิดชอบการพัฒนาสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง หรือ CBDC อย่าง e-CNY และเขามีความภูมิใจอย่างยิ่งในความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ของการเปิดทดลองใช้งาน e-CNY

“การทดลองโครงการ e-CNY ในช่วงครึ่งแรกของปี 2022 เช่น การทำหน้าที่เป็นวิธีการชำระเงินระหว่างการแข่งขันกีฬาโอลิมปิกที่ปักกิ่ง ประสบความสำเร็จอย่างน่าทึ่ง โดย e-CNY ได้แสดงให้เห็นแล้วว่าเป็นเครื่องมืออันล้ำค่าในการปรับปรุงคุณภาพชีวิต กระตุ้นการบริโภค ทั้งยังสร้างความต้องการภายในที่เพิ่มขึ้น และมันสามารถรับประกันการพัฒนาเศรษฐกิจที่มั่นคงผ่านฟังก์ชันต่าง ๆ เช่น ยูทิลิตี้สัญญาอัจฉริยะ”

ที่สำคัญในการอัปเดตข้อมูลล่าสุด Zou ระบุว่า ตั้งแต่เริ่มต้นโครงการ ผู้บริโภคชาวจีนได้ใช้จ่ายด้วย e-CNY ไปแล้วเป็นจำนวน 264 ล้านธุรกรรม มีมูลค่า 1.235 หมื่นล้านดอลลาร์หรือ 8.3 หมื่นล้านหยวน โดย ณ วันที่ 31 พฤษภาคม มีผู้ค้ามากกว่า 4,567,000 รายทั่วประเทศได้เริ่มยอมรับ CBDC

ทั้งนี้ สำหรับขั้นตอนต่อไป Zou กล่าวว่า PBoC วางแผนที่จะเพิ่มจำนวนไซต์ทดสอบ e-CNY เพิ่มเติม และปรับปรุงความสามารถทางเทคโนโลยีให้ปังกว่านี้อีกหลายขุม

e-CNY มีวันนี้ได้ เพราะ COVID-19

หนึ่งในตัวแปรที่ทำให้เกิดความสำเร็จของโครงการหยวนดิจิทัลคงหนีไม่พ้นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 โดยประเทศจีนนั้นถือเป็นประเทศที่มีมาตรการการล็อกดาวน์ที่เข้มงวด และยาวนานที่สุดแห่งหนึ่งของโลกเลยก็ว่าได้

การที่มาตรการของพี่จีนนั้นเข้มแสนเข้ม ได้บีบบังคับให้ผู้คนจำนวนมากหันมาดำเนินกิจกรรมบนโลกออนไลน์มากยิ่งขึ้นไม่เว้นแม้แต่การจับจ่ายใช้สอย ซึ่งเหล่าเจ้าหน้าที่ระดับจังหวัด และเทศบาล ก็ได้อาศัยจังหวะการกักตัวที่ยาวนานหันมาจับมือกับบริษัทเทคโนโลยีของประเทศเพื่อเปิดตัว e-CNY airdrops เพื่อเสริมแรงให้เหล่าผู้บริโภคหันมาใช้ e-CNY มากขึ้นนั่นเอง

ทั้งนี้ นอกเหนือจากสินค้าอุปโภคบริโภคแล้ว e-CNY ยังสามารถใช้เพื่อชำระค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ภาษี ในเขตเทศบาลต่าง ๆ อีกด้วย