จีนอาจใช้ Bitcoin เป็นอาวุธทางการเงินเพื่อต่อต้านสหรัฐฯ
Peter Thiel นักลงทุนระดับมหาเศรษฐีพันล้าน และผู้ร่วมก่อตั้ง PayPal ได้ออกมาเตือนถึงความเป็นไปได้ในการใช้งานสกุลเงินดิจิทัลในด้านที่เราคาดไม่ถึง โดยเขามองว่า Bitcoin อาจกลายเป็น "อาวุธทางการเงินของจีน" ที่ใช้ในการปลดสถานะสกุลเงินสำรองของดอลลาร์สหรัฐออกไปได้
Peter Thiel นักลงทุนระดับมหาเศรษฐีพันล้าน และผู้ร่วมก่อตั้ง PayPal ได้ออกมาเตือนถึงความเป็นไปได้ในการใช้งานสกุลเงินดิจิทัลในด้านที่เราคาดไม่ถึง โดยเขามองว่า Bitcoin อาจกลายเป็น "อาวุธทางการเงินของจีน" ที่ใช้ในการปลดสถานะสกุลเงินสำรองของดอลลาร์สหรัฐออกไปได้
ในการประชุมเสมือนจริงที่จัดขึ้นสำหรับสมาชิกของ Richard Nixon Foundation ทาง Peter Thiel นักลงทุนระดับมหาเศรษฐีพันล้าน และผู้ร่วมก่อตั้ง PayPal ได้ออกมาแสดงมุมมองของเขาต่อการใช้งาน Bitcoin โดยกล่าวว่าหากสมมติว่าจีนได้ทำการ Long Bitcoin เอาไว้ เจ้า Cryptocurrency ตัวนี้ก็อาจเป็นภัยคุกคามต่อสถานะทางการเงินของดอลลาร์สหรัฐ
Thiel กล่าวว่า
“แม้ว่าฉันจะเป็นผู้เชี่ยวชาญด้าน Cryptocurrency และก็เป็นคนที่ชื่นชอบ Bitcoin มากที่สุด แต่ฉันก็สงสัยว่า ณ จุดนี้ Bitcoin ควรถูกมองว่าเป็นอาวุธทางการเงินของจีนในการต่อต้านสหรัฐฯ หรือไม่ มันได้คุกคามเงิน Fiat โดยเฉพาะอย่างยิ่งมันคุกคามเงินดอลลาร์สหรัฐ”
เขากล่าวเพิ่มเติมว่า การ Long Bitcoin ของจีนบางทีอาจมาจากมุมมองทางภูมิรัฐศาสตร์ ทั้งนี้ทางสหรัฐฯ ควรจะตั้งถามคำถามที่ซับซ้อนขึ้นเกี่ยวกับวิธีการทำงานของมัน
Thiel เป็นนักลงทุนรายใหญ่ในกิจการ Cryptocurrency และเขาเองก็ครอบครองสกุลเงินดิจิทัลอยู่มากมาย อย่างไรก็ตามคำแถลงล่าสุดของเขาดูเหมือนจะแสดงถึงการเปลี่ยนใจของเขา เนื่องจากเขาคิดว่าจีนใช้สกุลเงินดิจิทัลชั้นนำเพื่อบ่อนทำลายอเมริกา ดังนั้นเขาจึงเรียกร้องให้รัฐบาลสหรัฐฯ พิจารณากฎระเบียบที่เข้มงวดมากขึ้นเกี่ยวกับสินทรัพย์ Crypto
บทสนทนาของ Thiel มุ่งเน้นไปที่ความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ - จีนเป็นหลัก เขามักวิพากษ์วิจารณ์ บริษัทในสหรัฐฯที่ทำธุรกิจกับปักกิ่ง เขายังเป็นนักวิจารณ์ที่จู่โจม Silicon Valley มาโดยตลอดนับตั้งแต่เขาออกจากอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในปี 2018 โดยกล่าวว่า บริษัทต่าง ๆ เช่น Facebook และ Google เป็นภัยคุกคามต่อสหรัฐฯ เนื่องจากความสัมพันธ์กับจีน ซึ่งเป็นหัวข้อที่เขาพูดถึงในระหว่างการกล่าวสุนทรพจน์ล่าสุดสำหรับสมาชิกของมูลนิธิริชาร์ดนิกสัน
ความกังวลหลักของ Thiel คือ Bitcoin มีแนวโน้มที่จะทำหน้าที่เป็นสกุลเงินสำรองที่ใช้งานได้ และหากสกุลเงินดอลลาร์ยิ่งถูกลดความนิยมในการถือครองลงไปมากเท่าไหร่ นั่นก็ทำให้ประเทศต่าง ๆ ยิ่งได้รับผลกระทบน้อยลงจากนโยบายการเงิน และนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ
Bitcoin กับการทำหน้าที่แทนเงินสด
Bitcoin มีแนวโน้มที่จะสามารถเข้ามาแทนที่ดอลลาร์สหรัฐเป็นสกุลเงินสำรองของโลกได้ อย่างไรก็ตามเพื่อให้สิ่งนี้เกิดขึ้นสกุลเงินดิจิทัลจะต้องมีความคืบหน้าในหลาย ๆ ด้านที่สำคัญ โดยปกติแล้วสกุลเงินนั้นทำหน้าที่เป็นหน่วยของบัญชี เป็นสินทรัพย์รักษามูลค่า และสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน ในขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐได้รับการยอมรับอย่างดีในด้านดังกล่าว ทั้งนี้นักวิเคราะห์บางคนแสดงความสงสัยว่า Bitcoin สามารถตอบสนองบทบาทหลักดังกล่าวได้หรือไม่?
ซึ่ง Bitcoin นั้นได้รับการสนับสนุนจาก Crypto bulls ในฐานะสินทรัพย์รักษามูลค่าที่สามารถใช้เป็นตัวการในการหักล้างสกุลเงิน Fiat เช่นดอลลาร์สหรัฐ ทั้งยังสามารถป้องกันความเสี่ยงจากอัตราเงินเฟ้ออีกด้วย นั่นจึงทำให้คนบางคนคิดว่ามันเป็น “ทองคำดิจิทัล”
Bitcoin และสินทรัพย์ Crypto อื่น ๆ ยังกลายเป็นหนึ่งในวิธีการที่จะซื้อสินค้า และบริการได้เช่นเดียวกับเงินจริง โดยราคาที่เพิ่มขึ้นของ Bitcoin ได้ดึงดูดความสนใจของนักลงทุนมากหน้าหลายตา ไม่เว้นแม้แต่ Tesla หรือ MicroStrategy เป็นต้น ซึ่งนักลงทุนต้องการทรัพย์สินที่ปลอดภัย และสามารถรักษามูลค่าได้อย่างมั่นคง ซึ่งนั่นก็ตรงกับดอลลาร์สหรัฐแทบจะทุกประการ และเป็นเหตุผลว่าทำไมพวกเขาเหล่านี้จึงลงทุนในสกุลเงินดิจิทัลนั่นเอง