🇺🇸 United States

ผู้ว่าฯ แคลิฟอร์เนีย ไฟเขียว 'ร่างกฎหมายควบคุมคริปโต' ตั้งเป้าบังคับใช้ปี 2025

ผู้ว่าฯ แคลิฟอร์เนีย ไฟเขียว 'ร่างกฎหมายควบคุมคริปโต' ตั้งเป้าบังคับใช้ปี 2025

ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย ไฟเขียว 'ร่างกฎหมายควบคุมคริปโต' สั่งทุกบริษัทต้องมีไลเซนส์ก่อนเริ่มต้นธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ตั้งเป้ามีผลบังคับใช้ปี 2025

วันที่ 13 ตุลาคม ‘Gavin Newsom’ ผู้ว่าการรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา อนุมัติร่างกฎหมายควบคุมอุตสาหกรรมคริปโต ที่จะเป็นการเข้ามาเสริมแกร่งและเพิ่มความเข้มงวดให้กับการดำเนินงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคริปโต ในชื่อ ‘Digital Financial Assets Law’

โดยในร่างกฎหมายระบุว่าจะเป็นการกำหนดให้ทั้งบุคคลทั่วไปและภาคธุรกิจจำเป็นต้องขอใบอนุญาตจาก Department of Financial Protection and Innovation หรือ DFPI ก่อนที่จะเริ่มต้นทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสินทรัพย์ดิจิทัล พร้อมกับคาดว่าร่างกฎหมายดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้วันที่ 1 กรกฎาคม 2025 หรืออีกเกือบ 2 ปีนับจากวันนี้

ข่าวอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับ - สหรัฐอเมริกา

นอกจากนี้ยังเป็นการมอบอำนาจให้ DFPI ในการกำหนดเงื่อนไขต่างๆ ในการดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ซึ่งก็เป็นที่ชัดเจนว่าหากบริษัทหรือผู้ประกอบการใดไม่ปฎิบัติตามข้อกำหนดที่ระบุไว้ อาจจะต้องเจอโทษ

มันจำเป็นที่จะต้องเริ่มดำเนินการด้วยสมดุลระหว่างการปกป้องผู้บริโภคจากภัยอันตราย และส่งเสริมสภาพแวดล้อมให้กับนวัตกรรมที่มีประโยชน์

สำหรับตัวของ ‘Gavin Newsom’ เองก็เคยปฎิเสธที่จะเซ็นร่างกฎหมายที่มีลักษณะคล้ายกันมาก่อนแล้วเมื่อปีก่อนหน้า โดยเป็นร่างกฎหมายที่บังคับให้ภาคธุรกิจต้องมีใบอนุญาตก่อนที่จะสามารถดำเนินธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับคริปโตได้

แต่ในครั้งนั้นเจ้าตัวก็เลือกที่จะไม่เห็นชอบ โดยให้เหตุผลว่าร่างกฎหมายยังไม่ยืดหยุ่นพอที่จะสามารถรองรับเทรนด์คริปโตที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วได้ รวมไปถึงต้องการให้กฎหมายต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับคริปโตชัดเจนเสียก่อน ก่อนที่จะเริ่มต้นกำหนดให้มีใบอนุญาตสำหรับธุรกิจ

ที่มา: Cointelegraph, BitcoinSistemi

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

นักวิเคราะห์ชี้ Bitcoin ยังมีโอกาสพุ่งแตะจุดสูงสุดในช่วง $220,000 ถึง $330,000 แม้ราคาปัจจุบันเริ่มย่อตัว
นายกเทศมนตรีเมืองปานามาเสนอแนวคิดให้เรือที่จ่าย Bitcoin ได้รับสิทธิลัดคิวผ่านคลองปานามา
Bitcoin ร่วงลงต่ำกว่า $104,000 แต่ข้อมูลชี้! นักเทรดมืออาชีพยังเชื่อมั่นในแนวโน้มขาขึ้น
ปริมาณธุรกรรม Stablecoin พุ่งแตะ 94,000 ล้านดอลลาร์ นำโดยการชำระเงินแบบ B2B และการเชื่อมกับบัตร