JPMorgan ชี้ Bitcoin ยัง “ถูก” เมื่อเทียบกับทองคำ ประเมินมูลค่าอยู่ที่ 170,000 ดอลลาร์
นักวิเคราะห์จาก JPMorgan ระบุว่า Bitcoin มีโอกาสปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 6–12 เดือนข้างหน้า โดยประเมินว่าอาจมีราคาแตะ 170,000 ดอลลาร์ หากเทียบมูลค่ากับทองคำตามอัตราความผันผวนของราคา

นักวิเคราะห์จาก JPMorgan ระบุว่า Bitcoin มีโอกาสปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 6–12 เดือนข้างหน้า โดยประเมินว่าอาจมีราคาแตะ 170,000 ดอลลาร์ หากเทียบมูลค่ากับทองคำตามอัตราความผันผวนของราคา
สถาบันการเงินยักษ์ใหญ่ JPMorgan เปิดเผยในรายงานเมื่อวันพุธว่า Bitcoin กำลังมีราคาซื้อขายต่ำกว่ามูลค่าจริง (Fair Value) เมื่อเทียบกับ ทองคำ หลังจากปรับตามระดับความผันผวนของราคาแล้ว
นักวิเคราะห์ของบริษัทอธิบายว่า ความผันผวนของทองคำที่เพิ่มขึ้นระหว่างการปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในเดือนตุลาคม ทำให้ทองคำกลายเป็นสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงมากขึ้น ขณะที่ Bitcoin กลับดู “น่าดึงดูด” สำหรับนักลงทุนมากขึ้นในแง่ของความเสี่ยงต่อผลตอบแทน
“เมื่อคำนวณตามอัตราความผันผวนระหว่าง Bitcoin ต่อทองคำ ซึ่งอยู่ที่ 1.8 หมายความว่า Bitcoin มีความเสี่ยงมากกว่าทองคำราว 1.8 เท่า มูลค่าตลาดของ Bitcoin ที่ 2.1 ล้านล้านดอลลาร์ในปัจจุบันจึงควรเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 67% เพื่อสะท้อนมูลค่าที่ควรจะเป็น ซึ่งจะเท่ากับราคาประมาณ 170,000 ดอลลาร์ต่อเหรียญ” — JPMorgan กล่าวในรายงาน
นักวิเคราะห์ของ JPMorgan จึงสรุปว่า Bitcoin มี “โอกาสปรับตัวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในช่วง 6–12 เดือนข้างหน้า” โดยอิงตามสมมติฐานเชิงกลไกของมูลค่าตลาดเมื่อเทียบกับทองคำ
นักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งยังคงไม่เชื่อในตลาดขาขึ้น
อย่างไรก็ตาม มุมมองจาก JPMorgan สวนทางกับนักวิเคราะห์บางรายที่เริ่มลดการคาดการณ์ราคาของ Bitcoin หลังจากราคาหลุดระดับ 100,000 ดอลลาร์ เป็นครั้งแรกในรอบ 4 เดือนเมื่อต้นสัปดาห์นี้
บริษัทการลงทุน Galaxy Digital ปรับลดคาดการณ์ราคา Bitcoin สิ้นปี 2025 เหลือ 120,000 ดอลลาร์ จากเดิมที่ 185,000 ดอลลาร์ โดยให้เหตุผลว่าแรงขายจากนักลงทุนรายใหญ่ ที่ปล่อย BTC กว่า 400,000 เหรียญในเดือนตุลาคม รวมถึงกระแสของเงินทุนที่หมุนไปยังสินทรัพย์อื่นและปัจจัยมหภาคจากสงครามการค้า ส่งผลให้ตลาดขาดแรงหนุนระยะสั้น
Alex Thorn หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ Galaxy อธิบายว่า Bitcoin กำลังก้าวเข้าสู่สิ่งที่เรียกว่า “ช่วงแห่งการเติบโต” ซึ่งมีลักษณะสำคัญคือ สถาบันเข้ามาถือครองมากขึ้น มีการลงทุนผ่านกองทุนเพิ่มขึ้น และมีความผันผวนลดลง
“การมาของกองทุน ETF ช่วยดูดซับสภาพคล่องในตลาด ทำให้การปรับขึ้นของราคา BTC ในรอบนี้อาจเกิดขึ้นอย่างช้ากว่ารอบก่อนหน้า” Thorn กล่าวเสริม
อ้างอิง : Cointelegraph
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว








