Blockchain

Blockchain อาจสามารถแก้ปัญหาการกลั่นกรองเนื้อหาของ Twitter และ Facebook ได้

Photo 1579869847557 1f67382cc158.jpg

การวางระบบแบบกระจายอำนาจนั้นจะช่วยปกป้องแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียจากการแบ่งขั้วผู้ใช้ด้วยการเมืองได้หรือไม่?

ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมาแนวทางปฏิบัติในการกลั่นกรองเนื้อหาที่ถูกนำเสนอผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียทั่วโลกนั้นถูกวิพากษ์วิจารณ์จากผู้คนอย่างหนักในทิศทางเดียวกัน แม้พวกเขาจะอยู่ท่ามกลางจุดยืนทางการเมืองที่แตกต่างกันก็ตาม โดยเหล่าผู้ที่มีความคิดที่เอนเอียงไปทางอิสรนิยมมีแนวโน้มที่จะวิพากษ์วิจารณ์แพลตฟอร์มสื่อสังคมออนไลน์ว่าควรมุ่งเน้นจัดทำการเซ็นเซอร์เนื้อหาทางการเมืองที่ถูกต้องเป็นหลัก ในขณะที่เหล่าผู้ฝักไฝ่ทางเสรีนิยมยืนกรานว่าแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียไม่ได้มีการใส่ใจที่เพียงพอในการกรองเนื้อหาที่ไม่เหมาะสมออกไปเลยแม้แต่น้อย

เรื่องนี้รายแรงกว่าที่เราคิด

หากคุณกำลังสงสัยว่าการไม่คัดกรองเนื้อหานั้นส่งผลร้ายแรงมากเพียงใด ก็ต้องย้อนกลับไปดูกรณีตัวอย่างจากการตั้งข้อกล่าวหากของเอฟบีไอ ต่อบุคคลทั้งสิ้น 6 คนที่มีแผนจะลักพาตัว Gretchen Whitmer ผู้ว่าการรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยมีการรายงานถึงการประสานงานของเหล่าผู้ต้องหาในการวางแผนการกระทำของตนผ่านทางกลุ่มเฟซบุ๊กส่วนตัว

แต่ Blockchain “อาจจะ” เป็นคำตอบของเรื่องนี้

Luis Cuende ผู้ร่วมก่อตั้ง Aragon โครงการซอฟต์แวร์โอเพ่นซอร์สที่อนุญาตให้สร้าง และจัดการองค์กรแบบกระจายอำนาจกล่าวกับ Cointelegraph ว่าเทคโนโลยีการกระจายอำนาจที่บริษัทของเขากำลังพัฒนานั้นสามารถค้นหากรณีการใช้งานที่สมบูรณ์แบบบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook และ Twitter ได้

Argon จะจัดการปัญหาเหล่านี้อย่างไร?

หนึ่งในระบบการทำงานของ Aragon คือ “ศาลเสมือนจริง” (Virtual Court) ซึ่งผู้เข้าร่วมต้องเดิมพันด้วย Crypto จำนวนหนึ่งแล้วส่งไปยังการตัดสินของคณะลูกขุนในลักษณะการกระจายอำนาจ

การตัดสินคดีความนั้นมีรูปแบบเช่นเดียวกับระบบศาลปกติ โดบฝ่ายที่แพ้สามารถยื่นอุทธรณ์ต่อศาลที่สูงกว่า (ในคดีของ Argon ซึ่งมีคณะลูกขุนมากกว่า) และในที่สุดก็นำคดีของพวกเขาไปสู่สิ่งที่ Cuende เรียกมันว่า "ศาลฎีกา" ซึ่งเครือข่ายทั้งหมดจะลงคะแนนเสียง แต่ Aragon Court นะเนยังอยู่ในช่วงเบต้า และผู้เข้าร่วมได้ตัดสินคดีพื้นฐานเพียงไม่กี่คดีเท่านั้น

Cuende เชื่อว่าการกลั่นกรองเนื่อหาจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียเป็นกรณีการใช้งานที่สมบูรณ์แบบสำหรับเทคโนโลยีของ Aragon เมื่อเทคโนโลยีถูกพัฒนามาถึงจุดที่มันควรจะเป็น ในมุมมองของเขาการแบ่งขั้วของปรากฏการณ์นี้เกิดขึ้นจากการที่ผู้ให้บริการฝ่ายเดียวได้ทำการควบคุมผลลัพธ์ของเนื่อหาซึ่งนั้นถือเป็นการเซ็นเซอร์ ในขณะที่หากปล่อยให้ชุมชนเป็นฝ่ายตัดสินใจ ผลลัพท์ของมันก็จะเหมือนการกลั่นกรองมากกว่า

Luis Cuende 1024x608.jpeg
Luis Cuende ผู้ร่วมก่อตั้ง Aragon
“ผมคิดว่าการเซ็นเซอร์คือการที่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่ง เพียงฝ่ายเดียวเป็นผู้ออกมากำหนดกฎเกณฑ์การเผยแพร่เนื้อหา ส่วนการคัดกรองเนื้อหา แท้ที่จริงแล้วคือการที่ทุกฝ่ายต่างต้องมีความเห็นพ้องต้องกันในกฎ ไม่เช่นนั้นผมคิดว่าหาก Twitter และ Facebook ถูกควบคุมโดยผู้ใช้จริงในทางใดทางหนึ่งที่ให้เกิดความรู้สึกยุติธรรมกับผู้คนทุก ๆ คน เราก็สามารถตัดสินใจร่วมกันเกี่ยวกับกฎการกลั่นกรองเนื้อหาได้ ซึ่งเราสามารถตัดสินใจร่วมกันได้ว่าจะทำอะไร หรือไม่ทำอะไรและเราสามารถผลักดันสิ่งนั้นไปข้างหน้าได้ ซึ่งเราสามารถนำมันไปใช้ได้ทันทีในปัจจุบันเพราะเทคโนโลยีก็อยู่ที่นั่น”

ผู้ให้บริการโซเชียลมีเดียต่างรู้ถึงความสามารถของ Blockchain

Jack Dorsey ได้ระบุก่อนหน้านี้ว่าเทคโนโลยี Blockchain จะเป็นตัวเปลี่ยนเกมสำหรับอินเทอร์เน็ตโดยที่ Twitter ก็ไม่มีข้อยกเว้น เขาเองยังเป็นแกนนำสำหรับการสนับสนุนเทคโนโลยีการกระจายอำนาจอีกด้วย โดยไม่นานมานี้ Square บริษัทภายใต้การดูแลของเขาได้ประกาศซื้อ Bitcoin (BTC) มูลค่า 50 ล้านดอลลาร์

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

นักวิเคราะห์ เผย Bitcoin ร่วงเดือนมกราคมเป็นเรื่องปกติใน “ปีหลังเกิด Halving”
นักวิเคราะห์เผย! วาฬ Bitcoin เก็บเพิ่มอีก 34,000 BTC หลังการเทขายช่วงธันวาคม
Donald Trump เตรียมเข้าพิธีสาบานตน แต่ความเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบคริปโตอาจยังต้องใช้เวลา - หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ NYDIG
วุฒิสมาชิกรัฐโอคลาโฮมาเสนอร่างกฎหมาย Bitcoin Freedom Act หนุนการใช้ Bitcoin ในการชำระเงิน