Bitcoin ETF ของ BlackRock เผชิญแรงขายหนักสุดในประวัติศาสตร์ มูลค่าการไหลออก $420 ล้านภายในวันเดียว
กองทุน iShares Bitcoin Trust (IBIT) ของ BlackRock เผชิญแรงขายมหาศาล สูญเงินไหลออกถึง $420 ล้าน ภายในหนึ่งวัน ถือเป็นการไหลออกครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่เปิดตัวเมื่อต้นปี 2024

กองทุน iShares Bitcoin Trust (IBIT) ของ BlackRock เผชิญแรงขายมหาศาล สูญเงินไหลออกถึง $420 ล้าน ภายในหนึ่งวัน ถือเป็นการไหลออกครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่เปิดตัวเมื่อต้นปี 2024
เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา กองทุน IBIT Spot Bitcoin ETF ของ BlackRock เผชิญกระแสเงินทุนไหลออกสูงเกือบ 5,000 BTC คิดเป็นมูลค่าประมาณ $420 ล้าน ซึ่งเป็นการไหลออกสูงสุดเป็นประวัติการณ์ แซงหน้าการไหลออกมูลค่า $332 ล้านเมื่อวันที่ 2 มกราคม 2025
การเทขายครั้งนี้เกิดขึ้นหลังจากที่กองทุน Spot Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ เผชิญแรงขายรวมกันกว่า $1.1 พันล้าน ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และปัจจบุันนับเป็นวันที่ 7 ติดต่อกันที่มีเงินทุนไหลออกจากกองทุน Bitcoin ETF เหล่านี้ รวมเป็นมูลค่าประมาณ $3 พันล้าน
ข้อมูลจาก CoinGlass ระบุว่า ในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ Bitcoin ETF ทั้งมหดในสหรัฐฯ มีมูลค่าการไหลออกรวมกัน $756 ล้าน ขณะที่ Nate Geraci ประธานของ ETF Store กล่าวว่าเหตุการณ์นี้อาจเป็นเพียง “แรงขายระยะสั้น” เท่านั้น
นอกจาก IBIT แล้ว กองทุน Fidelity Wise Origin Bitcoin Fund (FBTC) ก็เผชิญการไหลออกเป็นวันที่ 7 ติดต่อกัน โดยในวันเดียวกันมีเงินไหลออกเพิ่มเติมอีก $145.7 ล้าน
Bitcoin ETF จากผู้ให้บริการรายอื่นอย่าง Bitwise, Ark 21Shares, Invesco, Franklin, WisdomTree และ Grayscale ก็เผชิญการไหลออกตั้งแต่ $10 ล้าน จนถึง $60 ล้าน
ตลาดคริปโตร่วงหนัก มูลค่าตลาดลดลงกว่า $1 ล้านล้าน จากจุดสูงสุด
กระแสเงินทุนที่ไหลออกจาก Bitcoin ETF สะท้อนถึงแรงเทขายในตลาดคริปโตโดยรวม โดยในวันที่ 26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา มูลค่าตลาดคริปโตได้ลดลงอีก 5.6% เหลือ $2.9 ล้านล้าน ขณะที่ราคา Bitcoin ดิ่งลงแตะ $82,455
ปัจจุบัน มูลค่าตลาดคริปโตเผชิญการปรับฐานราว 25% โดยมีเงินทุนไหลออกจากตลาดไปแล้วกว่า $1 ล้านล้าน นับตั้งแต่จุดสูงสุดเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2023
อย่างไรก็ตาม Ki Young Ju ผู้ก่อตั้งแพลตฟอร์ม CryptoQuant เตือนนักลงทุนว่า การขายในช่วงที่ตลาดร่วงอาจเป็น “ความผิดพลาดของมือใหม่” พร้อมชี้ว่า
“การปรับฐาน 30% เป็นเรื่องปกติในตลาดขาขึ้น ในปี 2021 Bitcoin เคยร่วงลงถึง 53% แต่ก็ยังสามารถฟื้นตัวและทำจุดสูงสุดใหม่ได้อยู่ดี”
นักวิเคราะห์ชี้ Hedge Fund เทขาย ETF ทำให้ราคา Bitcoin ร่วง
นักวิเคราะห์และผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมคริปโต อย่าง Arthur Hayes ผู้ร่วมก่อตั้งกระดานเทรด BitMEX และ Markus Thielen หัวหน้าฝ่ายวิจัยของ 10x Research มองว่า นักลงทุนหลักของ Bitcoin ETF ส่วนใหญ่เป็นกองทุน Hedge Fund ที่เข้ามาทำกำไรจากส่วนต่างราคา (Arbitrage) มากกว่าการถือ Bitcoin ในระยะยาว
ตอนนี้ กลุ่มนักลงทุนเหล่านี้กำลังทยอยขายหลังจากโอกาสทำกำไรจากการ Arbitrage เริ่มลดลง ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้ Bitcoin เผชิญแรงขายอย่างต่อเนื่อง
Arthur Hayes คาดการณ์ไว้ตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ว่า ถ้าหากยังมีแรงขายจาก Bitcoin ETF อย่างต่อเนื่อง ราคา Bitcoin อาจร่วงลงไปได้ถึงระดับ $70,000
ขณะที่เทรดเดอร์บางกลุ่มกำลังจับตาระดับแนวรับสำคัญที่ $74,000 อย่างใกล้ชิด ภายหลังจากที่ประธานาธิบดี Donald Trump ประกาศแผนการเพิ่มมาตรการภาษีนำเข้ารอบใหม่ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อทิศทางตลาดคริปโตในระยะสั้น
อ้างอิง : Cointelegraph
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว