ข่าวคริปโตเคอเรนซี่

Bitcoin ETF ของ BlackRock ปิดสถิติการไหลเข้าต่อเนื่อง 31 วัน ด้วยการไหลออกครั้งใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์

Bitcoin ETF ของ BlackRock ปิดสถิติการไหลเข้าต่อเนื่อง 31 วัน ด้วยการไหลออกครั้งใหญ่ที่สุดเป็นประวัติการณ์

BlackRock สิ้นสุดสถิติการรับเงินไหลเข้าสู่กองทุน Spot Bitcoin ETF นาน 31 วัน ด้วยการไหลออกครั้งใหญ่ที่สุดตั้งแต่กองทุนเริ่มเปิดซื้อขาย โดยมากกว่าสถิติเดิมเกือบ 12.7 ล้านดอลลาร์

BlackRock บริษัทบริหารสินทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ยุติสถิติการรับเงินไหลเข้าต่อเนื่องสู่กองทุน Spot Bitcoin ETF ที่ยาวนานถึง 31 วัน ด้วยการไหลออกจากกองทุนสูงสุดนับตั้งแต่เปิดตัวในเดือนมกราคม 2024

ตามข้อมูลจาก Farside ระบุว่า เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม กองทุน iShares Bitcoin Trust (IBIT) ของ BlackRock มีเงินไหลออกถึง 430.8 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นมูลค่าสูงสุดที่เคยเกิดขึ้น โดยมากกว่าสถิติก่อนหน้าที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่มีเงินไหลออก 418.1 ล้านดอลลาร์

กองทุน Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ ไหลออกต่อเนื่อง

โดยรวมแล้ว กองทุน Spot Bitcoin ETF ทั้ง 11 กอง ในสหรัฐฯ มีเงินไหลออกสุทธิเป็นวันที่สองติดต่อกันในวันที่ 30 พฤษภาคม รวมมูลค่า 616.1 ล้านดอลลาร์ หลังจากในวันที่ 29 พฤษภาคม มีการไหลออกสุทธิ 346.8 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นวันที่ยุติสถิติการไหลเข้าต่อเนื่องนาน 10 วันของ ETF เหล่านี้

กองทุน Spot Bitcoin ETF ได้รับไหลเข้าสะสมรวมกันกว่า 44,350 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นับตั้งแต่เริ่มเปิดในเดือนมกราคม 2024 ( ที่มา : Farside )
กองทุน Spot Bitcoin ETF ได้รับไหลเข้าสะสมรวมกันกว่า 44,350 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ นับตั้งแต่เริ่มเปิดในเดือนมกราคม 2024 ( ที่มา : Farside )

แม้ในวันที่ 29 พฤษภาคม BlackRock จะยังคงเป็นเพียงผู้จัดการกองทุนรายเดียวที่มีเงินไหลเข้า ขณะที่ผู้ออกกองทุนรายอื่นล้วนเผชิญแรงขายทั้งหมด สร้างความสนใจในแวดวงนักลงทุนเป็นอย่างมาก

Kyle Chasse ผู้ก่อตั้ง Master Ventures แสดงความคิดเห็นว่า “ทุกเจ้ามีแต่สีแดง (เงินไหลออก) แต่ BlackRock กลับยังซื้อเพิ่ม… นี่มันสมองระดับอัจฉริยะชัด ๆ”

Chasse ยังกล่าวเสริมอีกว่า การไหลออกของเงินจาก ETF ในครั้งนี้ “ไม่ใช่ความตื่นตระหนกของนักลงทุนรายย่อย แต่เป็นการเปลี่ยนมือของสินทรัพย์ไปสู่กลุ่มที่มีความมั่นคงมากกว่าอย่างเงียบ ๆ”

Bitcoin ขยับขึ้น 9.14% จาก 30 วันที่ผ่านมา ( ที่มา : CoinMarketCap )
Bitcoin ขยับขึ้น 9.14% จาก 30 วันที่ผ่านมา ( ที่มา : CoinMarketCap )

ขณะที่ราคาของ Bitcoin ในตลาด ณ วันที่ 30 พฤษภาคม อยู่ที่ $103,732 ลดลง 1.47% ภายใน 24 ชั่วโมง ตามข้อมูลจาก CoinMarketCap

เงินไหลเข้า ETF ไม่ได้สะท้อนในราคาตลาด

Nick Forster ผู้ก่อตั้ง Derive ให้สัมภาษณ์กับ Cointelegraph ว่า แม้จะมีเงินไหลเข้าสู่กองทุน Bitcoin ETF ในระดับสูง แต่กลับไม่ส่งผลต่อราคาของ Bitcoin ในตลาดสปอตอย่างชัดเจน

“Forster กล่าวว่า “แม้จะมีเม็ดเงินไหลเข้าสู่ iShares Bitcoin Trust ของ BlackRock มากกว่า 6.2 พันล้านดอลลาร์ ในเดือนพฤษภาคมนี้ แต่ราคาของ Bitcoin กลับไม่ได้ปรับขึ้นตามในระดับที่ควรจะเป็น”

เพียงในสัปดาห์การซื้อขายที่สิ้นสุดวันที่ 23 พฤษภาคม กองทุน Spot Bitcoin ETF ทั้งหมดในสหรัฐฯ ยังสามารถดึงดูดเงินไหลเข้าสุทธิได้ถึง 2.75 พันล้านดอลลาร์

แม้การไหลออกครั้งใหญ่ของ BlackRock จะดูเป็นสิ่งที่สำคัญ แต่ยังไม่มีสัญญาณชัดเจนว่าเป็นจุดเปลี่ยนด้านความเชื่อมั่นของนักลงทุน ข้อมูลหลายด้านยังบ่งชี้ว่า กระแสการถือครองในระยะยาวและกลุ่มนักลงทุนรายใหญ่ยังคงแข็งแกร่ง ซึ่งอาจรองรับความผันผวนที่เกิดขึ้นในระยะสั้นได้

อ้างอิง : Cointelegraph

ภาพหน้าปกจาก : U.today

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต

ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง

ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล

Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว

ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

นักวิเคราะห์ชี้ Bitcoin ยังมีโอกาสพุ่งแตะจุดสูงสุดในช่วง $220,000 ถึง $330,000 แม้ราคาปัจจุบันเริ่มย่อตัว
Bitcoin ร่วงลงต่ำกว่า $104,000 แต่ข้อมูลชี้! นักเทรดมืออาชีพยังเชื่อมั่นในแนวโน้มขาขึ้น
นายกเทศมนตรีเมืองปานามาเสนอแนวคิดให้เรือที่จ่าย Bitcoin ได้รับสิทธิลัดคิวผ่านคลองปานามา
ปริมาณธุรกรรม Stablecoin พุ่งแตะ 94,000 ล้านดอลลาร์ นำโดยการชำระเงินแบบ B2B และการเชื่อมกับบัตร