Exchange

Bitfinex ยังคงยืนยันให้บริการคริปโตชาวรัสเซีย

Bitfinex to Leave Ontario as Regulatory Pressure Piles up 730x360 1 1200x720 1.jpg

แม้ว่าบริษัทหลายแห่งในประเทศได้เริ่มระงับการให้บริการตามมาตรการคว่ำบาตรแล้วก็ตาม แต่ทว่า Bitfinex ยังคงยืนยันให้บริการคริปโตแก่ชาวรัสเซียต่อไป

สถานการณ์ความรุนแรงระหว่างรัสเซีย และยูเครนยังคงดำเนินต่อไปอย่างต่อเนื่อง บริษัททั่วโลกพากันออกมาคว่ำบาตร และระงับการให้บริการแก่ประชาชนชาวรัสเซียกันเป็นจำนวนมาก เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้แก่ยูเครน และเรียกร้องให้รัสเซียยุติการรุกรานไปยังพื้นที่อื่น ๆ แต่ทว่าบริษัทในเครือผู้ผลิต และให้บริการเหรียญ Stablecoin รายใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Tether (USDT) หรือ ที่รู้จักกันในชื่อ Bitfinex ยังคงยืนยันให้บริการคริปโต และได้กลายเป็นองค์กรคริปโตเพียงรายเดียวที่ตัดสินใจไม่ระงับบัญชีของลูกค้าชาวรัสเซีย

สาเหตุหลักที่ทำให้ Bitfinex ยังคงยืนยันให้บริการคริปโตในรัสเซีย

แม้ว่าในเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา Mykhailo Fedorov รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลแห่งยูเครน ได้ออกมาโพสต์ผ่านทวิตเตอร์เพื่อเรียกร้องให้บริษัทด้านการเงิน และองค์กรรายใหญ่ทั่วโลก รวมไปถึงบริษัทคริปโตต่าง ๆ ยุติการให้บริการในประเทศรัสเซียแล้วก็ตาม แต่ทว่าเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 10 มีนาคม ที่ผ่านมา Paolo Ardoino ผู้บริหารฝ่ายเทคโนโลยี (CTO) แห่ง Bitfinex ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ผ่านสำนักข่าวต่างประเทศรายหนึ่งพร้อมย้ำว่า Bitfinex ตัดสินใจถูกต้องแล้วที่เลือกไม่คว่ำบาตรชาวรัสเซีย โดยให้เหตุผลว่า

“บริษัทของเราทำงานเพื่อให้แน่ใจว่าบัญชีลูกค้าของเราทั้งหมดจะยังคงไม่มีความเคลื่อนไหวที่แปลกปลอมที่อาจขัดต่อมาตรการการคว่ำบาตรระหว่างประเทศ”

Paolo Ardoino 1024x682.jpeg
Paolo Ardoino ผู้บริหารฝ่ายเทคโนโลยี (CTO) แห่ง Bitfinex

นอกจากนี้ทางองค์กรยังมองว่าการยกเลิกการให้บริการแก่ชาวรัสเซีย เนื่องจากปัญหาความขัดแย้งที่ยังคงดำเนินต่อไปอย่างไม่รู้จบ ซึ่งเกิดจากการกระทำของรัฐบาล อาจไม่ยุติธรรมสำหรับพวกเขาเท่าไร

“องค์กรของเรามองว่าการกระทำของรัฐบาลนั้นไม่ใช่สิ่งที่ใช้เพื่อแสดงให้เห็นว่าประชาชนในประเทศต้องการอะไร ดังนั้นเราจะยังคงให้บริการแก่ชาวรัสเซียต่อไปเพื่อปกป้องบัญชีของลูกค้าเราทั้งหมด เว้นเสียแต่ว่าทางหน่วยงานกำกับดูแลจะออกคำสั่งเด็ดขาดให้พวกเราล้มเลิกสิ่งที่ทำอยู่ … ในขณะนี้มีเพียง Bitfinex เจ้าเดียวที่ยังคงให้บริการแก่ลูกค้าชาวรัสเซีย”

ผลงานที่ผ่านมาของ Bitfinex

Bitfinex เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตรายใหญ่ที่สุดในโลก เปิดตัวมาตั้งแต่ปี 2012 โดยมีปริมาณการซื้อขายรายวันมากกว่า 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อย่างไรก็ตาม ในปีที่ผ่านมา หน่วยงาน Commodity Futures Trading Commission (CFTC) ได้สั่งปรับ Tether มูลค่า 41 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และแพลตฟอร์ม Bitfinex กว่า 1.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในข้อหาละเมิดกฎหมาย Commodity Exchange Act (CEA) อีกด้วย

นอกจากนี้ เหตุการณ์ที่ตกเป็นข่าวดังกระฉ่อนไปทั่วโลกเมื่อปี 2016 คงจะหนีไม่พ้นคู่รัก Ilya Lichtenstein และ Heather Morgan ที่ได้ตัดสินใจร่วมมือกันเจาะระบบรักษาความปลอดภัยของ Bitfinex เพื่อขโมย Bitcoin (BTC) จากบัญชีของลูกค้ากว่า 2,000 ราย คิดเป็นมูลค่ารวม 119,745 BTC หรือ ราว 72 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ ขณะนั้น ส่งผลให้ราคา Bitcoin ร่วงลงมากว่า 20% ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมง ก่อนที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะสามารถจับกุมตัวอาชญากรคู่นี้ได้ใน 6 ปีต่อมา ซึ่งล่าสุดทาง Netflix ได้ออกมาประกาศนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นไปสร้างเป็นสารคดีเรื่องใหม่อีกด้วยเช่นเดียวกัน

บริษัทคริปโตบางแห่งยังคงให้บริการแก่ชาวรัสเซีย

Og Image 1687c30b4d04a095882e7b4497605e18 1024x536.png

Bitfinex ไม่ได้เป็นเพียงแค่แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนคริปโตเจ้าเดียวเท่านั้นที่ต้องการจะให้บริการแก่ชาวรัสเซียท่ามกลางปัญหาความขัดแย้งที่กำลังดำเนินต่อไปอย่างดุเดือด ทางด้าน Michael Carter ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายนโยบาย แห่ง Bittrex ก็ได้ออกมาแสดงความเชื่อมั่นว่าทางแพลตฟอร์มยังคงปฏิบัติตามมาตรการการคว่ำบาตรได้อย่างครบถ้วน พร้อมทั้งยังคงพยายามที่จะเปิดให้บริการแก่ชาวรัสเซียอยู่ด้วยเช่นเดียวกัน รวมไปถึงแพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสัญชาติอังกฤษจากกรุงลอนดอนอย่าง Exmo ที่ก็ยังคงให้บริการสนับสนุนแก่ลูกค้าชาวรัสเซียอยู่ แม้ว่าทางด้านหน่วยงาน Financial Conduct Authority (FCA) แห่งสหราชอาณาจักรจะออกมาตรการคว่ำบาตรให้มีผลกับประชาชนชาวรัสเซียด้วยก็ตาม โดย Maria Stankevich หัวหน้าฝ่ายพัฒนาองค์กรแห่ง Exmo ได้ให้เหตุผลว่า

“องค์กรของเราจะไม่ร่วมคว่ำบาตร และบล็อกบัญชีของประชาชนทั่วไปอย่างแน่นอน”

สหรัฐยังคงหวั่นว่ารัสเซียจะใช้คริปโตหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตร

แนวโน้มที่สาธารณรัฐรัสเซียเล็งนำคริปโตมาใช้เป็นเครื่องมือในการหลีกเลี่ยงการคว่ำบาตรนั้นเพิ่มสูงขึ้นไปทุกที สร้างความกังวล และหวาดระแวงให้แก่สหรัฐอมเริกา และสหภาพยุโรปอย่างมาก ด้วยเหตุนี้บรรดาผู้นำจากประเทศต่าง ๆ จึงได้ร่วมมือกันคุมเข้มมาตรการการคว่ำบาตรระหว่างประเทศเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า พร้อมสั่งให้คอยติดตามความเคลื่อนไหวทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดคริปโตในรัสเซียอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้เมื่อวันศุกร์ที่ 11 มีนาคม กระทรวงยุติธรรมแห่งสหรัฐอเมริกาได้ออกมาเปิดเผยถึงแผนการเตรียมความพร้อมจัดตั้งหน่วยงานพิเศษแห่งใหม่ขึ้นเพื่อทำหน้าที่ระงับ และเข้ายืดสิทธิ์ในการถือครองคริปโตของบรรดาเศรษฐีจากรัสเซีย รวมไปถึงเข้าตรวจสอบธนาคาร และบริษัทคริปโตอย่างเคร่งครัด

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

เหรียญคริปโตกลุ่ม AI และ Big Data พุ่งทะยาน 131% ท่ามกลางกระแสขาขึ้นของ Bitcoin
Sky เปิดตัว USDS Stablecoin ตัวใหม่! บน Solana พร้อมอัดฉีดสภาพคล่องกว่า 5 แสนดอลลาร์
BlackRock Bitcoin ETF Options สร้างสถิติใหม่! มียอดซื้อขายวันแรกทะลุ 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์
ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีโปแลนด์ประกาศสนับสนุนการจัดตั้งคลังสำรอง Bitcoin ระดับประเทศตามรอยสหรัฐฯ