กว่า 99% ของกระเป๋าเงิน BTC กำลังมีผลกำไร
Bitcoin (BTC) ทำให้ทุกคนประหลาดใจกับการเติบโตของมัน ทั้งยังไม่มีทีท่าว่าจะลดค่าลงเลยแม้แต่น้อย ซึ่งนี่ทำให้อยู่ที่ถือสกุลเงินดิจิทัลมากถึง 99.081% กำลังมีผลกำไร
Bitcoin (BTC) ทำให้ทุกคนประหลาดใจกับการเติบโตของมัน ทั้งยังไม่มีทีท่าว่าจะลดค่าลงเลยแม้แต่น้อย ซึ่งนี่ทำให้อยู่ที่ถือสกุลเงินดิจิทัลมากถึง 99.081% กำลังมีผลกำไร
หลังจากผ่านหนึ่งสัปดาห์อันแสนหฤหรรของสกุลเงินดิจิทัลอันดับ 1 ในตลาดอย่าง Bitcoin (BTC) ซึ่งเกิดจากการเข้าซึ่งของบริษัทอย่าง Tesla ที่นำทัพโดย Elon Musk มูลค่าของสกุลเงินดังกล่าวก็สร้างสถิติใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งยังไม่มีทีท่าว่าจะลดค่าลงเลยแม้แต่น้อย โดยมันได้เพิ่มสูงขึ้นถึง 5.56% ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมานับจากตั้งแต่เขียนบทความนี้ และในช่วงเจ็ดวันนั้น สินทรัพย์ดิจิทัลชนิดแรกของโลกก็ได้มีมูลค่าเพิ่มขึ้น 16.50% และก้าวไปแตะจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาล (ATH) ที่ $ 52,533.91 ตามการรายงานของ CoinMarketCap
การบรรลุจุดสูงสุดใหม่ตลอดกาลกลายเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างบ่อยครั้งสำหรับ Bitcoin และนี่ถือเป็นรางวัลสำหรับนักลงทุนที่ถือครองสกุลเงินนี้ และรักษาตำแหน่งของตนมามายาวนานในอุตสาหรกรรมสกุลเงินดิจิทัล ซึ่งข้อมูลล่าสุดของ Glassnode แสดงให้เห็นว่าปัจจุบันมีที่อยู่ที่ถือสกุลเงินดิจิทัลมากถึง 99.081% ที่กำลังมีผลกำไร จากการอาศัยแรงผลักดันครั้งใหม่ที่ส่ง BTC ไปอยู่สูงเกินระดับราคา 52,000 ดอลลาร์
ความสำเร็จจากการลงทุนครั้งนี้เป็นสิ่งที่เกินคาดว่าหวังอยู่มิใช่น้อย เนื่องจาก Bitcoin ทำให้ทุกคนประหลาดใจกับการเติบโตของมันในปีนี้ โดยเหรียญดังกล่าวมีการเติบโตมากกว่า 600% ต่อปี เมื่อสิ้นสุดปี 2020 และเพิ่มมูลค่าตามราคาตลาดของมันไปมากกว่า 3 แสนล้านเหรียญสหรัฐในช่วงเวลาเดียวกันนั้น
โมเมนตัมการเติบโตที่น่าประทับใจนี้ยังได้รับการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องในปี 2021 โดยสกุลเงินดิจิทัลมีการเติบโต 435.2%เมื่อเทียบเป็นรายปีตามข้อมูลจาก CoinGecko และหากดูตามสถานการณ์ปัจจุบัน ในจังหวะนี้ BTC อาจแซงหน้าการเติบโตในปี 2020 ก่อนกลางปีก็เป็นได้
นักลงทุนรายใหญ่ยังคงเป็นผู้ที่ได้รับผลประโยชน์มากที่สุดในตลาด
ในขณะที่มีนักลงทุนรายย่อยถือ Bitcoin มากกว่านักลงทุนสถาบัน แต่ทว่าเหล่านักลงทุนรายใหญ่เหล่านี้ถือเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์มากที่สุดจากวงจร Bull runที่กำลังดำเนินอยู่ ยกตัวอย่างเช่น Tesla ที่เป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่ซื้อ Bitcoin มูลค่า 1.5 พันล้านเหรียญ ณ ตอนนี้พวกเขาได้ผลกำไรไปมากกว่า $700,000,000 เข้าให้แล้ว ซึ่งเป็นอัตรากำไรที่มากกว่าที่บริษัทดังกล่าวเคยทำมากับการขายรถยนต์ในทุก ๆ ปีที่ผ่านมา
เช่นเดียวกับ MicroStrategy บริษัทระบบธุรกิจอัจฉริยะ และซอฟต์แวร์ของ Michael Saylor ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกการยอมรับ Bitcoin ในสหรัฐอเมริกา พวกเขาก็ได้ผลกำไรไม่น้อยหน้าใครเช่นเดียวกัน
