รายงานจาก Galaxy เผย! บริษัทถือครอง Bitcoin เข้าสู่ “ช่วงเอาตัวรอด” หลังมูลค่าหุ้นดิ่งและพรีเมียมหายวับ

Galaxy Research เปิดเผยในรายงานล่าสุดว่า บริษัทที่ลงทุนถือครอง Bitcoin ในงบดุล หรือที่เรียกว่า Digital Asset Treasury (DAT) กำลังเผชิญกับ “ช่วงการเอาตัวรอด” หลังกลไกหลักของโมเดลธุรกิจเริ่มสั่นคลอน จากเดิมที่เคยขยายตัวได้จากการออกหุ้นใหม่และใช้ Leverage เพื่อเพิ่มการถือครอง Bitcoin

รายงานระบุว่า บริษัทเหล่านี้กำลังถึงขีดจำกัด หลังราคาหุ้นของบริษัทเหล่านี้ร่วงต่ำกว่ามูลค่า Bitcoin ต่อหุ้น (NAV) ส่งผลให้การเติบโตที่เคยช่วยผลักดันราคากลับตาลปัตร และทำให้การใช้ Leverage กลายเป็นภาระแทนที่จะเป็นโอกาสทำกำไร

จุดเปลี่ยนนี้เกิดขึ้นหลังจากราคา Bitcoin ร่วงจากจุดสูงสุดราว 126,000 ดอลลาร์ในเดือนตุลาคม ลงมาต่ำสุดใกล้ 80,000 ดอลลาร์ ซึ่งฉุดให้สภาพคล่องในตลาดหายไปอย่างรวดเร็ว และทำให้ความต้องการรับความเสี่ยงของนักลงทุนลดลงอย่างรุนแรง เหตุการณ์ “การล้างสัญญาเก็งกำไร” เมื่อวันที่ 10 ตุลาคม ยิ่งเร่งให้ตลาดหดตัว โดยทำให้สถานะในตลาด Futures ถูกล้างออกและสภาพคล่องในตลาด Spot ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ

“สำหรับบริษัทที่หุ้นเคยถูกมองว่าเป็นเหมือนการเทรดคริปโตแบบใช้ Leverage การเปลี่ยนแปลงรอบนี้ถือเป็นสิ่งที่รุนแรงมาก” Galaxy ระบุในรายงาน “กลไกทางการเงินแบบเดียวกันที่เคยช่วยเพิ่มกำไรในช่วงตลาดขาขึ้น ตอนนี้กลับกลายเป็นตัวเร่งขาดทุนในช่วงขาลง”

Galaxy ระบุว่า หุ้นของบริษัท DAT ที่เคยซื้อขายในราคาพรีเมียมสูงเหนือมูลค่า NAV ในช่วงกลางปี ตอนนี้กลับร่วงกลับลงมา แม้ Bitcoin จะลดลงจากจุดสูงสุดเพียงประมาณ 30% เท่านั้น

บริษัทอย่าง Metaplanet และ Nakamoto ที่เคยมีกำไรหลายร้อยล้านดอลลาร์ ตอนนี้กลับขาดทุนหนัก เนื่องจากต้นทุนเฉลี่ยของ Bitcoin ที่ซื้อไว้สูงกว่า 107,000 ดอลลาร์ต่อเหรียญ ขณะที่บริษัทหนึ่งในกลุ่มเดียวกันอย่าง NAKA ก็ร่วงจากจุดสูงสุดลงมามากกว่า 98% ซึ่ง Galaxy ระบุว่า “การเคลื่อนไหวของราคาลักษณะนี้คล้ายกับสิ่งที่เกิดในตลาด Memecoin มากกว่าหุ้นสถาบัน”

Galaxy ชี้ทางรอด 3 สถานการณ์

Galaxy ประเมินว่า เมื่อการออกหุ้นใหม่เพื่อระดมทุนไม่มีทางเกิดขึ้นได้อีก บริษัทเหล่านี้มีแนวโน้มจะเดินไปใน 3 ทิศทางหลัก คือ

1. การเติบโตของจำนวน Bitcoin ต่อหุ้นหยุดชะงัก และราคาหุ้นของ DAT อาจให้ผลตอบแทนแย่กว่า Bitcoin เอง

2. บริษัทที่ออกหุ้นในช่วงพรีเมียมสูง ซื้อ Bitcoin ใกล้จุดสูงสุด หรือมีภาระหนี้มาก อาจเผชิญแรงกดดันด้านสภาพคล่องและจำเป็นต้องขายกิจการหรือปรับโครงสร้างหนี้

3. สำหรับบริษัทที่รักษาสภาพคล่องได้และไม่เร่งขยายตัวในช่วงตลาดขาลง ยังมีโอกาสกลับมาฟื้นตัวได้ หาก Bitcoin กลับมาทำสถิติสูงสุดอีกครั้ง

Strategy เตรียมเงินสด 1.44 พันล้านดอลลาร์ รับมือความกังวล

ในวันศุกร์ที่ผ่านมา Phong Le ผู้บริหารของบริษัท Strategy เปิดเผยว่า บริษัทได้จัดตั้งเงินสำรองใหม่มูลค่า 1.44 พันล้านดอลลาร์ เพื่อสร้างความมั่นใจให้นักลงทุนว่าบริษัทสามารถจ่ายเงินปันผลและชำระหนี้ได้ แม้ในช่วงที่ตลาด Bitcoin อยู่ในขาลง

เงินสำรองดังกล่าวมาจากการขายหุ้นเพิ่มทุน และจะเพียงพอสำหรับการจ่ายเงินปันผลอย่างน้อย 12 เดือน โดยบริษัทมีแผนขยายระยะคุ้มครองออกไปถึง 24 เดือนในอนาคต

ด้าน Matt Hougan ประธานเจ้าหน้าที่การลงทุนของ Bitwise กล่าวยืนยันว่า Strategy จะไม่จำเป็นต้องขาย Bitcoin เพื่อรักษาสภาพคล่อง แม้ราคาหุ้นจะร่วงแรง พร้อมระบุว่า “ใครที่บอกว่าบริษัทจะต้องขาย Bitcoin เพื่ออยู่รอดนั้น คิดผิดอย่างสิ้นเชิง”

อ้างอิง : Cointelegraph