Bitcoin กำลังสอนคน Gen Z ถึงการออมอย่างถูกต้อง
Dan Tapiero ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทด้าน Fintech และสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง 10T Holdings เชื่อว่า Bitcoin คือของขวัญสำหรับชาว Gen Z เนื่องจากสกุลเงินดังกล่าวจะช่วยยกระดับวิธีการประหยัดเงินของพวกเขาขึ้นไปอีกขั้น
Dan Tapiero ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทด้าน Fintech และสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง 10T Holdings เชื่อว่า Bitcoin คือของขวัญสำหรับชาว Gen Z เนื่องจากสกุลเงินดังกล่าวจะช่วยยกระดับวิธีการประหยัดเงินของพวกเขาขึ้นไปอีกขั้น
Bitcoin (BTC) ยังคงสร้างความประหลาดใจให้กับโลกใบนี้อย่างต่อเนื่องด้วยความสำเร็จจากราคาที่เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น โดยสกุลเงินดังกล่าวได้ครอบครองสายตาแทบทุกคู่บนโลกใบนี้ด้วยพายุราคาที่เพิ่มขึ้นสูงจนน่าประทับใจ ซึ่งในอดีตจุดสูงสุดตลอดกาล (ATH) ของ Bitcoin นั้นเคยอยู่ที่ 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ทว่าในปัจจุบันสกุลเงินนี้ได้ทำลายสถิติระดับราคาสูงที่สุดอีกครั้งในรอบ 3 ปีที่ผ่านมาในช่วงกลางเดือนธันวาคมปี 2020
แต่ก็ใช่ว่า BTC จะส่งผลต่อสังคมในด้านการเป็นสกุลเงินรูปแบบใหม่อย่างเดียวเท่านั้น เพราะล่าสุด Dan Tapiero ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทด้าน Fintech และสินทรัพย์ดิจิทัลอย่าง 10T Holdings ได้กล่าวว่า BTC กำลังมีอีกบทบาทเป็นเครื่องมือช่วยสอนคนรุ่นใหม่อย่าง Generation Z ถึงวิธีการประหยัดเงิน
เขาได้โพสต์ลงบนทวิตเตอร์เพื่อเปิดเผยเรื่องราวที่น่าสนใจเกี่ยวกับวิธีการที่เขาเคยแนะนำให้ลูกสาววัย 16 ปีของเขาซื้อ Bitcoin (BTC) มาไว้ล่วงหน้า ซึ่ง ณ ตอนนั้นมันก็ดูไร้ประโยชน์อย่างมาก แต่ทว่าท้ายที่สุดแล้วเรื่องราวกลับไม่เป็นเช่นนั้นเพราะว่าลูกสาวของเขาได้รับฟังคำแนะนำของผู้เป็นพ่อด้วยการลงทุนเงินสดจำนวน 30% กับ Bitcoin ซึ่งเธอตกลงที่จะถือครองสกุลเงินดิจิทัลเอาไว้ในฐานะการลงทุนที่ถูกกฎหมาย Tapiero กล่าว
My 16 year old daughter finally buys #bitcoin using #paypal app.
— Dan Tapiero (@DTAPCAP) January 15, 2021
Would not listen to her old dad before....but "wow it's so easy."
Told her it could go up 10x in 5yrs (conservative). Next, she puts 30% of her cash in it and agrees not to sell.#Btc is how Gen Z learns to save. pic.twitter.com/Qvb8msZGxW
“ลูกสาวอายุ 16 ปีของผมได้ตัดสินใจซื้อ Bitcoin ในที่สุดโดยใช้แอปพลิเคชัน Paypal ซึ่งก่อนหน้านี้เธออาจไม่ฟังคำแนะนำของพ่อแก่ ๆ อย่างผม แต่ดูสิ ‘ว้าว! มันง่ายจังเลย’ ผมบอกกับเธอว่าราคาของสกุลเงินตัวนี้อาจจะพุ่งขึ้นอีกถึง 10 เท่าภายในอีก 5 ปีข้างหน้า (หัวโบราณ) ต่อมาลูกสาวของผมได้ใช้เงินสดของเธอกว่า 30% ลงทุนไปกับสกุลเงินดังกล่าว และตกลงที่จะไม่ขายมัน BTC นี่แหละคือวิธีที่คน Gen Z เรียนรู้ที่จะประหยัดเงิน”
เขาเชื่อว่า Bitcoin คือของขวัญสำหรับชาว Gen Z หรือผู้คนที่เกิดในช่วงระหว่างปี 1997 ถึง 2015 เนื่องจากสกุลเงินดังกล่าวจะช่วยยกระดับวิธีการประหยัดเงินของพวกเขาขึ้นไปอีกขั้น โดย BTC ยังได้รับความนิยมจากคนรุ่นก่อนอย่างกลุ่ม Millennial เนื่องด้วยในสายตาของคนวัยนี้บางรายมองว่าสกุลเงินนี้เปรียบเสมือนทองคำในยุค Millennial ซึ่งอดีตนักการเมืองชาวออสเตรเลียท่านหนึ่งได้ออกมายืนยันเรื่องดังกล่าวด้วยตนเองเมื่อเดือนพฤศจิกายนปีที่แล้ว
ความสัมพันธ์ระหว่าง Bitcoin กับ USD ลดลงต่ำสุดในประวัติศาสตร์
สกุลเงิน US Dollar (USD) ถูกโจมตีอย่างหนักจากกระแสราคา Bitcoin ที่พุ่งขึ้นในปัจจุบัน โดยงานวิจัยแสดงให้เห็นว่าสินทรัพย์ทั้งสองมีความสัมพันธ์แบบผกผันซึ่งกันและกัน สิ่งนี้คือหลักฐานจากข้อเท็จจริงที่ว่า BTC มีมูลค่าพุ่งขึ้นกว่า 295% ในช่วงปลายปี 2020 ในขณะที่ดัชนีค่าเงิน US Dollar (Dollar Index – DXY) นั้นกลับตกลงสู่ระดับต่ำที่สุดในรอบ 32 เดือนที่ผ่านมา
Mati Greenspanนักวิเคราะห์ตลาดได้เปิดเผยว่าความสัมพันธ์ระหว่าง Bitcoinและ USD นั้นมีค่าดัชนีต่ำที่สุดในประวัติศาตร์อยู่ที่ -0.15 เขายืนยันว่า
According to data from @coinmetrics, the correlation between bitcoin and the USD is now -0.15, it's lowest reading in history.
— Mati Greenspan (tweets ≠ financial advice) (@MatiGreenspan) January 14, 2021
The inverse correlation is still tiny but the trend is clear.
That's what happens when #bitcoin flies for 6 months while the dollar sinks like a stone pic.twitter.com/rbPmMNfAWF
“ข้อมูลของ Coinmetrics ระบุว่า ความสัมพันธ์ระหว่าง Bitcoin และ USD ในตอนนี้อยู่ที่ -0.15 ซึ่งเป็นค่าต่ำที่สุดในประวัติศาตร์ ความสัมพันธ์แบบผกผันลักษณะนี้ยังเป็นเพียงสิ่งเล็กน้อยเท่านั้น แต่ทว่าแนวโน้มกลับเห็นได้อย่างชัดเจน นั่นคือสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อ Bitcoin ทยานขึ้นสูงในระยะเวลากว่า 6 เดือนในขณะที่เงินดอลลาร์กลับจมดิ่งกลายเป็นหินไป”
ข้อมูลข้างต้นมาพร้อมกับข่าวเกี่ยวการวางแผนของประธานาธิบดีแห่งประเทศสหรัฐอเมริกาอย่างนาย Joe Biden ในการรวบรวมเงินกว่า 1.9 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อนำไปกอบกู้เศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งนับว่าเป็นโชคดีของ Bitcoin เนื่องจากสกุลเงินดังกล่าวกำลังพยายามหาทางทยานราคาขึ้นสูงอีกครั้ง
