ข่าว Bitcoin

Bitcoin อาจจะกลายเป็นสกุลเงินสำรองในอนาคต

Stephen Harper.jpg

Stephen Harper อดีตนายกรัฐมนตรีแคนาดามองเห็นความเป็นไปได้ที่ Bitcoin จะก้าวมามีบทบาทสำคัญต่อวงการทางการเงิน

ในการให้สัมภาษณ์กับประธานบริษัทผู้ให้บริการด้านการลงทุนแห่ง Cambridge House อย่างนาย Jay Martin ภายใต้การประชุม Vancouver Resource investment conference เมื่อวันที่ 17 มกราคมที่ผ่านมา อดีตนายกรัฐมนตรี Stephen Harper แห่งประเทศแคนาดา ผู้เคยดำรงตำแหน่งเป็นนายกรัฐมนตรีแห่งแคนาดากว่า 9 ปี นับตั้งแต่ปี 2006 จนถึงปี 2015 เรียก Bitcoin ว่าคือทางเลือกที่เป็นไปได้ที่สามารถทำหน้าที่เป็นสกุลเงินสำรองในอนาคต อย่างไรก็ตามสกุลเงินดังกล่าวจะไม่มีวันสามารถมาแทนที่บทบาทระหว่างประเทศของสกุลเงิน US Dollar ไปได้

Harper ยอมรับว่าเงินดอลลาร์สหรัฐอยู่ในช่วงขาลง และเขาได้กล่าวถึงทางเลือกที่เป็นไปได้บางประการ เช่น เงินหยวนของสาธารณรัฐประชาชนจีน และเงินยูโร ว่าเป็นสกุลเงินที่มีศักยภาพมากพอที่จะมาแทนที่เงินดอลลาร์ได้ อย่างไรก็ตามเขาได้แสดงความเคลือบแคลงใจของเขาเกี่ยวกับตัวเลือกสกุลเงินระหว่างประเทศทั้ง 2 ประเภทข้างต้น เนื่องจากความไม่แน่นอนของค่าเงินยูโรในระยะยาว และมาตรการที่ไร้เหตุผลของรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนที่อาจถูกสร้างขึ้นมาเพื่อควบคุมมูลค่าเงินหยวน ส่งผลให้สกุลเงินทั้งสองนั้นอาจเป็นทางเลือกที่ไม่เหมาะสมเท่าไรนัก

Harper กล่าว

“เว้นเสียแต่ว่าประเทศสหรัฐฯ จะเกิดหายนะ ซึ่งการมองหากสกุลเงินอื่นใดนอกเหนือไปจากดอลลาร์สหรัฐที่จะก้าวเข้ามาเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับสกุลเงินสำรองหลักของโลกยังคงเป็นเรื่องยาก นอกจากนี้แล้ว พวกคุณเองก็คงจะทราบดีถึงการมีอยู่ของสินทรัพย์ประเภททองคำ หรือ Bitcoin ... ผมคิดว่าคุณจะได้เห็นว่ารูปแบบของสกุลเงินสำรองที่ประชาชนต่างพากันใช้นั้นได้ขยายตัวขึ้น แต่ทว่าเงินดอลลาร์สหรัฐก็จะยังคงเป็นสกุลเงินหลักอยู่ดี”

จากสายตาของผู้คนมากมาย Bitcoin ได้กลายเป็นสินทรัพย์ประเภท Safe Havenเนื่องจากจำนวนนักลงทุนรายใหญ่ และรายย่อยที่เพิ่มมากขึ้นนั้นนับว่าเป็นเครื่องมือด้านการลงทุนที่มั่นคง และแข็งแกร่งต่อการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสกุลเงินดิจิทัลกำลังกลายเป็นการลงทุนที่ถูกกฎหมาย

แต่ก็ใช่ว่าทุกคนจะเห็นเช่นนั้น โดย Stephen Harper อธิบายเพิ่มเติมว่าสกุลเงินทุกสกุลมีจุดประสงค์ทั้งหมด 3 ประการด้วยกัน ได้แก่ จัดเก็บมูลค่า, เป็นหน่วยวัดที่ใช้มาตรฐานเดียวกันในการวัด (Unit Of Account) และเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยน เขายอมรับว่าเขาไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านสกุลเงินดิจิทัลอย่าง Bitcoin แม้ว่าเขาจะกล่าวว่าสกุลเงินดิจิทัลเป็นหน่วยวัดในทางบัญชี และเป็นสื่อกลางในการแลกเปลี่ยนก็ตาม แต่เขาเองก็ยังไม่สามารถมองว่าสกุลเงินดิจิทัลจะทำหน้าที่เป็นสินทรัยพ์ที่จัดเก็บมูลค่าไว้ได้

ท้ายที่สุดแล้ว Harper ก็ยอมรับว่า CBDC นั้นเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่เขาก็ยังกล่าวว่าสกุลเงินดิจิทัลเหล่านั้นอาจตกอยู่ภายใต้การควบคุมของนโยบายทางการเงินทั่วโลก เขาได้แสดงความกังวลของเขาต่อการมาถึงของ CBDC โดยระบุว่าสกุลเงินดังกล่าวอาจทำให้ธนาคารกลางกลายเป็นสถานที่ให้บริการด้านการเงินธรรมดาแห่งหนึ่งแทนที่การเป็นหน่วยงานตรวจสอบด้านการเงิน ดังนั้นเขาจึงกล่าวว่าการเปลี่ยนแปลงข้างต้นอาจส่งผลต่อการเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง

ธนาคารกลางเร่งนำสกุลเงินดิจิทัลออกมาใช้

ธนาคารกลางแห่งยุโรป และธนาคารกลางแห่งสหรัฐอเมริกาต่างก็แข่งขันกันเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัลของตนเอง เนื่องจากความเสี่ยงจากการถูกทิ้งไว้ข้างหลังเมื่อสังคมหันเปิดรับ Cryptocurrency ในลักษณะเดียวกันกับ Bitcoin ที่ไม่เพียงแต่ต้องยึดติดกับการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ แต่ยังต้องกลายเป็นหนึ่งในทางเลือกที่เป็นไปได้แทนที่สกุลเงินสดอื่น ๆ อีกด้วย

ติดตาม CryptoSiam
เพื่อให้ไม่พลาด ทุกข่าวสาร วงการคริปโต
ข่าวต่อไป

บทความที่เกี่ยวข้อง

Bitcoin ทรงตัวเหนือ 90,000 ดอลลาร์ แต่ดัชนีความโลภเริ่มแผ่ว ท่ามกลางความไม่แน่นอนของตลาด
กองทุน Bitcoin ETF ในสหรัฐฯ รับเงินไหลเข้าวันเดียวสูงสุดนับตั้งแต่มกราคม ท่ามกลางตลาดคริปโตที่ฟื้นตัวแรง
ARK Invest ปรับคาดการณ์ราคาขาขึ้นของ Bitcoin ปี 2030 แตะ 2.4 ล้านดอลลาร์ ชูบทบาท “ทองคำดิจิทัล” และแรงหนุนจากสถาบัน
Spot Bitcoin ETFs ในสหรัฐฯ ดันเงินไหลเข้าแตะ 3 พันล้านดอลลาร์เป็นสัปดาห์แรกในหลายเดือน