Fed อาจลดดอกเบี้ยเร็วขึ้น หากสงคราม-การค้าเลวร้ายลง นักวิเคราะห์มอง Bitcoin มีโอกาสพุ่งแตะ $120,000
นักวิเคราะห์เตือน หากสหรัฐฯ ต้องเผชิญความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์และการค้าระหว่างประเทศที่ทวีความรุนแรง ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจจำเป็นต้องลดดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนด ซึ่งจะส่งผลบวกต่อราคาของ Bitcoin

นักวิเคราะห์เตือน หากสหรัฐฯ ต้องเผชิญความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์และการค้าระหว่างประเทศที่ทวีความรุนแรง ธนาคารกลางสหรัฐฯ อาจจำเป็นต้องลดดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนด ซึ่งจะส่งผลบวกต่อราคาของ Bitcoin
ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 4.25% ในการประชุมเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ตามความคาดหมายของนักลงทุน แต่ในสถานการณ์ที่ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์และการค้าระหว่างประเทศทวีความรุนแรง Fed อาจเปลี่ยนท่าทีและลดดอกเบี้ยเร็วกว่ากำหนด
Christopher Waller หนึ่งในผู้ว่าการ Fed กล่าวเมื่อวันศุกร์ผ่านรายการของ CNBC ว่า "ผู้กำหนดนโยบายควรเริ่มพิจารณาลดดอกเบี้ยภายในเดือนหน้า" โดยให้เหตุผลว่า “อัตราเงินเฟ้อในขณะนี้ยังไม่ใช่ภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจโดยรวม”
แม้โอกาสที่จะลดดอกเบี้ยแบบเร่งด่วนยังมีไม่มาก แต่นักวิเคราะห์มองว่าการเปลี่ยนทิศทางของ Fed ในกรณีฉุกเฉิน เช่น สงครามระหว่างประเทศ หรือการเจรจาการค้าที่ล้มเหลว อาจกลายเป็นตัวแปรสำคัญที่ผลักดัน Bitcoin ให้พุ่งทะลุ $120,000
ความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์และการค้าอาจเร่งให้ Fed ลดดอกเบี้ย
การลดดอกเบี้ยฉุกเฉินจาก Fed มักเกิดขึ้นหลังเหตุการณ์ช็อกทางเศรษฐกิจ เช่น วิกฤตโควิดในปี 2020 ที่ Fed ลดดอกเบี้ยถึง 100 จุดภายในเดือนมีนาคม ส่งผลให้ตลาดเสี่ยงปรับฐานอย่างรวดเร็ว แต่กลับฟื้นตัวในเวลาไม่กี่เดือน โดย Bitcoin เองก็ฟื้นจากระดับ $5,000 กลับสู่ $8,800 ภายในเดือนเมษายนปีนั้น
แม้ปัจจุบัน Bitcoin ได้รับการยอมรับในฐานะสินทรัพย์สำรองจากบริษัทมหาชนหลายแห่ง แต่ราคาก็ยังมีการเคลื่อนไหวตามหุ้นเทคโนโลยี โดยในช่วงมีนาคมถึงพฤษภาคม 2025 Bitcoin มีอัตราความสัมพันธ์กับดัชนี Nasdaq 100 มากกว่า 70%
สถานการณ์ในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะความตึงเครียดในช่องแคบ Hormuz ที่เป็นเส้นทางขนส่งพลังงานกว่า 20% ของโลก กำลังกลายเป็นปัจจัยเสี่ยงระดับมหภาค ข้อขัดแย้งใด ๆ ในพื้นที่ดังกล่าวจะผลักต้นทุนพลังงานให้สูงขึ้น ลดความมั่นใจของภาคธุรกิจ และเปิดทางให้ Fed ลดดอกเบี้ยเพื่อพยุงเศรษฐกิจสหรัฐฯ
ขณะเดียวกัน ด้านการค้า หากข้อตกลงระหว่างสหรัฐฯ กับจีนล่ม หรือการเจรจากับพันธมิตรอย่างแคนาดาและสหภาพยุโรปล้มเหลว ก็อาจกระทบภาคการส่งออกและกระตุ้นให้ Fed ผ่อนคลายนโยบายการเงิน เพื่อกระตุ้นการใช้จ่ายและการลงทุนภายในประเทศ
ดอลลาร์อ่อนตัว ดัน Bitcoin เป็นสินทรัพย์ทางเลือก
ดัชนีดอลลาร์สหรัฐ (DXY) ร่วงจากระดับ 104 ในเดือนมีนาคม ลงมาแตะ 99 ซึ่งใกล้ระดับต่ำสุดในรอบ 3 ปี ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 20 ปี พุ่งแตะ 4.9% บ่งชี้ว่านักลงทุนยังไม่มั่นใจว่าเงินเฟ้อจะถูกควบคุมได้จริงหรือไม่
ในบริบทเช่นนี้ หาก Fed ส่งสัญญาณลดดอกเบี้ยเร็วกว่าคาด ตลาดอาจตีความว่าเป็นสัญญาณของภาวะเศรษฐกิจถดถอย และก่อให้เกิดกระแสการไหลเข้าสู่สินทรัพย์ที่มีคุณสมบัติต้านเงินเฟ้ออย่าง Bitcoin ซึ่งอาจผลักดันราคาทะลุระดับ $120,000 ได้ในอนาคต
อ้างอิง : Cointelegraph
ข้อจำกัดความรับผิดชอบ: การลงทุนมีความเสี่ยงสูง ดังนั้น ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลอย่างละเอียดก่อนการลงทุนทุกครั้ง
ข้อมูลในบทความนี้มีจุดประสงค์ในการให้ข้อมูลเท่านั้น Cryptosiam ไม่รับประกันความสมบูรณ์ ความถูกต้อง หรือความน่าเชื่อถือของข้อมูลดังกล่าว และไม่มีสิ่งใดในบทความนี้ที่ควรใช้เป็นคำแนะนำหรือชักชวน ให้ซื้อหรือขายคริปโต รวมทั้งการประเมินใดๆ ไม่มีข้อความใดในบทความที่ถือเป็นคำแนะนำทางกฎหมาย วิชาชีพ การลงทุน และ/หรือทางการเงิน และ/หรือคำนึงถึงความต้องการเฉพาะ และ/หรือข้อกำหนดของแต่ละบุคคล
Cryptosiam และบริษัทในเครือ ขอปฏิเสธความรับผิด หรือความรับผิดชอบทั้งหมดเกี่ยวกับเนื้อหาของบทความ และการดำเนินการใดๆ กับข้อมูลในบทความนั้น เป็นความเสี่ยงของผู้อ่าน และถือเป็นความเสี่ยงแต่เพียงผู้เดียว