Bitcoin จ่อพุ่งแตะ $115,000 หลังสัญญาณซัพพลายเข้าสู่ “ช่วงตลาดร้อนแรงสุดขีด” เหมือนในรอบที่ผ่านมา

ข้อมูลออนเชนล่าสุดบ่งชี้ว่าอุปทาน Bitcoin ที่อยู่ในสถานะกำไรเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ราว 86.9% แล้ว ณ วันที่ 28 เมษายน ซึ่งถือว่าเข้าใกล้ช่วง “Euphoria” หรือภาวะมั่นใจเกินจริงที่เคยปรากฏในอดีตและมักนำไปสู่การเร่งตัวของราคาก่อนเกิดการพักฐานตามมา

นักวิเคราะห์จาก CryptoQuant นามว่า DarkFrost ระบุว่า ระดับอุปทานที่มีกำไรในช่วง 85–90% เคยเกิดขึ้นในช่วงเดือนตุลาคมถึงธันวาคม 2024 ซึ่งในตอนนั้น Bitcoin พุ่งจากประมาณ $80,000 ไปถึงกว่า $100,000 ก่อนจะทำสถิติสูงสุดที่เกือบ $110,000 ในเดือนมกราคม และจากนั้นปรับตัวลงกว่า 30%

“แม้เฟสของอีโฟเรียจะไม่ได้ยาวมากนัก แต่ก็มักเป็นตัวเร่งสำคัญที่ทำให้ราคาเคลื่อนไหวขึ้นได้อย่างรวดเร็ว” DarkFrost เขียนในบทวิเคราะห์ พร้อมชี้ว่าแม้จะมีโอกาสเกิดการขายทำกำไรในอนาคต แต่ในระยะสั้นยังเห็นสัญญาณบวกต่อเนื่องจากความต้องการทางฝั่งซื้อ

นอกจากนี้ Glassnode ยังเผยข้อมูลว่า กลุ่มผู้ซื้อหน้าใหม่ (First Buyers) และกลุ่มที่ซื้อตามแนวโน้มขาขึ้น (Momentum Buyers) ยังคงสะสม Bitcoin อย่างต่อเนื่อง ขณะที่ผู้ขายเพื่อทำกำไร (Profit Takers) ยังคงเงียบ นับเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ช่วยสนับสนุนภาวะกระทิงในตลาดเวลานี้

นักวิเคราะห์ด้านเทคนิค CryptoCaesarTA กล่าวเสริมว่า บริเวณแนวรับที่ $89,000–$90,000 ได้แสดงให้เห็นถึงแรงซื้อจำนวนมากที่เข้ามารับไว้ ทำให้พื้นที่ดังกล่าวกลายเป็น “โซนซื้อสูงสุด (max buying zone)” ซึ่งช่วยหนุนการฟื้นตัวของตลาดรอบนี้

เขายังมองว่า หาก Bitcoin ทะลุแนวต้านทางจิตวิทยาที่ $100,000 ไปได้ ก็มีโอกาสที่จะพุ่งขึ้นไปสู่ระดับเป้าหมายใหม่ที่ $110,000–$115,000 โดยแนวต้านดังกล่าวสอดคล้องกับจุดสูงสุดเดิมที่เคยเป็นแนวต้านสำคัญ และเป็นจุดอ่อนบนกราฟรายสัปดาห์ที่ราคาอาจพุ่งทะลุขึ้นไปได้

อย่างไรก็ตาม หากเกิดการย่อตัวลึกลง แนวรับสำคัญระยะยาวยังอยู่ที่โซน $70,000–$72,000 ซึ่งเป็นบริเวณเส้นแนวโน้มขาขึ้นระยะยาวที่ยังไม่เคยลงไปทดสอบ

ณ เวลานี้ ความสามารถของ Bitcoin ในการยืนเหนือระดับ $90,000 ได้อย่างมั่นคง เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยเสริมความเชื่อมั่นว่าตลาดอาจยังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของขาขึ้นครั้งใหม่

อ้างอิง : Cointelegraph