ราคา Bitcoin ดิ่งลงไปอยู่ที่ 60,000 ดอลลาร์ อาจกลายเป็นแนวต้านใหม่
แม้ว่าราคา Bitcoin ดิ่งลงไปทดสอบแนวรับที่ $58,000 แต่ก็ไม่ได้สร้างความวิตกกังวลให้แก่นักลงทุนแต่อย่างใด แม้มันจะมีความเสี่ยงที่จะแปรเปลี่ยนให้ระดับ $60,000 นั้นกลายเป็นแนวต้านใหม่ก็ตาม
แม้ว่าราคา Bitcoin ดิ่งลงไปทดสอบแนวรับที่ $58,000 แต่ก็ไม่ได้สร้างความวิตกกังวลให้แก่นักลงทุนแต่อย่างใด แม้มันจะมีความเสี่ยงที่จะแปรเปลี่ยนให้ระดับ $60,000 นั้นกลายเป็นแนวต้านใหม่ก็ตาม
ในระยะหลังมานี้ Bitcoin (BTC) ไม่แข็งแกร่งมากพอที่จะย้อนกลับไปทดสอบระดับราคาสูงสุดตลอดกาล (All-Time High - ATH) ที่ 67,000 ดอลลาร์สหรัฐได้อีกเป็นครั้งที่ 2 หลังเกิดเหตุขัดข้องขึ้นในตลาด Futures premium ซึ่งท้ายที่สุดแล้วราคา Bitcoin ดิ่งลงทะลุแนวรับแรกที่ 60,000 ดอลลาร์สหรัฐ มาทดสอบแนวรับถัดไปที่ 58,000 ดอลลาร์สหรัฐซึ่งถือเป็นสัญญาณที่ไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก และมันกำลังทำให้เหล่านักลงทุนทั้งหลายได้แต่ตั้งคำถามว่า “ตลาดกระทิง” ได้จากพวกเขาไปแล้วหรือไม่?
อย่างไรก็ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้นก็ยังคงเร็วเกินไปที่สรุปว่าราคาที่ร่วงลงมานั้นจะกลายเป็นจุดเริ่มต้นของตลาดหมีอย่างเป็นทางการ
สาเหตุที่ทำให้ราคา Bitcoin ดิ่งลง
ปัจจัยสำคัญที่เข้ามาขัดขวางการทำราคาอย่างต่อเนื่องนั้นคงหนีไม่พ้นความไม่แน่นอนด้านกฎระเบียบในประเทศมหาอำนาจอย่างสหรัฐอเมริกา โดยทาง Anne Termine หุ้นส่วนในการบังคับใช้กฎหมายและการสืบสวนของรัฐบาลที่ Bracewell LLP และอดีตหัวหน้าทนายความที่มีความเชี่ยวชาญต่อการพิจารณาคดีในชั้นศาลแห่ง Commodities Futures Trading Commission กล่าวว่าไม่มีคำตอบใดเลยที่ง่ายสำหรับหน่วยงานเหล่านั้นที่จะจัดตั้งกฎเกณฑ์ที่ชัดเจน
ในทางกลับกัน การยอมรับในสกุลเงินคริปโตที่เพิ่มขึ้นในกลุ่มคนหมู่มาก เป็นตัวกดดันให้ทางธนาคารต่างพากันเสนอขายผลิตภัณฑ์สกุลเงินดิจิทัล ตัวอย่างเช่น ธนาคารเอกชนรายใหญ่แห่งประเทศรัสเซียอย่าง Tinkoff ซึ่งเป็นเจ้าของบริการนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ออนไลน์รายใหญ่กำลังสำรวจตลาดการลงทุนสกุลเงินคริปโต แม้ว่าธนาคารแห่งรัสเซียกำลังจะระงับการเปิดบริการดังกล่าวก็ตาม
แพลตฟอร์มการซื้อขายสกุลเงินดิจิทัลอย่าง Coinbase กลายเป็นแอปที่มียอดดาวน์โหลดมากที่สุดใน Apple Store ของประเทศสหรัฐอเมริกาเมื่อวันที่ 28 ตุลาคมที่ผ่านมา และมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลยที่ยอดดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่น Coinbase นั้นสามารถเอาชนะแอปพลิเคชันยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอย่าง TikTok, YouTube และ Instagram ไปได้ โดย Coinbase นั้นจดทะเบียนครั้งแรกบน App Store ในปี 2014 และได้รับความนิยมสูงสุดในการดาวน์โหลดในสหรัฐอเมริกาอีกครั้งหนึ่งในปี 2017 และพฤษภาคม ปี 2021
ทิศทางของ Future premium สำคัญต่อแนวโน้มราคาอย่างไร?
โดยปกติแล้วนักเทรดมืออาชีพนั้นจะพิจารณาทิศทางของตลาดจาก อัตราพื้นฐาน หรือ ทิศทางของ Future Premium นั่นเอง โดยข้อมูลจะบ่งชี้ถึงความแตกต่างระหว่างสัญญาซื้อขายล่วงหน้าระยะยาว (longer-term futures contracts) กับราคาปัจจุบันบนตลาดซื้อขาย โดย Annualized Premium ที่มีมูลค่า 5%-15% จะถูกจัดให้อยู่ในเกณฑ์ที่ดี หรือที่เรียกกันว่า Contango ซึ่งช่องว่างระหว่างราคานี้เกิดจากการที่ผู้ร่วมลงทุนต้องการเงินเพื่อนำมาสำรองใน Statement ให้มากขึ้น และนานขึ้น นอกจากนี้การแจ้งเตือนถึงจุดอันตรายจะเกิดขึ้นเมื่อค่านี้ลดลง หรือเปลี่ยนเป็นค่าลบ หรือ Backwardation
สังเกตได้ว่าราคาที่ลดลงอย่างมากเกิดจากการทดสอบแนวต้านมูลค่า 58,000 ดอลลาร์ ในวันที่ 27 ตุลาคม ที่ผ่านมานั้นทำให้ Annualized Futures Premium แตะระดับต่ำสุดในรอบสามสัปดาห์ โดยปัจจุบันตัวบ่งชี้ก็ได้ฟื้นตัวดีขึ้นถึง 17% ซึ่งถือเป็นส่งสัญญาณถึงตลาดกระทิงในระดับปานกลาง
อย่างไรก็ตามเพื่อยืนยันว่าการเคลื่อนไหวข้างต้นมีความสัมพันธ์กับตัวแปรต่าง ๆ เหล่านั้นหรือไม่ เราจึงควรวิเคราะห์ตลาดออปชั่นเพิ่มเติม เพื่อประกอบการตัดสินใจ
ตัวชี้วัด 25% Delta skew สามารถนำมาใช้เป็นเครื่องมือเทียบปริมาณการซื้อ (Call) และขาย (Put) โดยเราจะใช้ดัชนี Fear & Greed Index มาเป็นตัวชี้วัดอามรณ์ของตลาด ซึ่งจะแบ่งออกเป็น Fear (หวาดกลัว) และ Greed (โลภ) โดยมี Neutral (เป็นกลาง) เป็นจุดกึ่งกลางของตัวชี้วัด ซึ่งตัวชี้วัดสถานการณ์ดังกล่าวระบุว่าออปชั่นการขาย (Put option) มีราคาสูงกว่าออปชั่นการซื้อ (Call option) ที่มีความเสี่ยงที่คล้ายคลึงกัน
การเคลื่อนไหวในทิศทางตรงกันข้ามถูกหยุดไว้เมื่อตลาดการลงทุนมีแนวโน้มเป็นตลาดกระทิง ทำให้ตัวบ่งชี้ 25% Delta skew เปลี่ยนไปยังมูลค่าเชิงลบ ซึ่งค่าที่อ่านได้ระหว่างค่าลบ 8% และค่าบวก 8% ถือว่ามีความเป็นกลาง (Neutral) ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน โดยจุดต่ำสุดล่าสุดเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยมีมูลค่าเป็นลบ 6% ซึ่งไม่เพียงพอที่จะถือว่าเป็นภาวะตลาดกระทิงระดับปานกลาง
อย่างไรก็ตามการปรับฐานของ Bitcoin ที่ 12.5% จากมูลค่า 66,600 ดอลลาร์สหรัฐ ในวันที่ 21 ตุลาคม มาเป็นมูลค่า 58,200 ดอลลาร์สหรัฐ ในวันที่ 28 ตุลาคมนั้น ก็เพียงพอที่จะสร้างความหวาดกลัว (fear) ให้กับนักลงทุนมืออาชีพได้
แม้ว่าจะไม่มีสัญญาณการเพิ่มขึ้นของมูลค่าบิทคอยน์จากตลาดอนุพันธ์ก็ตาม แต่นักลงทุนก็ควรกังวลเกี่ยวกับมูลค่าขาลงที่อาจเกิดขึ้นจากวันที่ 19 ตุลาคมด้วยเช่นเดียวกัน หากการเคลื่อนไหวดังกล่าวได้รับการยืนยันเพิ่มเติม การปรับฐานราคาหลัง Bitcoin มีมูลค่าพุ่งสูงขึ้นถึง 63% ใน 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา นำไปสู่ ATH ที่ 67,000 ดอลลาร์สหรัฐที่อาจจะกลายเป็นแนวต้านภายในวันที่ 12 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้